การจัดการเรียนรู้แบบฝึกปฏิบัติเป็นฐาน
คำสำคัญ:
การพัฒนาทักษะการวิจัย, การเรียนรู้แบบฝึกปฏิบัติเป็นฐาน, รูปแบบการเรียนรู้แบบฝึกปฏิบัติเป็นฐาน, ตัวชี้วัดการเรียนรู้บทคัดย่อ
การพัฒนาทักษะการวิจัยโดยใช้การเรียนรู้แบบฝึกปฏิบัติเป็นฐาน มีวัตถุประสงค์เพื่อรวบรวม วิเคราะห์และประมวลเอกสาร บทความ และงานวิจัยที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาทักษะการวิจัยให้กับนักศึกษาโดยใช้การเรียนรู้แบบฝึกปฏิบัติฐาน ซึ่งเป็นการวิจัยเชิงเอกสาร เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย คือ แบบบันทึกเอกสารที่เกี่ยวข้องกับตัวแปรที่ศึกษา โดยอาศัยบทความทางวิชาการหลักๆ จำนวน 9 บทความ ซึ่งผลของการวิเคราะห์เอกสาร พบว่า ตัวแปรสำคัญที่ต้องคำนึงถึงในการพัฒนาทักษะการวิจัยโดยใช้การเรียนรู้แบบฝึกปฏิบัติเป็นฐาน ประกอบด้วย 5 ประการ คือ 1) ความหมายของการเรียนรู้โดยใช้แบบฝึกปฏิบัติเป็นฐาน 2) องค์ประกอบของการเรียนรู้โดยใช้แบบฝึกปฏิบัติเป็นฐาน 3) รูปแบบการเรียนรู้โดยใช้แบบฝึกปฏิบัติเป็นฐาน 4) ตัวชี้วัดของการเรียนรู้โดยใช้แบบฝึกปฏิบัติเป็นฐาน และ 5) วิธีการประเมินการเรียนรู้แบบฝึกการปฏิบัติเป็นฐาน
References
Burgess, R.G.(2012). The reseach process in educational setting: Ten case studies. New York: The Falmer Press.
Burke, A. E., Benson, B., Englander, R., Caraccio, C. & Hicks, P. J. (2014). Domain of Competence: Practice-based learning and improvement. In ACADEMIC PEDIATICS Journal. 14(2S): S38-S54.
Hayden, S. R., Dufel, S., Shih, R. (2002). Definitions and competencies for practice-based learning and improvement. In ACAD EMERG MED Journal, 9(11): 1242-1247.
Lynch, D.C., Swing, S.R., Horowitz, S. D., Holt, K. & Messer, J. V. (2004). Assessing Practice-based learning and improvement. In Teaching and Learning in Medicine, 16(1): 85-92.
Moore, D. E., Pennington, F.C. (2003). Practice-based learning and improvement. In Journal of Continuing Education in the Health Professions. Volume 23: s73-s80.
Ogrinc, G., Headrick, L. A., Mutha, S., Coleman, M.T., O’Donnell,J & Miles, P. V. (2003). A framework for teaching medical students and residents about practice-based d learning and improvement, synthesized from a literature review. In Academic Medicine Journal. 78(7):748-756.
University of South Australia. (2018). Practice-based learning. สืบค้นเมื่อ 17 พฤษภาคม 2561 จากเว็บไซด์ http://w3.unisa.edu.au/academicdevelopment/engagement/practice.asp.
University of Melbourne. (2010). Helpsheet : The research process. สืบค้นเมื่อ17 พฤษภาคม 2561 จาดเว็บไซด์ www.distance.vic.edu.au/wp/HELPSHEET-The-Research-Process.pdf
Additional Files
เผยแพร่แล้ว
ฉบับ
บท
License
เนื้อหาและข้อมูลในบทความที่ตีพิมพ์ในวารสาร ถือเป็นข้อคิดเห็นและความรับผิดชอบของผู้เชียนบทความโดยตรง ซึ่งวารสารไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง นอกจากนั้น ผู้เขียนทุกท่านต้องยืนยันว่าบทความต้นฉบับที่ส่งมาตีพิมพ์เผยแพร่นั้น จะต้องไม่เป็นบทความที่กำลังอยู่ในการพิจารณาเพื่อตีพิมพ์ในวารสารอื่นหรือเคยตีพิมพ์เผยแพร่มาแล้ว หากมีการใช้ภาพ ข้อความหรือตารางของผู้เขียนหรือผู้นิพนธ์ท่านอื่น ผู้เขียนจะต้องอ้างแหล่งที่มาหรือเจ้าของลิขสิทธ์
Publication Ethic:
The detail published in Saeng Isan Journal is opinion and responsibility of the authors, and it is not relevant with the jouranl. Besides, the authors must certify that the original manuscript is not in the process to publish in other journals or used to publish in other journals. If the authors use paragraphs, pictures or tables from others, the athours must refer to the original sources.
Article Consideration:
Each article will be published by a panel three journalists with expertise in relevant fields, and get the editorial approval before publishing. The review is in the form of The article's double blind.
To comply with copyright law. The author must sign the copy of the article submission form to the journal. In addition, the author must confirm that the original article submitted to the journal is only one publication in Saeng Isan Journal. If the images or tables of other authors appearing in other publications are used, the author must ask permission of the copyright owner before publishing.