ปัจจัยเชิงสาเหตุที่มีอิทธิพลต่อการคงอยู่ของนักศึกษามหาวิทยาลัย มหามกุฏราชวิทยาลัย วิทยาลัยศาสนศาสตร์ยโสธร
คำสำคัญ:
ปัจจัยเชิงสาเหตุที่มีอิทธิพล, การคงอยู่ของนักศึกษา, วิทยาลัยศาสนศาสตร์ยโสธรบทคัดย่อ
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาปัจจัยเชิงสาเหตุและแรงจูงใจในการศึกษาต่อในระดับอุดมศึกษาของนักศึกษามหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยา วิทยาลัยศาสนศาสตร์ยโสธร ที่ส่งผลต่อการคงอยู่ของนักศึกษา และเปรียบเทียบแรงจูงใจในการศึกษาต่อในระดับอุดมศึกษา จำแนกตาม เพศ, อายุ, คณะที่สังกัด, ชั้น/ปี, เกรดเฉลี่ยสะสม, อาชีพของบิดาและมารดา, รายได้ของบิดาและมารดา, การรับรู้ข่าวสาร, คณะที่ต้องการศึกษาต่อมากที่สุด, และเกณฑ์ในการตัดสินใจเลือกศึกษาต่อในคณะนั้น กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ คือ นักศึกษา จำนวน 415 รูป/คน กลุ่มตัวอย่าง จำนวน 196 รูป/คน เก็บรวบรวมข้อมูลโดยใช้แบบสอบถาม (questionnaire) วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติการแจกแจงค่าความถี่ (Frequency) ค่าร้อยละ (Percentage) สถิติหาค่าเฉลี่ย (Mean) ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (Standard deviation) ทดสอบสมมติฐานโดยใช้สถิติ t-test และการทดสอบความแปรปรวนทางเดียว (One-Way ANOVA) ทดสอบความแตกต่างเป็นรายคู่ โดยวิธีของ Scheffé ผลการวิจัย พบว่า
- แรงจูงใจในการศึกษาต่อระดับอุดมศึกษาของนักศึกษาโดยรวมทุกด้านอยู่ในระดับมาก โดยมีค่าเฉลี่ยแต่ละด้านเรียงตามลำดับ คือ เหตุผลส่วนตัว ปัจจัยทางเศรษฐกิจ ภาพลักษณ์ของสถาบัน ปัจจัยทางสังคม และบุคคลที่เกี่ยวข้อง
- ผลการทดสอบแต่ละด้าน มีดังต่อไปนี้
2.1 นักศึกษาที่มีเพศแตกต่างกัน มีแรงจูงใจในการศึกษาต่อระดับอุดมศึกษาโดยรวมและเป็นรายด้าน ไม่แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05
2.2 นักศึกษาที่มีเกรดเฉลี่ยระหว่าง 3.00 – 4.00 มีแรงจูงใจในการศึกษาต่อระดับอุดมศึกษาอยู่ในระดับมากกว่ากลุ่มอื่น ๆ อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05
2.3 นักศึกษาที่บิดามีอาชีพรับราชการ/รัฐวิสาหกิจ มีแรงจูงใจในการศึกษาต่อระดับอุดมศึกษาแตกต่างกันกับนักเรียนที่บิดามีอาชีพค้าขาย และอาชีพรับจ้าง ไม่พบความแตกต่างระหว่างอาชีพของมารดากับแรงจูงใจในการศึกษาต่อระดับอุดมศึกษาอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05
2.4 นักศึกษาที่บิดามีรายได้ต่อเดือนต่ำกว่า 5,000 บาท มีแรงจูงใจในการศึกษาต่อมากกว่านักเรียนที่บิดามีรายได้ต่อเดือนมากกว่า 15,000 บาท และนักศึกษาที่มารดามีรายได้ต่อเดือน 5,001 - 10,000 บาท มีแรงจูงใจในการศึกษาต่อมากกว่านักศึกษาที่มารดามีรายได้ต่อเดือน 10,001 - 15,000 บาท อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05
References
มัธยมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนขยายโอกาสทางการศึกษา สังกัดสานักงานการ
ประถมศึกษาจังหวัดร้อยเอ็ด กับโรงเรียนมัธยมศึกษา สังกัดสานำนักงานสามัญ
จังหวัดร้อยเอ็ด. รายงานการศึกษาค้นคว้าอิสระการศึกษา มหาบัณฑิต มหาสารคาม :
มหาวิทยาลัยมหาสารคาม.
จรูญ แสงสาคร (2533) พระบรมราโชวาทในพิธีพระราชทานปริญญาบัตรของมหาวิทยาลัยมหิดล
วันพฤหัสบดีที่ 5 กรกฎาคม 2533
ชาญวิทย์ กลิ่นเลขา. (2539). ปัจจัยที่มีผลต่อการเลือกเรียนอาชีวศึกษาในโรงเรียนมัธยมศึกษาของ
นักเรียนมัธยมศึกษาปีที่ 3 ในจังหวัดสมุทรสงคราม. วิทยานิพนธ์ครุศาสตร์
อุตสาหกรรมมหาบัณฑิต บัณฑิตวิทยาลัย สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้า-
เจ้าคุณทหารลาดกระบัง.
