A การศึกษาเปรียบเทียบจริยศาสตร์ในศาสนาสากล
คำสำคัญ:
จริยศาสตร์ ศาสนาสากลบทคัดย่อ
บทคัดย่อ
การศึกษาวิจัยเรื่อง “การศึกษาเปรียบเทียบจริยศาสตร์ในศาสนาสากล” มีวัตถุประสงค์ 3 ประการ คือ 1) เพื่อศึกษาหลักการทางจริยศาสตร์ในพระพุทธศาสนา และศาสนาคริสต์ 2) เพื่อศึกษาวิเคราะห์เปรียบเทียบให้เห็นถึงหลักทางจริยศาสตร์ เกณฑ์ตัดสินความดี-ความชั่ว ในพระพุทธศาสนา และศาสนาคริสต์ 3) เพื่อศึกษาวิเคราะห์เปรียบเทียบในแง่ความคล้ายคลึงกันหรือแตกต่างกันทางจริยศาสตร์ของ 2 ศาสนา พระพุทธศาสนา และศาสนาคริสต์ งานวิจัยนี้เป็นการวิจัยเชิงคุณภาพโดยศึกษาจากเอกสารปฐมภูมิและทุติยภูมิมาศึกษาวิเคราะห์เปรียบเทียบ แล้วนำเสนอผลการวิจัยด้วยวิธี วิเคราะห์เป็นแบบพรรณนา
ผลการวิจัย พบว่า
1) หลักพุทธจริยศาสตร์นั้นตามหลักการของพระพุทธศาสนามีหลักสัจธรรมที่ปรากฏในพระไตรปิฎก ซึ่งสามารถแบ่งออกได้เป็น 2 ส่วน คือ 1) ธรรมที่เป็นกฎเกณฑ์ข้อเท็จจริงทางธรรมชาติที่พระพุทธองค์ทรงค้นพบว่ามีอยู่ในธรรมชาติของสรรพสิ่งคือกฎแห่งความเป็นเหตุและผลที่เรียกว่า “หลักปฏิจจสมุปบาท” ที่สรรพสิ่งล้วนเกิดจากสภาพที่ต้องอาศัยเหตุปัจจัยจึงเกิดขึ้น 2) สัจธรรมที่เป็นกฎเกณฑ์ข้อเท็จจริงทางสังคมที่พระพุทธเจ้าทรงนำมาบัญญัติแล้วแนะนำอบรมสั่งสอนอุบาสก อุบาสิกา ประชาชนในโลกนี้ เพื่อให้อยู่ร่วมกันอย่างสุข สงบ ซึ่งหลักบัญญัตินี้เรียกว่า “หลักศีลธรรมหรือหลักจริยธรรม” ส่วนหลักจริยศาสตร์ของศาสนาคริสต์ ได้แก่ บัญญัติ 10 ประการ ประกอบด้วย 1. ห้ามนับถือพระเจ้าอื่น นอกจากพระยโฮวา 2. ห้ามบูชารูปเคารพ 3. ห้ามเอ่ยนามพระผู้เป็นเจ้าโดยขาดความเคารพ 4. ต้องทำงานให้เสร็จภายใน 6 วัน เว้นวันอาทิตย์ (วันหยุด) 5. จงเคารพนับถือบิดามารดาของเจ้า 6. ห้ามฆ่ามนุษย์ 7. อย่าล่วงประเวณี 8. อย่าลักขโมย 9. อย่าเป็นพยานเท็จต่อเพื่อนบ้าน 10. อย่าโลภเอาของเพื่อนบ้านมาเป็นของตน
2) เกณฑ์ตัดสินความดี-ความชั่ว ในพระพุทธศาสนา และศาสนาคริสต์ ในทางพุทธศาสนาถือว่าดีชั่วเป็นสิ่งตายตัว เกณฑ์ตัดสินความดีความชั่วใช้กฎแห่งกรรมและหลักจริยธรรมพื้นฐานแห่งความเป็นมนุษย์คือศีล 5 เป็นมาตรฐานในการตัดสินโดยมีความเชื่อพื้นฐานว่าทำดีได้ดีทำชั่วได้ชั่ว ศาสนาคริสต์เชื่อว่าพระเป็นเจ้าเป็นต้นกำเนิดและเป็นแม่แบบทางจริยธรรมของมนุษย์ เกณฑ์ตัดสินความดีความชั่วใช้มาตรฐานที่พระเป็นเจ้าได้กำหนดเป็นแนวทางหรือทางแห่งการดำเนินชีวิต พระเป็นเจ้าเป็นผู้ตัดสินการกระทำของมนุษย์โดยมีหลักสำคัญว่า พระเป็นเจ้ามองดูที่น้ำใจมากกว่าผลของการกระทำ ศาสนาคริสต์มีเกณฑ์สำหรับวินิจฉัยความดี ความชั่ว ความถูก ความผิด ตามหลักเกณฑ์ของศาสนาคริสต์มี 3 อย่างคือ (1) เจตนำที่ตรงกับความดีหรือพระเจ้ามองดูที่น้ำใจของผู้กระทำ (2) พระคัมภีร์เก่า สาระสำคัญเกี่ยวกับเกณฑ์ตัดสินจริยธรรมตามนัยแห่งคัมภีร์เก่า ได้แก่ บัญญัติ 10 ประการ ดังนั้น พฤติกรรมใดสอดคล้องหรือไม่ขัดกับบัญญัติ 10 ประการ พฤติกรรมนั้นจัดเป็นพฤติกรรมที่ถูกต้อง และ (3) พระคัมภีร์ใหม่ สาระสำคัญของพระคัมภีร์ใหม่คือ ความรัก อันได้แก่ความรักพระเจ้า ดังพระวจนะของพระเยซูว่า “จงรักพระเจ้าของท่านอย่างสุดจิตสุดใจ” และความรักระหว่างมนุษย์กับมนุษย์ ดังพระวจนะของพระเยซูว่า “จงรักเพื่อนบ้านเหมือนรักตนเอง” พฤติกรรมที่ขัดแย้งกับหลักเกณฑ์นี้ย่อมเป็นพฤติกรรมที่ไม่ดี
