การสร้างพื้นที่การเรียนรู้ที่ปลอดภัยสำหรับผู้เรียนสังคมสงเคราะห์

Main Article Content

ปุณิกา อภิรักษ์ไกรศรี
นงเยาว์ เนาวรัตน์

บทคัดย่อ

บทความวิจัยนี้เป็นส่วนหนึ่งของการวิจัยเรื่องการเสริมสร้างพลังอำนาจนักปฏิบัติการสังคมสงเคราะห์ในหลักสูตรฝึกอบรมแนวสตรีนิยม โดยผู้วิจัยนำเอาประเด็นข้อค้นพบตามวัตถุประสงค์ข้อที่ 2 มาเขียน คือเพื่อศึกษากระบวนการฝึกอบรมแนวสตรีนิยมสำหรับนักปฏิบัติการสังคมสงเคราะห์ในด้านการเสริมพลังอำนาจ ตลอดจนสังเคราะห์แต่ละกระบวนการถึงเงื่อนไขและข้อถกเถียงด้านการเสริมพลังอำนาจ เป็นการศึกษาวิจัยโดยใช้ระเบียบวิธีวิจัยเชิงคุณภาพบนฐานแนวคิดปรากฏการณ์วิทยา ที่นักวิจัยได้เข้าไปมีส่วนร่วมในหลักสูตรในฐานะผู้เข้าร่วมอบรมที่สังเกตการณ์อย่างมีส่วนร่วม ในหลักสูตรการเสริมสร้างพลังอำนาจแนวสตรีนิยมแก่นักปฏิบัติการสังคมสงเคราะห์ของศูนย์ผู้หญิงเพื่อสันติภาพและความยุติธรรมการศึกษา มีข้อค้นพบเกี่ยวกับการจัดการศึกษาพหุวัฒนธรรมบนฐานการเสริมสร้างพลังอำนาจผู้หญิง ดังนี้ (1) กระบวนการจัดฝึกอบรมของหลักสูตร เน้นสร้างการเรียนรู้บนฐาน “ประสบการณ์” 3 ฐาน ได้แก่ ฐานการคิดวิเคราะห์ ผ่านการแบ่งปันประสบการณ์ ฐานการตระหนักรู้ถึงสภาวะอารมณ์ความรู้สึกภายในของตน และฐานปฏิบัติ ที่ยึดหลักสำคัญคือ “การสร้างความมั่นคงภายใน” โดยใช้ฐานกาย (2) องค์ประกอบของกระบวนการ ได้แก่  “ตน” คือ ผู้เข้าร่วมอบรม “เขา” คือ เพื่อนผู้เข้าร่วมการอบรม “ผู้กระตุ้นสร้างการเรียนรู้” คือ “กระบวนกร” และ “พื้นที่การเรียนรู้” คือการสร้างพื้นที่ให้เป็นการเรียนรู้ตลอดการฝึกอบรม และ (3) การสร้างเส้นทางเรียนรู้ของพลังอำนาจ ได้แก่ การสร้างการเรียนรู้เพื่อการเปลี่ยนแปลง และการสร้างพื้นที่ปฏิบัติการเชิงวิพากษ์ การปฏิรูปเชิงเพศภาวะ รูปแบบกระบวนการเสริมพลังอำนาจสู่การปฏิบัติ (พื้นที่ปฏิบัติการของหลักสูตร) ตลอดจนเงื่อนไขและข้อถกเถียงด้านการเสริมพลังภายใต้การขับเคลื่อนปฏิบัติการของหลักสูตรนั้น ข้อค้นพบดังกล่าวสะท้อนถึงแนวทางการจัดการศึกษาพหุวัฒนธรรมแนวการเสริมสร้างพลังอำนาจที่เชื่อมโยงกับแนวคิดทางเพศภาวะ ข้อท้าทายของการศึกษาครั้งนี้คือ การเพิ่มพูนองค์ความรู้ในขอบเขตการจัดการการศึกษาพหุวัฒนธรรมในแนวทางการเสริมสร้างพลังอำนาจผู้หญิง ที่มีการเชื่อมโยงแนวคิดทางเพศภาวะ และศึกษาแนวทางการเสริมสร้างพลังอำนาจที่ครอบคลุมถึงมิติต่าง ๆ ของพลังอำนาจและการสร้างปฏิบัติการเพื่อยกระดับพลังอำนาจ

Article Details

ประเภทบทความ
บทความวิจัย

เอกสารอ้างอิง

Adams, J. S. (1965). Inequity in social exchange. In L. Berkowitz (Ed.), Advances in Experimental Social Psychology (pp. 267-299). New York: Academic Press.

Carr, E. M., Dewitz, P., & Patberg, J. P. (1983). The Effect of Inference Training on children’s comprehension of expository text. Journal of Reading Behavior, 15(3), 1-18.

Cattaneo, L. B., & Chapman, A. R. (2010). The process of empowerment: A model for use in research and practice. American Psychologist, 65(7), 646-659.

Grosz, E. (1994). Volatile bodies: Toward a corporeal feminism. Sydney: Allen & Unwin.

Gutierrez, L. M., Parsons, R. J., & Cox, E.O. (1998). Empowerment in social work practice. A sourcebook. USA: Brooks/Cole Publishing Co.

Miley, K. K., & Dubois, B. (2009). Ethical preferences for the clinical practice of empowerment social work. Social Work in Health Care, 44(1-2), 29–44.

Nontapattamadul, K. (2006). Critical theory, analysis in social policy and planning. Bangkok:

Thammasat University Press.

Nontapattamadul, K., (2011). Qualitative research in social welfare, paradigms and method of research. Bangkok: Thammasat University Press.

Peterson, S. J., & Bredow, T. S. (2013). Middle range theories: Application to nursing research (3rd ed.). Philadelphia: Wolters Kluwer Health/Lippincott Williams & Wilkins.

Panich. V. (2015). Transformative learning. Bangkok: S.R. Printing Mass Products Co., Ltd.

Sutthinarakorn, W. (2017). Transformative learning and action research (2nd ed.). Bangkok: Siam Survey.

Sutthirat, C. (2014). Curriculum development: Theories to practice. Bangkok: V. PRINT (1991) Co., Ltd.

Wetchayachai, A., (2012). Strengthening the power of social work practices. Bangkok: Thammasat

University Press.