ดาว สมศรีโหน่ง. (2540). การศึกษามูลเหตุจูงใจนักเรียน ประกาศนียบัตรวิชาชีพประเภทวิชาช่าง
อุตสาหกรรมต่อการศึกษาต่อระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง. วิทยานิพนธ์
ครุศาสตร์อุตสาหกรรมมหาบัณฑิต สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้า
เจ้าคุณทหารลาดกระบัง.
ทวีศักดิ์ เบ้าหล่อเพชร. (2541). องค์ประกอบที่มีผลต่อการเรียนอาชีวศึกษาในโรงเรียนเอกชน
อาชีวศึกษา จังหวัดอุดรธานี. วิทยานิพนธ์ครุศาสตร์ อุตสาหกรรมมหาบัณฑิต
บัณฑิตวิทยาลัย สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง.
นรินทร์ สมสมัย. (2542). แรงจูงใจการเข้าเรียนการศึกษานอกโรงเรียนสามัญ วิธีเรียนแบบ
ทางไกลระดับมัธยมศึกษาตอนปลายของผู้ใช้แรงงานในโรงงานอุตสาหกรรม
จังหวัดนครราชสีมา. วิทยานิพนธ์การศึกษามหาบัณฑิต: มหาวิทยาลัยมหาสารคาม.
เบ็ญจาภา สุธะพินทุ (2536) สำนักนโยบายและแผนการศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม
กระทรวงศึกษาธิการ
เปรมชัย สโรมล, พันโท. (2542). เหตุจูงใจในการศึกษาต่อโรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้าของ
นักเรียนเตรียมทหาร. ปริญญานิพนธ์การศึกษา มหาบัณฑิต มหาวิทยาลัย
ศรีนครินทรวิโรฒ ประสานมิตร.
สายสมร สร้อยอินต๊ะ และ กัลยา ธรรมพงษา. (2533). ความต้องการและความคาดหวังของ
นักเรียนและผู้ปกครองที่เกี่ยวข้องกับการศึกษาต่อระดับอุดมศึกษาของนักเรียน.
วารสารวิจัยเพื่อพัฒนา.
สุมาลี จุลเจิม. (2540). แรงจูงใจในการเลือกประกอบอาชีพของนักศึกษาระดับประกาศนียบัตร
วิชาชีพชั้นสูง(ปวส.)วิทยาลัยพาณิชยการ สังกัดกรมอาชีวศึกษาในกรุงเทพมหานคร.
ปริญญานิพนธ์การศึกษามหาบัณฑิต บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยมหิดล.
สุวพันธ์ พงษ์บริบูรณ์. (2545). แรงจูงใจที่นักศึกษาเข้าศึกษาต่อในระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพ
ชั้นสูง สาขาวิชาช่างอิเล็กทรอนิกส์ใน จังหวัดขอนแก่น. วิทยานิพนธ์ครุศาสตร
อุตสาหกรรมมหาบัณฑิต สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง.
อุไรวรรณ โพธิเวชเทวัญ. (2539). สิ่งจูงใจในการเลือกเรียนหลักสูตรธุรกิจศึกษาของนิสิตระดับ
ปริญญาตรี ในสถาบันอุดมศึกษา กรุงเทพมหานคร. ปริญญานิพนธ์การศึกษา
มหาบัณฑิต : บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ประสานมิตร.
เอนก ชิตเกษร. (2542). มูลเหตุจูงใจในการตัดสินใจเลือกศึกษาคณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัย-
พายัพ. คณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยพายัพ : เชียงใหม่.
Best, John W. (1981). Research in Education. 4th ed. New Jersey: Prentice-Hall, Inc.
https://www.posttoday.com/politic/report/561856 (สืบค้นเมื่อ 24 สิงหาคม 2561)
Additional Files
เผยแพร่แล้ว
ฉบับ
บท
License
เนื้อหาและข้อมูลในบทความที่ตีพิมพ์ในวารสาร ถือเป็นข้อคิดเห็นและความรับผิดชอบของผู้เชียนบทความโดยตรง ซึ่งวารสารไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง นอกจากนั้น ผู้เขียนทุกท่านต้องยืนยันว่าบทความต้นฉบับที่ส่งมาตีพิมพ์เผยแพร่นั้น จะต้องไม่เป็นบทความที่กำลังอยู่ในการพิจารณาเพื่อตีพิมพ์ในวารสารอื่นหรือเคยตีพิมพ์เผยแพร่มาแล้ว หากมีการใช้ภาพ ข้อความหรือตารางของผู้เขียนหรือผู้นิพนธ์ท่านอื่น ผู้เขียนจะต้องอ้างแหล่งที่มาหรือเจ้าของลิขสิทธ์
Publication Ethic:
The detail published in Saeng Isan Journal is opinion and responsibility of the authors, and it is not relevant with the jouranl. Besides, the authors must certify that the original manuscript is not in the process to publish in other journals or used to publish in other journals. If the authors use paragraphs, pictures or tables from others, the athours must refer to the original sources.
Article Consideration:
Each article will be published by a panel three journalists with expertise in relevant fields, and get the editorial approval before publishing. The review is in the form of The article's double blind.
To comply with copyright law. The author must sign the copy of the article submission form to the journal. In addition, the author must confirm that the original article submitted to the journal is only one publication in Saeng Isan Journal. If the images or tables of other authors appearing in other publications are used, the author must ask permission of the copyright owner before publishing.