ประสิทธิผลการนำนโยบายคืนสัญชาติคนไทยพลัดถิ่น ตามพระราชบัญญัติสัญชาติ (ฉบับที่ 5) พุทธศักราช 2555 ไปปฏิบัติในพื้นที่อำเภอเมือง จังหวัดระนอง ประสิทธิผลการนำนโยบายคืนสัญชาติคนไทยพลัดถิ่น ตามพระราชบัญญัติสัญชาติ (ฉบับที่ 5) พุทธศักราช 2555 ไปปฏิบัติในพื้นที่อำเภอเมือง จังหวัดระนอง
Main Article Content
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาระดับประสิทธิผลการนำนโยบายคืนสัญชาติคนไทยพลัดถิ่นตามพระราชบัญญัติสัญชาติ (ฉบับที่ 5) พุทธศักราช 2555 ไปปฏิบัติในพื้นที่อำเภอเมือง จังหวัดระนอง และ 2) ศึกษาปัจจัยในการนำนโยบายการขอคืนสัญชาติไปปฏิบัติ มีความสัมพันธ์เชิงเหตุผลต่อประสิทธิผลการนำนโยบายคืนสัญชาติคนไทยพลัดถิ่นตามพระราชบัญญัติสัญชาติ (ฉบับที่ 5) พุทธศักราช 2555 ไปปฏิบัติในพื้นที่ อำเภอเมือง จังหวัดระนอง กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ คนไทยพลัดถิ่น อำเภอเมือง จังหวัดระนอง จำนวน 130 คน สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ ได้แก่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน การวิเคราะห์ค่าไคสแคว์ และการวิเคราะห์การถดถอยพหุคูณ ผลการวิจัยพบว่า 1) ระดับประสิทธิผลการนำนโยบายคืนสัญชาติคนไทยพลัดถิ่นไปปฏิบัติอยู่ในระดับปานกลาง เมื่อพิจารณาเป็นรายด้านมีประสิทธิผลอยู่ในระดับมากที่สุดเป็นลำดับแรก คือ ด้านการยื่นคำขอพิสูจน์การเป็นคนไทยพลัดถิ่น มีประสิทธิผลอยู่ในระดับน้อย คือ ด้านการตรวจสอบพิสูจน์ผังเครือญาติและการสอบสวนพยานบุคคลที่เกี่ยวข้อง ด้านการพิจารณาของคณะกรรมการรับรองความเป็นคนไทยพลัดถิ่น และด้านกระบวนการลงรายการสัญชาติไทยให้แก่ผู้ขอตามระเบียบที่กำหนด ตามลำดับ และ 2) ปัจจัยในการนำนโยบายการขอคืนสัญชาติคนไทยพลัดถิ่นไปปฏิบัติมีความสัมพันธ์เชิงเหตุผลต่อประสิทธิผลการนำนโยบายคืนสัญชาติคนไทยพลัดถิ่น ไปปฏิบัติในพื้นที่อำเภอเมือง จังหวัดระนอง พบว่า ปัจจัยด้านมาตรฐานนโยบาย ด้านการบังคับใช้กฎหมายมีความสัมพันธ์เชิงเหตุผลต่อประสิทธิผลการนำนโยบายคืนสัญชาติคนไทยพลัดถิ่น ไปปฏิบัติในพื้นที่ อำเภอเมือง จังหวัดระนอง อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ .001 และปัจจัยด้านทรัพยากรนโยบาย มีความสัมพันธ์เชิงเหตุผลต่อประสิทธิผลการนำนโยบายคืนสัญชาติคนไทยพลัดถิ่น ไปปฏิบัติในพื้นที่ อำเภอเมือง จังหวัดระนอง อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ .01
Downloads
Article Details
เนื้อหาและข้อมูลในบทความที่ตีพิมพ์ในวารสารวิชาการคณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏเทพสตรี ถือเป็นข้อคิดเห็นและความรับผิดชอบของผู้เขียนบทความโดยตรง ซึ่งกองบรรณาธิการวารสารไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย หรือร่วมรับผิดชอบใดๆ
บทความ ข้อมูล เนื้อหา รูปภาพ ที่ได้รับการตีพิมพ์ในวารสารวิชาการคณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏเทพสตรี ถือเป็นลิขสิทธิ์ของวารสารวิชาการคณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏเทพสตรี หากบุคคลหรือหน่วยงานใดต้องการนำทั้งหมดหรือส่วนหนึ่งส่วนใดไปเผยแพร่ต่าหรือกระทำการใดๆ จะต้องได้รับอนาญาตจากวารสารวิชาการ ฯ ก่อนเท่านั้น