ความต้องการศึกษาต่อหลักสูตรปริญญาเอก สาขาวิชาวิจัยพุทธศาสตร์และปรัชญา มหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย วิทยาเขตอีสาน
คำสำคัญ:
ความต้องการศึกษาต่อ, หลักสูตรปริญญาเอกบทคัดย่อ
การศึกษาความต้องการศึกษาต่อหลักสูตรปริญญาเอก สาขาวิจัยพุทธศาสตร์และปรัชญา มหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย วิทยาเขตอีสาน มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาความต้องการศึกษาต่อหลักสูตรปริญญาเอกสาขาวิจัยพุทธศาสตร์และปรัชญา และศึกษาความต้องการหลักสูตร กลุ่มตัวอย่างเป็นกลุ่มที่คาดหวังว่ามีความต้องการศึกษาต่อในระดับปริญญาเอก สาขาวิจัยพุทธศาสตร์และปรัชญา ทั้งกลุ่มนิสิตนักศึกษา และบุคลากรทั้งภาครัฐและเอกชน จำนวน 385 คน ในพื้นที่ 20 จังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เก็บรวบรวมข้อมูลโดยใช้แบบสำรวจความต้องการ วิเคราะห์ข้อมูลด้วยร้อยละ ค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ผลการวิจัยพบว่า
- ผู้ตอบแบบสำรวจต้องการศึกษาต่อปริญญาเอกร้อยละ 81.6 ส่วนใหญ่เป็นเพศชาย มีสถานภาพเป็นข้าราชการ มีอายุระหว่าง 31 - 40 ปี จบการศึกษาระดับปริญญาโท มีประสบการณ์การทำงานระหว่าง 6 - 10 ปี ส่วนใหญ่ต้องการศึกษาต่อทันที ร้อยละ 56.9 ต้องการแบบแผนการศึกษาที่มีการทำวิทยานิพนธ์และศึกษารายวิชาคิดเป็นร้อยละ 67.30 ต้องการรูปแบบการจัดช่วงเวลาการเรียนการสอนภาคพิเศษวันหยุดราชการ (เสาร์-อาทิตย์) ตั้งแต่ 08.30 - 17.30 น. วางแผนการศึกษาเพื่อทำวิทยานิพนธ์และการศึกษาหลักสูตรคิดเป็นร้อยละ 67.30 ต้องการรูปแบบการจัดการเรียนการสอนแบบบรรยายในชั้นเรียนคิดเป็นร้อยละ 53.80 เชิญอาจารย์พิเศษที่มีชื่อเสียงต่างประเทศมาร่วมสอนคิดเป็นร้อยละ 48.1ศึกษาดูงานทั้งภายในประเทศและต่างประเทศคิดเป็นร้อยละ 91.7 สอบคัดเลือกและสอบสัมภาษณ์คิดเป็นร้อยละ 74.8 ค่าธรรมเนียมการศึกษาแบบเหมาจ่ายแต่แบ่งจ่ายเป็นภาคการศึกษาคิดเป็นร้อยละ 56.9 ห้องทำงานนิสิตพร้อมคอมพิวเตอร์และอินเทอร์เน็ต คิดเป็นร้อยละ 46.2
2. ผู้ตอบแบบสำรวจเห็นด้วยว่าหลักสูตรปริญญาเอกสาขาวิจัยพุทธศาสตร์และปรัชญา มหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย วิทยาเขตอีสาน มีความต้องการพัฒนาขึ้นเพื่อตอบสนองต่อการพัฒนาเจ้าหน้าที่สำนักพุทธศาสนา สำนักวัฒนธรรม และบุคลากรทางพุทธศาสนาในระดับมาก และมีความสำคัญอยู่ในระดับมากเช่นกัน โดยเรียงลำดับความสำคัญจากค่าเฉลี่ยมากไปน้อย ดังนี้ ช่วยพัฒนาสังคม/ประเทศชาติ เป็นการพัฒนาศักยภาพของผู้เรียน ช่วยพัฒนางานในองค์กร/หน่วยงาน และช่วยพัฒนาคุณภาพชีวิตของตนเอง
Additional Files
เผยแพร่แล้ว
ฉบับ
บท
License
เนื้อหาและข้อมูลในบทความที่ตีพิมพ์ในวารสาร ถือเป็นข้อคิดเห็นและความรับผิดชอบของผู้เชียนบทความโดยตรง ซึ่งวารสารไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง นอกจากนั้น ผู้เขียนทุกท่านต้องยืนยันว่าบทความต้นฉบับที่ส่งมาตีพิมพ์เผยแพร่นั้น จะต้องไม่เป็นบทความที่กำลังอยู่ในการพิจารณาเพื่อตีพิมพ์ในวารสารอื่นหรือเคยตีพิมพ์เผยแพร่มาแล้ว หากมีการใช้ภาพ ข้อความหรือตารางของผู้เขียนหรือผู้นิพนธ์ท่านอื่น ผู้เขียนจะต้องอ้างแหล่งที่มาหรือเจ้าของลิขสิทธ์
Publication Ethic:
The detail published in Saeng Isan Journal is opinion and responsibility of the authors, and it is not relevant with the jouranl. Besides, the authors must certify that the original manuscript is not in the process to publish in other journals or used to publish in other journals. If the authors use paragraphs, pictures or tables from others, the athours must refer to the original sources.
Article Consideration:
Each article will be published by a panel three journalists with expertise in relevant fields, and get the editorial approval before publishing. The review is in the form of The article's double blind.
To comply with copyright law. The author must sign the copy of the article submission form to the journal. In addition, the author must confirm that the original article submitted to the journal is only one publication in Saeng Isan Journal. If the images or tables of other authors appearing in other publications are used, the author must ask permission of the copyright owner before publishing.