การพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้เพื่อพัฒนาทักษะการผลิตสื่อการสอนในการเรียนรู้วิชาสังคมศึกษาศาสนาและวัฒนธรรม สำหรับนักศึกษาสาขาวิชาการสอนสังคมศึกษา มหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย วิทยาเขตอีสาน

ผู้แต่ง

  • พระวสันต์ ธีรวโร เกษงาม -

คำสำคัญ:

การพัฒนารูปแบบ, ทักษะการผลิตสื่อการสอน , ทักษะการผลิตสื่อ

บทคัดย่อ

การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์คือ (1) เพื่อศึกษาสภาพปัญหาการจัดการเรียนรู้เพื่อพัฒนาทักษะการผลิตสื่อการสอนในการเรียนรู้วิชาสังคมศึกษาศาสนาและวัฒนธรรม สำหรับนักศึกษาสาขาวิชาการสอนสังคมศึกษา มหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย วิทยาเขตอีสาน (2) เพื่อพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้เพื่อพัฒนาทักษะการผลิตสื่อการสอนในการเรียนรู้วิชาสังคมศึกษาศาสนาและวัฒนธรรม สำหรับนักศึกษาสาขาวิชาการสอนสังคมศึกษา มหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย วิทยาเขตอีสาน (3) เพื่อทดลองใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้ที่พัฒนาขึ้น และ (4) เพื่อประเมินประสิทธิผลของการใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้ดังกล่าว กลุ่มเป้าหมายได้แก่ นักศึกษาปริญญาตรีชั้นปีที่ 3 จำนวน 52 รูป/คน ได้มาโดยวิธีการเลือกแบบเจาะจง เครื่องมือที่ใช้ ได้แก่ รูปแบบการจัดการเรียนรู้ คู่มือการใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้ แบบวัดทักษะการผลิตสื่อการสอน และแบบสอบถามความพึงพอใจที่มีต่อการใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน การทดสอบค่าที (Dependent)

          ผลการวิจัยพบว่า

1) ค่าเฉลี่ยของความคิดเห็นของประชากรกลุ่มเป้าหมายที่มีต่อปัญหาการจัดการเรียนรู้เพื่อพัฒนาทักษะการผลิตสื่อการสอนในการเรียนรู้วิชาสังคมศึกษาศาสนาและวัฒนธรรม สำหรับนักศึกษาสาขาวิชาการสอนสังคมศึกษา มหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย วิทยาเขตอีสาน โดยรวมอยู่ในระดับมาก (μ  = 4.37)

2) รูปแบบการจัดการเรียนรู้เพื่อพัฒนาทักษะการผลิตสื่อการสอนในการเรียนรู้วิชาสังคมศึกษาศาสนาและวัฒนธรรม สำหรับนักศึกษาสาขาวิชาการสอนสังคมศึกษา มหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย วิทยาเขตอีสาน มีองค์ประกอบ 4 ด้าน ได้แก่ ด้านหลักการ ด้านวัตถุประสงค์ กระบวนการจัดการเรียนรู้แบบ IGPEP และการวัดผลทักษะการผลิตสื่อการสอน

3) ผลการทดลองใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้ที่พัฒนาขึ้นแสดงให้เห็นว่า คะแนนทดสอบสอบหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 และระดับความพึงพอใจของกลุ่มเป้าหมายที่มีต่อรูปแบบอยู่ในระดับมากที่สุด ( μ = 4.61)

4) ผลการประเมินประสิทธิผลของรูปแบบการจัดการเรียนรู้เพื่อพัฒนาทักษะการผลิตสื่อการสอนในการเรียนรู้วิชาสังคมศึกษาศาสนาและวัฒนธรรม สำหรับนักศึกษาสาขาวิชาการสอนสังคมศึกษา มหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย วิทยาเขตอีสาน โดยภาพรวมอยู่ในระดับมากที่สุด ( μ= 4.60)

การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์คือ (1) เพื่อศึกษาสภาพปัญหาการจัดการเรียนรู้เพื่อพัฒนาทักษะการผลิตสื่อการสอนในการเรียนรู้วิชาสังคมศึกษาศาสนาและวัฒนธรรม สำหรับนักศึกษาสาขาวิชาการสอนสังคมศึกษา มหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย วิทยาเขตอีสาน (2) เพื่อพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้เพื่อพัฒนาทักษะการผลิตสื่อการสอนในการเรียนรู้วิชาสังคมศึกษาศาสนาและวัฒนธรรม สำหรับนักศึกษาสาขาวิชาการสอนสังคมศึกษา มหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย วิทยาเขตอีสาน (3) เพื่อทดลองใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้ที่พัฒนาขึ้น และ (4) เพื่อประเมินประสิทธิผลของการใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้ดังกล่าว กลุ่มเป้าหมายได้แก่ นักศึกษาปริญญาตรีชั้นปีที่ 3 จำนวน 52 รูป/คน ได้มาโดยวิธีการเลือกแบบเจาะจง เครื่องมือที่ใช้ ได้แก่ รูปแบบการจัดการเรียนรู้ คู่มือการใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้ แบบวัดทักษะการผลิตสื่อการสอน และแบบสอบถามความพึงพอใจที่มีต่อการใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน การทดสอบค่าที (Dependent)

          ผลการวิจัยพบว่า

1) ค่าเฉลี่ยของความคิดเห็นของประชากรกลุ่มเป้าหมายที่มีต่อปัญหาการจัดการเรียนรู้เพื่อพัฒนาทักษะการผลิตสื่อการสอนในการเรียนรู้วิชาสังคมศึกษาศาสนาและวัฒนธรรม สำหรับนักศึกษาสาขาวิชาการสอนสังคมศึกษา มหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย วิทยาเขตอีสาน โดยรวมอยู่ในระดับมาก ( μ = 4.37)

2) รูปแบบการจัดการเรียนรู้เพื่อพัฒนาทักษะการผลิตสื่อการสอนในการเรียนรู้วิชาสังคมศึกษาศาสนาและวัฒนธรรม สำหรับนักศึกษาสาขาวิชาการสอนสังคมศึกษา มหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย วิทยาเขตอีสาน มีองค์ประกอบ 4 ด้าน ได้แก่ ด้านหลักการ ด้านวัตถุประสงค์ กระบวนการจัดการเรียนรู้แบบ IGPEP และการวัดผลทักษะการผลิตสื่อการสอน

3) ผลการทดลองใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้ที่พัฒนาขึ้นแสดงให้เห็นว่า คะแนนทดสอบสอบหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 และระดับความพึงพอใจของกลุ่มเป้าหมายที่มีต่อรูปแบบอยู่ในระดับมากที่สุด ( = 4.61)

4) ผลการประเมินประสิทธิผลของรูปแบบการจัดการเรียนรู้เพื่อพัฒนาทักษะการผลิตสื่อการสอนในการเรียนรู้วิชาสังคมศึกษาศาสนาและวัฒนธรรม สำหรับนักศึกษาสาขาวิชาการสอนสังคมศึกษา มหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย วิทยาเขตอีสาน โดยภาพรวมอยู่ในระดับมากที่สุด ( μ = 4.60)

 

References

ทิศนา แขมมณี. (2555). ศาสตร์การสอน : องค์ความรู้เพื่อการจัดกระบวนการเรียนรู้ที่มีประสิทธิภาพ. กรุงเทพฯ : จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.

มหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย วิทยาเขตอีสาน. (2562). หลักสูตรศึกษาศาสตรบัณฑิตสาขาวิชาการสอนสังคมศึกษา (4 ปี) หลักสูตรปรับปรุง พ.ศ.2562. : ขอนแก่น, หน้า 5-6

วิโรจน์ สารรัตนะ. (2557). ภาวะผู้นำ: ทฤษฎีและนานาทัศนะร่วมสมัยปัจจุบัน.กรุงเทพฯ: ทิพย์ วสิุทธิ์

สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา. (2552). กรอบมาตรฐานคุณวุฒิระดับอุดมศึกษาแห่งชาติ พ.ศ.2552 (Thai Qualifications Framework for Higher Education). เอกสารประกอบการประชุมเชิงปฏิบัติ เรื่อง “กรอบมาตรฐานคุณวุฒิ : การพัฒนารายละเอียดของหลักสูตรและรายวิชาให้มีคุณภาพ” วันที่ 30 กันยายน – 2 ตุลาคม 2552 ณ โรงแรมเรดิสัน กรุงเทพมหานคร.

สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ. (2559). สรุปสาระสำคัญแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่สิบสอง พ.ศ. 2560-2564. กรุงเทพฯ: สำนักงาน คณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติสำนกันายกรัฐมนตรี.

สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ. (2562). ยุทธศาสตร์ชาติระยะ 20 ปี(พ.ศ. 2561-2580). (พิมพ์ครั้งที่ 2). กรุงเทพฯ : สำนักงานเลขานุการของคณะกรรมการยุทธศาสตร์ชาตฺิ, สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ

สมัครสมร ภักดีเทวา. (2553). การพัฒนารูปแบบการออกแบบการเรียนการสอนอีเลิร์นนิ่งระดับบัณฑิตศึกษามหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช. วิทยานิพนธ์ปริญญาดุษฎีบัณฑิต, สาขาวิชาหลักสูตรและการสอน, ภาควิชาหลักสูตรและวิธีสอน, คณะศึกษาศาสตร์, มหาวิทยาลัยศิลปากร

สุจิตตรา จันทร์ลอย. (2564). การพัฒนารูปแบบการเรียนการสอนแบบผสมผสานโดยใช้การออกแบบเป็นฐานร่วมกับเทคนิคสแคมเพอร์เพื่อส่งเสริมความสามารถในการออกแบบนวัตกรรมการศึกษาสร้างสรรค์ของนักศึกษาครูมหาวิทยาลัยราชภัฏ, วิทยานิพนธ์ปรัชญาดุษฎีบัณฑิต, สาขาวิชาเทคโนโลยีการศึกษา, บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยศิลปากร.

สุพรรณี บุญหนัก และคณะ. (2564). รูปแบบการพัฒนาการจัดการเรียนการสอนออนไลน์ของ มหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย วิทยาเขตศรีล้านช้าง. วารสารศรีล้านช้างปริทรรศน์ ปีที่7 ฉบับที่2 ประจำเดือน กรกฎาคม – ธันวาคม 2564, 53-70

Bandura, A; & Cervone, D, Differential. (1986) engagement of self-reactive influences in Cognitive motivation, Organizational Behavior and Human Decision Processes.

Khul, J., Kraska. (1985). Volitional Mediators of Cognition-Behavior Consistency : Self- Regulatory Processes and Action Versus State Orientation. In Khul, J and Beckmann, J. Action Control from Cognition to Behavior Germany: Springer-Verlag. Berlin.

Schunk, D. H. and B. J. Zimmerman. (1994). Self-Regulation of Learning and Performance:Issues and Educational Applications. New Jersey: Erlbaum. cited in Schunk, D. H.2000. Learning Theories: An Educational Perspective. 3 rded. New Jersey : Prentice-Hall, Inc.

Zimmerman, B. J. (1998). Developing self-fulfilling cycle of academic regulation: An analysis of exemplary instruction models. In Schunk, D. H. and Zimmerman, B. J. (Eds.), Selfregulated learning: From teaching to self-reflective practice (pp. 1-19). New York: Guilford

Downloads

เผยแพร่แล้ว

2024-12-19