การควบคุมและแก้ไขฟื้นฟูผู้ต้องขังตามหลักทัณฑวิทยาเชิงพุทธบูรณาการ

บทคัดย่อ

         บทความวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์ 1)เพื่อศึกษาระดับความประพฤติของผู้ต้องขังจากการได้รับการควบคุมและแก้ไขฟื้นฟูตามหลักทัณฑวิทยาเชิงพุทธบูรณาการ 2)เพื่อศึกษาความคิดเห็นของเจ้าหน้าที่เรือนจำที่มีต่อการควบคุมและแก้ไขฟื้นฟูผู้ต้องขังตามหลักทัณฑวิทยาเชิงพุทธบูรณาการ 3)เพื่อเสนอแนะแนวทางการควบคุมและแก้ไขฟื้นฟูผู้ต้องขังตามหลักทัณฑวิทยาเชิงพุทธบูรณาการ กลุ่มตัวอย่าง ได้แก่ ผู้ต้องขังชายเข้าใหม่ในเดือนพฤศจิกายน 2562 จำนวน 136 คน กลุ่มผู้ให้สัมภาษณ์ ได้แก่ เจ้าหน้าที่เรือนจำกลางลำปาง จำนวน 9 คน เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูลเป็นแบบสอบถามและแบบสัมภาษณ์ สถิติที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ ค่าเฉลี่ยและส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน การวิจัยเชิงคุณภาพใช้การพรรณนาวิเคราะห์

          ผลการวิจัยพบว่า 1. ระดับความประพฤติของผู้ต้องขัง จากการได้รับการควบคุมและแก้ไขฟื้นฟูตามหลักทัณฑวิทยาเชิงพุทธบูรณาการ โดยรวมอยู่ในระดับมาก 2. ความคิดเห็นของเจ้าหน้าที่เรือนจำที่มีต่อการควบคุมและแก้ไขฟื้นฟูผู้ต้องขังตามหลักทัณฑวิทยาเชิงพุทธบูรณาการ ประกอบด้วย  1)การทำให้ผู้ต้องขังมีความรับผิดชอบ 2)การทำให้ผู้ต้องขังมีความซื่อสัตย์ 3)การทำให้ผู้ต้องขังมีความอดทน 4)การทำให้ผู้ต้องขังมีสติยั้งคิด 5) การทำให้ผู้ต้องขังมีความมุ่งมั่นในหน้าที่ 6)การทำให้ผู้ต้องขังรู้จักเคารพสิทธิของตนและผู้อื่น 3. แนวทางการควบคุมและแก้ไขฟื้นฟูผู้ต้องขังด้านความรับผิดชอบ ควรฝึกให้รู้จักควบคุมตัวเองประพฤติตนอยู่ในหลักศีลธรรมด้านความซื่อสัตย์ควรฝึกให้รู้จักทำงานให้เสร็จตามกรอบของประเภทงานในเวลาที่กำหนดและแสดงออกถึงความมีไมตรีจิต เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ด้านความอดทนควรฝึกให้รู้จักปรับบุคลิกภาพที่ดี ไม่อมทุกข์ หมั่นฝึกสมาธิจิตตภาวนาเพื่อทำจิตใจให้สงบ ไม่ฟุ้งซ่าน ด้านความมีสติยั้งคิด ฝึกให้รู้จักปรับบุคลิกภาพที่ดี ไม่อมทุกข์ หมั่นฝึกสมาธิจิตตภาวนาเพื่อทำจิตใจให้สงบ ไม่ฟุ้งซ่าน ด้านความมุ่งมั่นในหน้าที่ ควรฝึกให้รู้จักเรียนรู้ที่จะเลือกรู้ และมีความเข้าใจในสิ่งที่เรียน รวมทั้งรู้จักหมั่นพัฒนาทักษะการทำงานในหน้าที่ประจำ และด้านการเคารพสิทธิของตนและผู้อื่น ควรฝึกให้รู้จักรักษาสิทธิของตนเองและเคารพสิทธิของผู้อื่นให้เกียรติยอมรับบทบาทหน้าที่ผู้อื่น