การพัฒนารูปแบบการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบโครงงานเรื่องคืนคุณธรรมสู่ห้องเรียน โดยใช้ปัญหาเป็นฐาน วิชาสังคมศึกษาพื้นฐาน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนในกลุ่มสหวิทยาเขตเมืองฟ้าแดด สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 24
Main Article Content
บทคัดย่อ
การวิจัยในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อพัฒนารูปแบบการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบโครงงานเรื่องคืนคุณธรรมสู่ห้องเรียน โดยใช้ปัญหาเป็นฐาน วิชาสังคมศึกษาพื้นฐาน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 2) เพื่อหาประสิทธิภาพของรูปแบบการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบโครงงานเรื่องคืนคุณธรรมสู่ห้องเรียน โดยใช้ปัญหาเป็นฐาน วิชาสังคมศึกษาพื้นฐาน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ตามเกณฑ์มาตรฐาน 80/80 3) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของการพัฒนารูปแบบการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบโครงงานเรื่องคืนคุณธรรมสู่ห้องเรียน โดยใช้ปัญหาเป็นฐาน วิชาสังคมศึกษาพื้นฐาน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 4) เพื่อหาความคงทนของการเรียนรู้ของการพัฒนารูปแบบการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบโครงงานเรื่องคืนคุณธรรมสู่ห้องเรียน โดยใช้ปัญหาเป็นฐาน วิชาสังคมศึกษาพื้นฐาน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษาวิจัย คือ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5/9 จำนวน 28 คน ได้มาโดยวิธีการสุ่มแบบแบ่งกลุ่ม (Cluster Random Sampling) เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษาวิจัย ได้แก่ แบบสอบถามการพัฒนารูปแบบการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบโครงงานเรื่องคืนคุณธรรมสู่ห้องเรียน โดยใช้ปัญหาเป็นฐาน วิชาสังคมศึกษาพื้นฐาน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 วิเคราะห์ข้อมูลโดยการหาค่าเฉลี่ยและส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน การหาค่าร้อยละและ t-test
ผลการศึกษาวิจัยพบว่า (1)ได้รูปแบบการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่ผู้วิจัยใช้ชื่อเรียกว่า “KESPIE MODEL” ซึ่งมีองค์ประกอบ 5 ขั้น ได้แก่ ขั้นที่ 1 การสร้างองค์ความรู้ (Knowledge : K) ขั้นที่ 2 การสร้างเสริมความรู้และทักษะ (Enhancement and Skills : ES) ขั้นที่ 3 การออกแบบโครงงาน (Project design : P) ขั้นที่ 4 การนำไปใช้ (Implementation : I) ขั้นที่ 5 การประเมินผลการเรียนรู้ (Evaluation : E) (2) รูปแบบการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบโครงงานเรื่องคืนคุณธรรมสู่ห้องเรียน โดยใช้ปัญหาเป็นฐาน วิชาสังคมศึกษาพื้นฐาน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 มีประสิทธิภาพเท่ากับ 80.85/84.06 (3) ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนตามรูปแบบการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบโครงงานเรื่องคืนคุณธรรมสู่ห้องเรียน โดยใช้ปัญหาเป็นฐาน วิชาสังคมศึกษาพื้นฐาน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 พบว่า นักเรียนมีคะแนนหลังการผ่านการจัดกิจกรรมการเรียนรู้อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 (4) การประเมินความพึงพอใจในการใช้รูปแบบการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบโครงงานเรื่องคืนคุณธรรมสู่ห้องเรียน โดยใช้ปัญหาเป็นฐาน วิชาสังคมศึกษาพื้นฐาน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 อยู่ในระดับมากที่สุด
5. ความคงทนของการเรียนรู้ของการพัฒนารูปแบบการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบโครงงานเรื่องคืนคุณธรรมสู่ห้องเรียน โดยใช้ปัญหาเป็นฐาน วิชาสังคมศึกษาพื้นฐาน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 มีความคงทนในการเรียนรู้
Article Details
เอกสารอ้างอิง
วิทยากร เชียงกูล. (2550). สภาวะการศึกษาไทยปี 2549/2550 “การแก้ปัญหาและการปฏิรูปการศึกษาอย่างเป็นระบบองค์รวม”. กรุงเทพมหานคร : สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา.
สุพล วังสินธุ์. (2549). วิธีสอนแบบแก้ปัญหา : การเรียนรู้โดยใช้ปัญหาเป็นฐาน. ม.ป.ท.. : ม.ป.พ..
Ahlfeldt, Stephanie. (2004). Problem-based Learning in the Public Speaking Classroom. Dissertation Abstracts International. 65(01). 21-A.
Barrows, H.S. and Tamblyn, Roblyn M. (1980). Problem Based Learning: An Approach to Medical Education. New York : Spinger.
Chikotas, Norecn Elaine(2005). Problem-based Learning in Nurse Practitioner Education and Subsequent Clinical: The Practitioners’ Perspectives. Dissertation Abstracts International 66(4) : 1242-A.
Hmelo-Silver, C. E. & Barrows, H. S. (2006). Goals and strategies of a problem-based learning facilitator. Interdisciplinary Journal of Problem-based Learning. 1. 21-39.