นโยบายการจัดเก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างในพื้นที่กรุงเทพมหานคร พ.ศ. 2562 – 2567
คำสำคัญ:
ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง, การจัดเก็บภาษี, กรุงเทพมหานคร, การนำนโยบายไปปฏิบัติ, การกระจายอำนาจบทคัดย่อ
ดุษฎีนิพนธ์ฉบับนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษา (1) นโยบายการจัดเก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างในกรุงเทพมหานคร พ.ศ. 2562-2567 (2) ปัญหาและอุปสรรคของการดำเนินนโยบาย และ (3) แนวทางการปรับปรุงและแก้ไขปัญหาของนโยบาย โดยใช้กรอบแนวคิดการนำนโยบายสาธารณะไปปฏิบัติ แนวคิดการคลังสาธารณะ และการกระจายอำนาจทางการคลัง รวมถึงแนวคิดภาษีทรัพย์สิน และใช้การวิจัยเชิงคุณภาพ
ผลการศึกษาพบว่า (1) เป็นนโยบายอัตราภาษีแบบก้าวหน้า เปลี่ยนผ่านจากนโยบายภาษีโรงเรือนและที่ดิน ภาษีบำรุงท้องที่มาเป็นภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างภายใต้พระราชบัญญัติภาษีที่ดินและ
สิ่งปลูกสร้าง พ.ศ. 2562 โดยใช้หลักการเก็บภาษีตามมูลค่าทรัพย์สิน และประเภทการใช้ประโยชน์ในทรัพย์สิน มีวัตถุประสงค์เพื่อเพิ่มรายได้ท้องถิ่น เพิ่มความโปร่งใส ความเป็นธรรม กระจายอำนาจทางการคลัง เพิ่มประสิทธิภาพการใช้ประโยชน์จากที่ดิน และ ลดการถือครองทรัพย์สินที่เกินความจำเป็น นโยบายนี้เป็นมาตรการกระตุ้นการใช้ที่ดินโดยเฉพาะการเก็บภาษีที่ดินรกร้างในอัตราสูงช่วยกระตุ้นการนำที่ดินมาใช้ประโยชน์ (2) การดำเนินนโยบายในช่วงเริ่มต้เกิดปัญหาและอุปสรรคสำคัญ ประกอบด้วย ความล่าช้าในการบังคับใช้กฎหมาย การขาดความพร้อมของบุคลากร และการจัดเก็บข้อมูลทรัพย์สินที่ไม่สมบูรณ์
การหลีกเลี่ยงภาษีจากช่องว่างทางกฎหมาย และการกำหนดอัตราภาษีที่ไม่สอดคล้องกับศักยภาพของพื้นที่ ช่องว่างในการจัดเก็บภาษี ได้แก่ การไม่รวมมูลค่าทรัพย์สินทุกแปลงในการคำนวณภาษีแบบขั้นบันได
การบังคับใช้นโยบายในช่วงการระบาดของโควิด-19 ทำให้การจัดเก็บรายได้ลดลง สิ่งที่รัฐบาลดำเนินการแก้ไขคือใช้มาตรการลดภาษีเพื่อบรรเทาผลกระทบต่อประชาชน (3) แนวทางแก้ไข กรุงเทพมหานครสามารถเพิ่มประสิทธิภาพการจัดเก็บภาษีให้ได้ตามเป้าหมายผ่านการปรับปรุงระบบฐานข้อมูลและการบริหารจัดการภายใน ได้แก่ การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อสนับสนุนการจัดเก็บภาษี การมอบรางวัล
เพื่อสร้างแรงจูงใจ และการกำหนดอัตราภาษีที่เหมาะสมตามลักษณะการใช้ที่ดิน ข้อเสนอแนะจากการวิจัย ได้แก่ การปรับเพิ่มอัตราภาษีในพื้นที่ธุรกิจที่มีศักยภาพในการจ่ายสูง ลดมูลค่าทรัพย์สินขั้นต่ำเพื่อครอบคลุมผู้เสียภาษีมากขึ้น รวมถึงการนำหลักการลดหย่อนภาษีสำหรับผู้บริจาคให้กับกรุงเทพมหานคร เพื่อส่งเสริมความร่วมมือและสนับสนุนการจัดเก็บภาษีในระยะยาว ทั้งนี้นโยบายภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างของกรุงเทพมหานครเป็นก้าวสำคัญของการปฏิรูประบบภาษีทรัพย์สินในประเทศไทย แม้ว่าจะมีความท้าทายและข้อจำกัดในระยะเริ่มต้น แต่การปรับปรุงในเชิงโครงสร้างและการจัดการสามารถช่วยเสริมสร้างความเป็นธรรมทางเศรษฐกิจในระยะยาว
เอกสารอ้างอิง
นิภาพรรณ เจนสันติกุล. (2560). การกระจายอำนาจทางการคลัง: ปัญหาและแนวทางแก้ไข สวารสารสถาบันพระปกเกล้า, ปีที่ 15 ฉบับที่ 1มกราคม-เมษายน 2560. หน้า 104-117.
วรเดช จันทรศร. (2548). ทฤษฎีการนำนโยบายสาธารณะไปปฏิบัติ. กรุงเทพฯ: พริกหวานกราฟฟิค.
พิมพ์และปรับปรุงครั้งที่ 8/2565.
สิทธิพันธ์ พุทธหุน. (2541). ทฤษฏีพัฒนาการเมือง PS454 ภาควิชาการปกครอง คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง พิมพ์ครั้งที่ 7 พ.ศ.2541 สำนักพิมพ์มหาวิทยาลัยรามคำแหง http://old-book.ru.ac.th/e-book/p/PS425(51)/PS425-2.pdf
สกล ลีโนทัย. (2563). ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างเพื่อองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น. กรุงเทพฯ: สถาบันพระปกเกล้า. พิมพ์ครั้งที่ 2/2563.
อนุ แย้มแสง. (2566, ตุลาคม 17). รายงานการประชุมคณะกรรมการการกระจายอํานาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นครั้งที่ 3/2566: ระเบียบวาระที 4.1 การชดเชยรายได้ให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถินทีได้รับผลกระทบจากการจัดเก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ของปีงบประมาณ พ.ศ. 2566. สํานักปลัดนายกรัฐมนตรี. https://drive.google.com/file/d/14s_tVkdmRZeZWQRTbbc3xjQC6O9flZnk/view
Musgrave, Richard A., and Peggy B. Musgrave.(1989) Public Finance in Theory and Practice. 5thed. Singapore: McGraw-Hill.
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
ลิขสิทธิ์ (c) 2025 วารสารเอเชียตะวันออกและอาเซียนศึกษา

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
บทความที่ตีพิมพ์ได้ผ่านการพิจารณาจากผู้ทรงคุณวุฒิ ทัศนะและข้อคิดเห็นจาก บทความในวารสารเป็นของผู้เขียน ไม่ถือเป็นความรับผิดชอบของคณะผู้จัดทำและศูนย์การเมือง สังคม และอาณาบริเวณศึกษา การนำบทความในวารสารไปตีพิมพ์ซ้ำต้องได้รับอนุญาตจาก กองบรรณาธิการ