รูปแบบประสิทธิผลของการบริหารงานของผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นตามกระบวนทัศน์ธรรมาภิบาลในเขตภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

Main Article Content

พระทานนุวัตร หัสดร
ยุภาพร ยุภาศ
ภักดี โพธิ์สิงห์

บทคัดย่อ

         บทความวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์ 1)เพื่อศึกษาระดับประสิทธิผลของการบริหารงานของผู้บริหาร 2)เพื่อศึกษาปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อประสิทธิผลของการบริหารงานของผู้บริหาร 3)เพื่อศึกษาปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อประสิทธิผลของการบริหารงานของผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นตามกระบวนทัศน์ธรรมาภิบาลในเขตภาคตะวันออกเฉียงเหนือกลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยคือ ผู้บริหารและพนักงานในองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น จำนวน 450 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยเป็นแบบสอบถามมาตราส่วนประมาณค่าห้าระดับ โดยใช้สถิติการวิเคราะห์การถดถอยพหุคูณแบบเพิ่มตัวแปรเป็นขั้นๆ (Multiple Regression Analysis : MRA แบบ Stepwise)


          ผลการวิจัยพบว่า 1. ระดับประสิทธิผลของการบริหารงานของผู้บริหาร โดยรวมอยู่ในระดับมากเมื่อพิจารณาเป็นรายด้านอยู่ในระดับมากทุกด้าน 2. ผลการศึกษาปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อประสิทธิผลของการบริหารงานของผู้บริหาร คือ ตัวพยากรณ์หรือปัจจัยที่มีความสัมพันธ์ขั้นพื้นฐานกับตัวแปรตามหรือตัวถูกพยากรณ์ อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 จากตัวพยากรณ์ 8 ตัว มีความสัมพันธ์กันเพียง 7 ตัว โดยเรียงจากค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์พื้นฐาน (r) จากมากไปหาน้อย ได้ดังนี้ กลยุทธ์ของการบริหารงาน การสร้างทีมงาน การประสานเชื่อมโยงกับชุมชน มนุษยสัมพันธ์ การสื่อสารที่มีประสิทธิภาพ การมีวิสัยทัศน์ และความร่วมมือ ตามลำดับ และตัวพยากรณ์หรือตัวแปรอิสระสามารถร่วมกันพยากรณ์ประสิทธิผลของการบริหารงานได้อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 ได้เท่ากับ 0.855 และตัวพยากรณ์หรือปัจจัยที่พยากรณ์ประสิทธิผลของการบริหารงานของผู้บริหาร อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05

Article Details

รูปแบบการอ้างอิง
หัสดร พ., ยุภาศ ย., & โพธิ์สิงห์ ภ. (2020). รูปแบบประสิทธิผลของการบริหารงานของผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นตามกระบวนทัศน์ธรรมาภิบาลในเขตภาคตะวันออกเฉียงเหนือ. วารสารมหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย วิทยาเขตร้อยเอ็ด, 10(2), 243–256. สืบค้น จาก https://so01.tci-thaijo.org/index.php/AJMBU/article/view/243002
ประเภทบทความ
บทความวิจัย

เอกสารอ้างอิง

จีรพรรณ์ จันทร์วิเชียร. (2561). เอกสารนำเสนอการประเมินคุณธรรมและความโปร่งใสในการดำเนินงานของหน่วยงาน. สกลนคร : กองนโยบายและแผน สำนักงานอธิการบดี มหาวิทยาลัยราชภัฏสกลนคร.

ณฐวัฒน์ พระงาม. (2555). การติดต่อสื่อสารแบบปฏิสัมพันธ์ในองค์การ. พิษณุโลก : มหาวิทยาลัยพิษณุโลก.

เบญจวรรณ วันดีศรี. (2550). การศึกษาความเป็นธรรมาภิบาลของนายกองค์การบริหารส่วนตำบลในจังหวัดร้อยเอ็ด. วิทยานิพนธ์ศิลปะศาสตร์มหาบัณฑิต สาขาสังคมศาสตร์เพื่อการศึกษา.บัณฑิตวิทยาลัย : มหาวิทยาลัยราชภัฏธนบุรี.

พรรณทิพย์ ศิริวรรณบุศย์. (2561). จิตวิทยาพัฒนาการ. กรุงเทพมหานคร : โรงพิมพ์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.

วิริศรา รัตนสมัย. (2543). การรับข่าวสารเพื่อสร้างความตระหนักสำนึกของประชาชนเกี่ยวกับการตรวจสอบการใช้อำนาจรัฐขององค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) จังหวัดสงขลา. กรุงเทพมหานคร : มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์.

วีระ ฤกษ์วาณิชย์กุล. (2551). ความคิดเห็นต่อการปฏิบัติตามหลักธรรมาภิบาลของราชการส่วนภูมิภาค: ศึกษากรณีที่ทำการปกครองอำเภอเมืองนครพนม จังหวัดนครพนม. ปัญหาพิเศษรัฐประศาสนศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชานโยบายสาธารณะ. วิทยาลัยการบริหารรัฐกิจ มหาวิทยาลัยบูรพา.

สถาบันพระปกเกล้า. (2558). การบริหารงานภาครัฐกับการสร้างธรรมาภิบาล. กรุงเทพมหานคร : สถาบันพระปกเกล้า.

สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์. (2551). พฤติกรรมองค์การ. กรุงเทพมหานคร : ซีเอ็ดยูเคชั่น.

สิริวิภา ศรีปลั่ง. (2558). การศึกษาตัวชี้วัดธรรมาภิบาลด้านการมีส่วนร่วมของประชาชนในการปฏิบัติงานของสำนักการสาธารณสุขและสิ่งแวดล้อมเทศบาลเมืองกาฬสินธุ์. วิทยานิพนธ์ศิลปศาสตรมหาบัณฑิต. บัณฑิตวิทยาลัย : มหาวิทยาลัยขอนแก่น.

สิทธิชัย เทวธีระรัตน์. (2543). การเปิดรับสารและทัศนคติของกลุ่มคนวัยทำงานต่อการโฆษณาเพื่อสิ่งแวดล้อมทางโทรทัศน์. วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต สาขาวิชาการโฆษณา. คณะนิเทศศาสตร์ : จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.

สถาบันพระปกเกล้า. (2552). รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2550. พิมพ์ครั้งที่ 2. กรุงเทพมหานคร : สำนักพิมพ์คณะรัฐมนตรีและราชกิจจานุเบกษา.

อรศรี งามวิทยาพงศ์. (2551). กรอบความคิดเพื่อการศึกษาชุมชนอย่างบูรณาการ. กรุงเทพมหานคร : มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์.

Hollander, M., & Wolfe, D. A. (1999). Nonparametric statistical methods. 2nd ed. New York : Wiley.

Stufflebeam, Daniel L.; and Shinkfield, Anthony J. (2007). Evaluation Theory, Models, & Application. San Francisco : John Wilwy.