3) ผลวิเคราะห์เปรียบเทียบในแง่ความคล้ายคลึงกันหรือแตกต่างกันทางจริยศาสตร์ของ 2 ศาสนา ได้แก่ พระพุทธศาสนา และศาสนาคริสต์ พบว่า หลักคำสอนและแนวคิดของศาสดา และนักปราชญ์ทั้งหลายที่กล่าวมาแล้ว ล้วนมีจุดมุ่งหมายอย่างเดียวกัน คือให้มนุษย์กระทำความดี ละเว้นความชั่ว ให้ปฏิบัติต่อกันอย่างมีคุณธรรม ไม่เบียดเบียนซึ่งกันและกัน ให้อยู่ร่วมกันอย่างมีความสันติสุข การศึกษาคุณธรรมจริยธรรม จะต้องศึกษาถึงที่มา หลักการ แนวคิดทางศาสตร์ของจริยธรรมที่มนุษย์ได้ศึกษา และปฏิบัติกันมาตั้งแต่โบราณ เพราะแนวคิดหลักการเหล่านี้เป็นพื้นฐานของความเข้าใจในคุณธรรมจริยธรรม ซึ่งทุกศาสนามีความเป็นเอกลักษณ์แตกต่างกันไป อันเป็นที่มาของความเชื่อ และพฤติกรรมที่แสดงออกของคนในกลุ่มต่างกันด้วย เป็นการช่วยให้มนุษย์ต่างชาติต่างเผ่าพันธุ์มีความเข้าใจซึ่งกันและกัน อันเป็นผลให้เกิดความผาสุกในมวลมนุษยชาติ
References
2548.
สุจิตรา อ่อนค้อม. ศาสนาเปรียบเทียบ. กรุงเทพฯ : สำนักพิมพ์ดวงแก้ว, 2545.
สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ. แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม
แห่งชาติ ฉบับที่สิบเอ็ด พ.ศ. 2555 – 2559. กรุงเพทฯ : สำนักนายกรัฐมนตรี, 2554.
สำนักงานคณะกรรมการการวิจัยแห่งชาติ. นโยบายและยุทธศาสตร์การวิจัยของชาติ ฉบับที่ 8
พ.ศ.2555-2559. กรุงเทพฯ : โรงพิมพ์ชุมนุมสหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศไทย, 2554.
Additional Files
เผยแพร่แล้ว
ฉบับ
บท
License
เนื้อหาและข้อมูลในบทความที่ตีพิมพ์ในวารสาร ถือเป็นข้อคิดเห็นและความรับผิดชอบของผู้เชียนบทความโดยตรง ซึ่งวารสารไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง นอกจากนั้น ผู้เขียนทุกท่านต้องยืนยันว่าบทความต้นฉบับที่ส่งมาตีพิมพ์เผยแพร่นั้น จะต้องไม่เป็นบทความที่กำลังอยู่ในการพิจารณาเพื่อตีพิมพ์ในวารสารอื่นหรือเคยตีพิมพ์เผยแพร่มาแล้ว หากมีการใช้ภาพ ข้อความหรือตารางของผู้เขียนหรือผู้นิพนธ์ท่านอื่น ผู้เขียนจะต้องอ้างแหล่งที่มาหรือเจ้าของลิขสิทธ์
Publication Ethic:
The detail published in Saeng Isan Journal is opinion and responsibility of the authors, and it is not relevant with the jouranl. Besides, the authors must certify that the original manuscript is not in the process to publish in other journals or used to publish in other journals. If the authors use paragraphs, pictures or tables from others, the athours must refer to the original sources.
Article Consideration:
Each article will be published by a panel three journalists with expertise in relevant fields, and get the editorial approval before publishing. The review is in the form of The article's double blind.
To comply with copyright law. The author must sign the copy of the article submission form to the journal. In addition, the author must confirm that the original article submitted to the journal is only one publication in Saeng Isan Journal. If the images or tables of other authors appearing in other publications are used, the author must ask permission of the copyright owner before publishing.