ผลของการให้การปรึกษารายกลุ่มแบบผสมผสานต่อพฤติกรรมการหยุดดื่มสุรา
คำสำคัญ:
สุรา, การให้คำปรึกษากลุ่มแบบผสมผสาน, พฤติกรรมการหยุดดื่มสุราบทคัดย่อ
บทความวิจัยนี้ มีความมุ่งหมายของการวิจัย เพื่อศึกษาผลของการให้การปรึกษารายกลุ่ม
แบบผสมผสานต่อพฤติกรรมการหยุดดื่มสุรา ในการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการดื่มสุราของผู้ป่วย หลังได้รับการทดลองแล้ว ว่าจะสามารถใช้ศักยภาพของตนเอง มาจัดการแก้ไขปัญหาการดื่มสุราได้หรือไม่ โดยเปรียบเทียบผลก่อนและหลังเข้าร่วมทดลองกลุ่ม และระยะติดตามผลหลังให้โปรแกรมการให้คำปรึกษา เป็นการศึกษาวิจัยแบบทดลอง ประชากรกลุ่มตัวอย่างคือ ผู้ป่วยสุราระยะฟื้นฟูสมรรถภาพแบบผู้ป่วยใน จำนวน 10 ราย คัดเลือกมาแบบเจาะจง เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยคือ 1. โปรแกรมกลุ่มการให้การปรึกษารายกลุ่ม แบบผสมผสานต่อพฤติกรรมการหยุดดื่มสุรา โดยผู้วิจัยพัฒนามาจาก 3 แนวคิด คือแนวคิดการปรึกษาเชิงการรู้คิด และพฤติกรรม แนวคิดการเสริมสร้างแรงจูงใจ และแนวคิดการเสริมพลังอำนาจ มีกิจกรรมกลุ่มจำนวน 7 ครั้ง 2.เครื่องมือเก็บรวบรวมข้อมูล มี 2 ส่วนข้อมูลส่วนที่1.คือข้อมูลส่วนบุคคล และส่วนที่ 2. คือแบบประเมินพฤติกรรมการหยุดดื่มสุรา มีค่าความเที่ยงตรงเชิงเนื้อหาอยู่ระหว่าง เท่ากับ .83 สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล Freidman Test และใช้สถิติเชิงพรรณนา วิเคราะห์ข้อมูลทั่วไป
ผลการศึกษาพบว่าก่อนให้คำปรึกษาความสามารถใช้ศักยภาพในการจัดการปัญหาการดื่ม เท่ากับ 131.60 คะแนน หลังการทดลองมีคะแนน เท่ากับ 153.90 มีคะแนนที่แตกต่างกัน ที่สูงกว่าก่อนได้รับโปรแกรมการให้คำปรึกษารายกลุ่มแบบผสมผสาน อย่างมีนัยยะสำคัญทางสถิติ ที่ระดับ .05 หลังจากจบโปรแกรม มีการนัดติดตามผลผู้ป่วยจำนวน 3 ครั้ง นัดครั้งที่ 1 มีผลการประเมินคะแนนพฤติกรรมการหยุดดื่มอยู่ที่ 153.40 คะแนน ครั้งที่ 2 ผลคะแนนพฤติกรรมการหยุดดื่มสุราคือ 149.20 คะแนน ครั้งที่ 3 มีผลคะแนนพฤติกรรมการหยุดดื่มคือ 166.10 คะแนน ซึ่งเป็นผลคะแนนที่สูงขึ้น มากกว่าคะแนนในช่วงคะแนนก่อนและหลังการทดลองโปรแกรม อย่างมีนัยยะสำคัญที่ระดับ (p=.011)
เอกสารอ้างอิง
จรรยา ใจหนุน .(2551). ผลของโปรแกรมการบำบัดทางความคิดและพฤติกรรมต่อพฤติกรรมการดื่มแอลกอฮอล์ของผู้ติดสุราโรงพยาบาลสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชจังหวัดตาก.วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต, สาขาวิชาการพยาบาลสุขภาพจิตและจิตเวช, คณะพยาบาลศาสตร,มหาวิทยาลัยเชียงใหม่.
ณิชชา หนักแน่น .(2556). การใช้โปรแกรมการบำบัดทางความคิดและพฤติกรรมในผู้ดื่มสุรา. สารนิพนธ์พยาบาลศาสตรมหาบัณฑิต สาขาการพยาบาลสุขภาพจิตและจิตเวช โรงเรียนพยาบาลรามาธิบดี คณะแพทยศาสตรโรงพยาบาลรามาธิบดีบัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยมหิดล
ดรุณี ภู่ขาว . (2555). การบำบัดผู้ติดสุราและสารเสพติดด้วยการปรับเปลี่ยนความคิดและพฤติกรรม. กรุงเทพฯ: วนิดาการพิมพ์กรุงเทพมหานคร: โรงพิมพ์มติชน.
นรากร สารีแหล้. (2561). ความทรงจำในผู้ป่วยสุราที่มีภาวะติดสุราเรื้อรัง. วารสารการพยาบาลและการดูแล, วิทยาลัยวิทยาการวิจัย และวิทยาการปัญญา มหาวิทยาลัยบูรพา ปีที่ 36 ฉบับที่ 2 ประจำเดือนเมษายน-มิถุนายน 2561,หน้า16-17.
