การมีส่วนร่วมของภาคประชาชนในการรักษาความปลอดภัยชุมชนในเขตเทศบาลเมืองหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ การมีส่วนร่วมของภาคประชาชนในการรักษาความปลอดภัยชุมชนในเขตเทศบาลเมืองหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์
Main Article Content
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาระดับการมีส่วนร่วมของภาคประชาชนในการรักษาความปลอดภัยชุมชนในเขตเทศบาลเมืองหัวหิน และ 2) ศึกษาความสัมพันธ์ปัจจัยในการมีส่วนร่วมกับการมีส่วนร่วมของภาคประชาชนในการรักษาความปลอดภัยชุมชนในเขตเทศบาลเมืองหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัย คือ ประชาชนในชุมชนเพชรสระสรง ชุมชนสมอเรียง ชุมชนชายทะเล และชุมชนพูลสุข อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ จำนวน 130 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยเป็นแบบสอบถาม วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้ค่าความถี่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน สถิติไคสแควร์ การวิเคราะห์การถดถอยเชิงพหุ และการวิเคราะห์เชิงเนื้อหา ผลการวิจัยพบว่า 1) ระดับการมีส่วนร่วมของภาคประชาชนในการรักษาความปลอดภัยชุมชน ในเขตเทศบาลเมืองหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ในภาพรวมมีระดับปานกลาง เมื่อพิจารณารายด้านเรียงลำดับค่าเฉลี่ยจากมากไปหาน้อย พบว่ามีระดับการมีส่วนร่วมมากในลำดับแรก ได้แก่ การมีส่วนร่วมในการรับผลประโยชน์ รองลงมา คือ การมีส่วนร่วมในการดำเนินการ การมีส่วนร่วมในการตัดสินใจ และการมีส่วนร่วมในการประเมินผล ตามลำดับ 2) ปัจจัยในการมีส่วนร่วมของภาคประชาชนในการรักษาความปลอดภัยชุมชน ในเขตเทศบาลเมือง หัวหิน มีความสัมพันธ์เชิงเหตุ-ผลกับระดับการมีส่วนร่วมของภาคประชาชนในการรักษาความปลอดภัยชุมชน อย่างมีนัยสำคัญที่ .001 เมื่อพิจารณาเป็นรายด้านพบว่าด้านที่มีความสัมพันธ์ในระดับสูง อย่างมีนัยสำคัญที่ระดับ .001 ได้แก่ ความเข้มแข็งของชุมชนและการได้รับการสนับสนุนและการยอมรับ
Downloads
Article Details
เนื้อหาและข้อมูลในบทความที่ตีพิมพ์ในวารสารวิชาการคณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏเทพสตรี ถือเป็นข้อคิดเห็นและความรับผิดชอบของผู้เขียนบทความโดยตรง ซึ่งกองบรรณาธิการวารสารไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย หรือร่วมรับผิดชอบใดๆ
บทความ ข้อมูล เนื้อหา รูปภาพ ที่ได้รับการตีพิมพ์ในวารสารวิชาการคณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏเทพสตรี ถือเป็นลิขสิทธิ์ของวารสารวิชาการคณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏเทพสตรี หากบุคคลหรือหน่วยงานใดต้องการนำทั้งหมดหรือส่วนหนึ่งส่วนใดไปเผยแพร่ต่าหรือกระทำการใดๆ จะต้องได้รับอนาญาตจากวารสารวิชาการ ฯ ก่อนเท่านั้น