กระบวนทัศน์การจัดการอัตลักษณ์ชุมชนจังหวัดศรีสะเกษเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์และโบราณคดี

Main Article Content

ศิริวุฒิ วรรณทอง

บทคัดย่อ

งานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาและวิเคราะห์กระบวนทัศน์ในการจัดการอัตลักษณ์ชุมชนจังหวัดศรีสะเกษ เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์และโบราณคดี โดยใช้ระเบียบวิธีวิจัยเชิงคุณภาพ ผู้ให้ข้อมูลประกอบด้วยผู้นำชุมชน ปราชญ์ท้องถิ่น ผู้ประกอบการด้านการท่องเที่ยว และนักท่องเที่ยว โดยใช้เทคนิคการเก็บข้อมูลผ่านการสัมภาษณ์เชิงลึก การสนทนากลุ่ม และแบบสอบถามเชิงเปิด ผลการวิจัยพบว่า จังหวัดศรีสะเกษ มีอัตลักษณ์ชุมชนที่โดดเด่นจากแหล่งโบราณคดีก่อนประวัติศาสตร์   อารยธรรมขอม และวัฒนธรรมร่วมของกลุ่มชาติพันธุ์ไทย ลาว และเขมร ซึ่งถือเป็นทุนทางวัฒนธรรมที่สำคัญต่อการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์และโบราณคดีอย่างยั่งยืน ผลการวิจัยพบว่า กระบวนทัศน์การจัดการอัตลักษณ์ชุมชนที่เหมาะสมควรตั้งอยู่บนฐานของ  การมีส่วนร่วมของชุมชน โดยประกอบด้วยองค์ประกอบสำคัญ 4 ประการ ได้แก่ (1) การเสริมสร้างความรู้และความเข้าใจเชิงลึกเกี่ยวกับอัตลักษณ์และคุณค่าทางวัฒนธรรมของพื้นที่ (2) การส่งเสริมการมีส่วนร่วมของชุมชนในกระบวนการพัฒนาและจัดการการท่องเที่ยว (3) การบูรณาการการอนุรักษ์กับการพัฒนาอย่างสมดุล และ (4) การสร้างสรรค์สื่อและกิจกรรมท่องเที่ยวที่สะท้อนอัตลักษณ์ท้องถิ่น งานวิจัยชี้ให้เห็นว่าการจัดการอัตลักษณ์ชุมชนโดยอิงหลักการมีส่วนร่วมและการพัฒนาที่ยั่งยืน สามารถนำไปประยุกต์ใช้กับพื้นที่ที่มีบริบททางวัฒนธรรมใกล้เคียง เพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์มรดกทางวัฒนธรรมและพัฒนาเศรษฐกิจชุมชนได้อย่างมีประสิทธิภาพ

Article Details

รูปแบบการอ้างอิง
วรรณทอง ศ. (2025). กระบวนทัศน์การจัดการอัตลักษณ์ชุมชนจังหวัดศรีสะเกษเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์และโบราณคดี. วารสารงานวิจัยและพัฒนามหาวิทยาลัยราชภัฏศรีสะเกษ, 12(1), 68–84. สืบค้น จาก https://so01.tci-thaijo.org/index.php/sskru-resarch/article/view/278490
ประเภทบทความ
บทความวิจัย

เอกสารอ้างอิง

กฤตภรญ ขัติยะวงศ์. (2559). แนวทางการพัฒนาการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม: ศึกษากรณีตำบลเขวา อำเภอเมืองมหาสารคาม จังหวัดมหาสารคาม [งานนิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต]. มหาวิทยาลัยบูรพา.

คำม่วน พิลาพอนเดช. (2561). แนวทางการพัฒนาการท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์บ้านดอนโค เมือง ชะนะสมบูน แขวงจำปาสัก สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว. [วิทยานิพนธ์ปริญญา มหาบัณฑิต]. มหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคาม.

ดุษฎี ช่วยสุข. (2559). การท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ กรณีศึกษาบ้านชีทวน. วารสารวิถีสังคมมนุษย์, 4(2), 296-309.

ธนพล จันทร์เรืองฤทธิ์ (2561). แนวทางการจัดการการท่องเที่ยวโดยชุมชนเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน กรณีศึกษาชุมชนริมนheจันทบูร อำเภอเมือง จังหวัดจันทบุรี. [วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต]. มหาวิทยาลัยกรุงเทพ.

บุญแล วิจิตรา. (2563). แนวทางการพัฒนาการสื่อสารการตลาดแบบบูรณาการเพื่อส่งเสริมการ ท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมของจังหวัดจันทบุรี. มหาวิทยาลัยพะเยา.

วรพงศ์ ผูกภู่, ฐิติ ฐิติจำเริญพร, อิสรี แพทย์เจริญ, ศศิประภา โปธา, พัชรนันท์ บัวมะลิ, ศุภรัตน์ นามมนตรี, ธีรเมศร์ ขจรพัฒนภิรมย์, ประดิษฐ์ ถมมา, นฤปนาถ ลุมพล และนงลักษณ์ สมมุติ. (2021). การจัดการท่องเที่ยวโดยชุมชนบนรากฐานแนวคิดเศรษฐกิจพอเพียง ภายใต้พลวัตการเปลี่ยนแปลง: บ้านแม่กำปอง ตำบลห้วยแก้ว อำเภอแม่ออน จังหวัดเชียงใหม่. สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม (สกสว.)

Geng, Y., Zhu, H.-F., & Zhu, R. (2022). Coupling Coordination between Cultural Heritage Protection and Tourism Development: The Case of China. Sustainability, 14(22), https://doi.org/10.3390/su142215421

Ginung, P., Wahyudin, C., Apriliyani, N. V., & Amalia, N. (2023). Community participation in increasing tourism villages. Qardhul Hasan: Media Pengabdian kepada Masyarakat. https://doi.org/10.30997/qh.v9i1.7635

Nasrolahi, A. (2023). Local people's participation in cultural heritage conservation and management. In Advances in civil and industrial engineering. https://doi.org/10.4018/978-1-6684-8253-7.ch022

Fulton, K. A. (2019). Community identity and shared practice at Actuncan, Belize. Latin American Antiquity, 30(2), 266–286. https://doi.org/10.1017/LAQ.2019.18

Syientani, S., Salwa, S., & Hardi, H. (2023). Community as a medium for promoting cultural tourism (Study on Ternate Heritage Society Community). Journal of the Community Development in Asia, 6(1). https://doi.org/10.32535/jcda.v6i1.2125

Taladsub, P. (2023). The collaborative governance to Chiang Khan tourism development. Ramkhamhaeng Journal of Public Administration, 6(2), 64–97.

Ward, P., & Pente, E. (2017). Let’s change history!: Community histories and the co-production of historical knowledge. In L. Fraser, M. Hill, S. Murray, & G. Ryan (Eds.), History making a difference: New approaches from Aotearoa. (pp. 94–112). Cambridge Scholars Publishing.