การศึกษาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและเจตคติในการเรียนการสอน วิชาพรรคการเมือง กลุ่มผลประโยชน์ และการเลือกตั้ง ของนักศึกษาชั้นปีที่ 2
การศึกษาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและเจตคติในการเรียนการสอน วิชาพรรคการเมือง กลุ่มผลประโยชน์ และการเลือกตั้ง ของนักศึกษาชั้นปีที่ 2
บทคัดย่อ
การพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน และเจตคติทางการเรียนวิชาพรรคการเมือง กลุ่มผลประโยชน์ และการเลือกตั้งของนักศึกษาชั้นปีที่ 2 มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนที่มีต่อการเรียนการสอน วิชาพรรคการเมือง กลุ่มผลประโยชน์ และการเลือกตั้ง ของนักศึกษาชั้นปีที่ 2 ระหว่างก่อนเรียนและหลังเรียน 2) เปรียบเทียบเจตคติที่มีต่อการเรียนการสอน วิชาพรรคการเมือง กลุ่มผลประโยชน์ และการเลือกตั้ง ของนักศึกษาชั้นปีที่ 2 ระหว่างก่อนเรียนและหลังเรียน กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ เป็นนักศึกษาชั้นปีที่ 2 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2560 สาขาวิชารัฐศาสตร์การปกครอง คณะสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย วิทยาเขตมหาวชิราลงกรณราชวิทยาลัย นักศึกษา 1 ห้อง จำนวน 31 รูป/คน ซึ่งได้มาจากการเลือกแบบเจาะจง (Purposive Sampling) เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ชนิด 4 ตัวเลือกจำนวน 30 ข้อ ที่มีความยาก (p) อยู่ระหว่าง 0.513 ถึง 0.771 ค่าอำนาจจำแนก (r) ตั้งแต่ 0.403 ถึง 0.665 ค่าความเชื่อมั่น โดยใช้สัมประสิทธิ์แอลฟา (Alpha Coefficient) ตามวิธีของครอนบาค (Cronbach) ได้ค่าความเชื่อมั่นเท่ากับ 0.93 และแบบวัดเจตคติ เป็นแบบมาตราส่วนประมาณค่า (Rating Scale) ตามวิธีของลิเคอร์ท (Likert) ซึ่งมี 5 ระดับ จำนวน 25 ข้อ มีค่าอำนาจจำแนก ตั้งแต่ 0.62 ถึง 0.84 ค่าความเชื่อมั่น โดยใช้สัมประสิทธิ์แอลฟา (Alpha Coefficient) ตามวิธีของครอนบาค (Cronbach) ได้ค่าความเชื่อมั่นเท่ากับ 0.96 สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าเฉลี่ย (Mean) ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (Standard Deviation) และการทดสอบสมมุติฐานด้วย Paired t–test
ผลการวิจัยปรากฏดังนี้
- นักศึกษาชั้นปีที่ 2 ที่เรียนวิชาพรรคการเมือง กลุ่มผลประโยชน์ และการเลือกตั้ง มีคะแนนเฉลี่ยผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญที่ระดับ .01
- นักศึกษาชั้นปีที่ 2 ที่เรียนวิชาพรรคการเมือง กลุ่มผลประโยชน์ และการเลือกตั้งมีคะแนนเฉลี่ยเจตคติทางการเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญที่ระดับ .01
โดยสรุป การจัดกิจกรรมการสอนวิชาพรรคการเมือง กลุ่มผลประโยชน์ และการเลือกตั้งของนักศึกษาชั้นปีที่ 2 มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน และเจตคติทางการเรียนสูงขึ้น จึงควรส่งเสริมสนับสนุนให้อาจารย์ผู้สอนนำไปใช้ในการจัดการเรียนการสอน เพื่อให้ผู้เรียนบรรลุผลตามจุดประสงค์ของรายวิชาต่อไป
References
บริหารศาสตร์ปีการศึกษา 2554. รายงานการวิจัย. สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์, 2556.
ปรียาพร วงศ์อนุตรโรจน์. จิตวิทยาการศึกษา. กรุงเทพมหานคร : พิมพ์ดี, 2546.
ไพฑูรย์ สินลารัตน์. นวัตกรรมการจัดหลักสูตรวิชาศึกษาทั่วไปในมหาวิทยาลัยไทย. รายงานการวิจัย.
กรุงเทพมหานคร : สำนักพิมพ์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, 2549.
มาณี ไชยธีรานุวัฒศิริ. หอพักกับการพัฒนานิสิตนักศึกษาระดับอุดมศึกษา. รายงานการวิจัย.
กรุงเทพมหานคร : สำนักงานปลัดทบวงมหาวิทยาลัย, 2543.
ล้วน สายยศ และอังคณา สายยศ. การวัดด้านจิตพิสัย. กรุงเทพมหานคร : สุวีริยาสาส์น. 2543.
วัลลภา เทพหัสดิน ณ อยุธยา. การเลือกวิธีการสอนระดับอุดมศึกษา. ข่าวสารวิชาการ. คณะเภสัช
ศาสตร์ : มหาวิทยาลัยเชียงใหม่, 2551.
สมนึก ภัททิยธนี. การวัดผลการศึกษา. พิมพ์ครั้งที่ 4. กาฬสินธุ์ : ประสานการพิมพ์, 2546 ก.
. เทคนิคการสอนและรูปแบบการเขียนข้อสอบแบบเลือกตอบวิชาคณิตศาสตร์เบื้องต้น.
มหาสารคาม : คณะศึกษาศาสตร์มหาวิทยาลัยมหาสารคาม, 2546 ข.
Additional Files
เผยแพร่แล้ว
ฉบับ
บท
License
เนื้อหาและข้อมูลในบทความที่ตีพิมพ์ในวารสาร ถือเป็นข้อคิดเห็นและความรับผิดชอบของผู้เชียนบทความโดยตรง ซึ่งวารสารไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง นอกจากนั้น ผู้เขียนทุกท่านต้องยืนยันว่าบทความต้นฉบับที่ส่งมาตีพิมพ์เผยแพร่นั้น จะต้องไม่เป็นบทความที่กำลังอยู่ในการพิจารณาเพื่อตีพิมพ์ในวารสารอื่นหรือเคยตีพิมพ์เผยแพร่มาแล้ว หากมีการใช้ภาพ ข้อความหรือตารางของผู้เขียนหรือผู้นิพนธ์ท่านอื่น ผู้เขียนจะต้องอ้างแหล่งที่มาหรือเจ้าของลิขสิทธ์
Publication Ethic:
The detail published in Saeng Isan Journal is opinion and responsibility of the authors, and it is not relevant with the jouranl. Besides, the authors must certify that the original manuscript is not in the process to publish in other journals or used to publish in other journals. If the authors use paragraphs, pictures or tables from others, the athours must refer to the original sources.
Article Consideration:
Each article will be published by a panel three journalists with expertise in relevant fields, and get the editorial approval before publishing. The review is in the form of The article's double blind.
To comply with copyright law. The author must sign the copy of the article submission form to the journal. In addition, the author must confirm that the original article submitted to the journal is only one publication in Saeng Isan Journal. If the images or tables of other authors appearing in other publications are used, the author must ask permission of the copyright owner before publishing.