นันทา ชัยพิชิตพันธ์. (2554). การบำบัดเพื่อเสริมสร้างแรงจูงใจ: ทางเลือกเพื่อช่วยเหลือผู้ป่วยเสพติด.ธรรมศาสตร์เวชสาร, ปีที่13 ฉบับที่1 ประจำเดือนมกราคม-มีนาคม 2556,หน้า1-22.
บรรจงจิตต์ พันธุ์ทอง (2557). ผลของโปรแกรมการเสริมสร้างพลังแห่งตน ร่วมกับการสนับสนุนครอบครัว
ต่อพฤติกรรมการไม่เสพยาซ้ำในผู้ป่วยเสพติดยาบ้า สถาบันธัญญารักษ์. วารสารวิชาการสาธารณสุข, ปีที่ 23 ฉบับที่1 ประจำเดือนมกราคม- กุมภาพันธ์ 2557,หน้า 61-68
พิชัย แสงชาญชัย และคณะ. (2561). การให้คำปรึกษาและการบำบัดเพื่อเสริมสร้างแรงจูงใจในผู้ป่วยที่มี ปัญหาการดื่มสุรา: คู่มือสำหรับผู้อบรม. สืบค้นจาก https://www.academia.edu/4726668/,สืบค้นเมื่อวันที่ 3 มกราคม 2567.
เพ็ญพักตร์ ดารากร ณ อยุธยา. (2556). ความสำเร็จในการเลิกสุราของผู้ป่วยสุราที่มีโรคร่วมทางจิตเวช. วารสารการพยาบาลจิตเวชและสุขภาพจิต, ปีที่ 27 ฉบับที่ 1 ประจำเดือน มกราคม - เมษายน 2556, หน้า 1-15.
พรทิพย์ คงสัตย์. (2556).การพัฒนาโปรแกรมเสริมสร้างพลังอำนาจต่อการจัดการพฤติกรรมการดื่มสุราของผู้ป่วยโรคติดสุราระยะหลังพ้นภาวะถอนพิษสุรา. วารสารการพยาบาลจิตเวชและสุขภาพจิต, ปีที่ 27 ฉบับที่ 1 ประจำเดือนมกราคม-เมษายน 2556 ,หน้า 45-61.
ภุชพงค์ โนดไธสง. (2560). สำนักงานสถิติแห่งชาติ เผยผลสำรวจพฤติกรรมการดื่มสุรา พ.ศ. 2560. สืบค้นจาก https://www.nso.go.th/nsoweb/view_content/eNz, สืบค้นเมื่อ3 มกราคม 2567.
สุกุมา แสงเดือนฉาย. (2553). ผลของโปรแกรมการบำบัดความคิดและพฤติกรรมร่วมกับแรงสนับสนุนทาง สังคมที่มีต่อความพร้อมที่จะป้องกันการติดซ้ำและพฤติกรรมการไม่ติดซ้ำของผู้ป่วยสุรา. ปริญญานิพนธ์ วิทยาศาสตรดุษฎีบัณฑิต, สาขาวิชาการวิจัยพฤติกรรมศาสตร์ประยุกต์, สถาบันวิจัยพฤติกรรมศาสตร์,มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ.
อมร สุวรรณนิมิต, (2553). การพยาบาลปฐมภูมิกับการสร้างเสริมพลังอำนาจชุมชน. มหาสารคาม: โรงพิมพ์ คณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม.
Corey, G. (2004). Theory and paretic of counseling & psycho theory.Retrieved from https://perpus.univpancasila.ac.id/repository/EBUPT190498.pdf, Accessed on 3rdJanuary 2024.
Toseland, R. W., & Smith, T. L. (2006). The Impact of a Caregiver Health Education Program on Health Care Costs. Research on Social Work Practice, 16(1), Retrieved from https://doi.org/10.1177/1049731505276045, Accessed on 4th January 2024.
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
ลิขสิทธิ์ (c) 2025 วารสารวิชาการแสงอีสาน Saeng-Isan Academic Journal ISSN:3027-6152(Print), ISSN:3027-6160(Online)

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
เนื้อหาและข้อมูลในบทความที่ตีพิมพ์ในวารสาร ถือเป็นข้อคิดเห็นและความรับผิดชอบของผู้เชียนบทความโดยตรง ซึ่งวารสารไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง นอกจากนั้น ผู้เขียนทุกท่านต้องยืนยันว่าบทความต้นฉบับที่ส่งมาตีพิมพ์เผยแพร่นั้น จะต้องไม่เป็นบทความที่กำลังอยู่ในการพิจารณาเพื่อตีพิมพ์ในวารสารอื่นหรือเคยตีพิมพ์เผยแพร่มาแล้ว หากมีการใช้ภาพ ข้อความหรือตารางของผู้เขียนหรือผู้นิพนธ์ท่านอื่น ผู้เขียนจะต้องอ้างแหล่งที่มาหรือเจ้าของลิขสิทธ์
Publication Ethic:
The detail published in Saeng Isan Journal is opinion and responsibility of the authors, and it is not relevant with the jouranl. Besides, the authors must certify that the original manuscript is not in the process to publish in other journals or used to publish in other journals. If the authors use paragraphs, pictures or tables from others, the athours must refer to the original sources.
Article Consideration:
Each article will be published by a panel three journalists with expertise in relevant fields, and get the editorial approval before publishing. The review is in the form of The article's double blind.
To comply with copyright law. The author must sign the copy of the article submission form to the journal. In addition, the author must confirm that the original article submitted to the journal is only one publication in Saeng Isan Journal. If the images or tables of other authors appearing in other publications are used, the author must ask permission of the copyright owner before publishing.