ความทุกข์ของสตรีตามทัศนะในพระพุทธศาสนาเถรวาท / The suffering of women in Theravada Buddhist view

ผู้แต่ง

  • จันทร์ศิริ พลอยงาม Mahachulalongkornrajavidlayala University
  • พระมหามิตร ฐิตปญฺโญ (วันยาว)

คำสำคัญ:

ความทุกข์, สตรี, ทัศนะ, พระพุทธศาสนาเถรวาท

บทคัดย่อ

บทความนี้ผู้เขียนได้นำเสนอความทุกข์ของสตรีตามทัศนะในพระพุทธศาสนาเถรวาท 5 ประการ คือ1) สตรีเมื่อเป็นสาวไปสู่สกุลแห่งสามี ย่อมพลัดพรากจากญาติทั้งหลาย 2) สตรีย่อมมีระดู (ประจำเดือน)            3) สตรีย่อมมีครรภ์ (ตั้งครรภ์) 4) สตรีย่อมคลอดบุตร 5) สตรีย่อมทำหน้าที่บำเรอบุรุษ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาหลักธรรมคำสอนในทางพระพุทธศาสนาและใช้เป็นแนวทางในการบรรเทาทุกข์ของสตรี ซึ่งหลักศีลห้าในพระพุทธศาสนาสามารถนำมาใช้เป็นแนวทางในการบรรเทาทุกข์ในการดำเนินชีวิตของสตรีได้ เนื่องจากความทุกข์ที่เกิดขึ้นมีสาเหตุมาจากการที่สตรีมีครอบครัวด้วยการแต่งงาน ซึ่งนำมาสู่ความทุกข์ทั้ง 5 อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เมื่อหลีกเลี่ยงไม่ได้แล้วจะทำอย่างให้สตรีสามารถดำรงชีวิตในสถานะที่เป็นอยู่ได้อย่างมีความสุข พระพุทธองค์ตรัสว่า มาตุคาม (มารดา) ประกอบด้วยธรรม  5  ประการ (ศีล 5)  ย่อมเป็นผู้แกล้วกล้าอยู่ครองเรือน เพราะผู้หญิงไม่ใช่จะมีหน้าที่เพียงแค่ตั้งครรภ์และคลอดบุตรเท่านั้น แต่ผู้หญิงเป็นผู้ให้การอบรมเลี้ยงดูจนเด็กนั้นเจริญเติบโตขึ้นมาเป็นผู้ใหญ่ ซึ่งหากสตรีหรือหญิงใดที่เป็นผู้ให้การอบรมสั่งสอนเลี้ยงดูแก่เด็กเป็นผู้ที่มีความมั่นคงทางคุณธรรมจริยธรรมสูงย่อมที่จะสามารถสร้างความเป็นคนดีให้เกิดขึ้นกับมนุษย์ทุกรูปนามได้  นั่นจึงหมายความว่า ผู้ที่จะสามารถบรรเทาทุกข์ให้แก่สตรีได้นั้น ก็คือตัวของสตรีเอง เพราะว่า โดยข้อเท็จจริงแล้ว คนทุกผู้ทุกนามในโลกใบนี้ จะดีหรือเลว ก็ขึ้นอยู่กับสตรีในอันที่จะอบรมเลี้ยงดู บุตรหญิงชายของตน ด้วยความเข้มแข็งทางคุณธรรมจริยธรรม เพื่อที่จะให้เด็กเหล่านั้นเติบโตขึ้นมาเป็นผู้ใหญ่ที่ดีของสังคมในอนาคต ดังนั้น เมื่อสตรีหลีกเลี่ยงความทุกข์ทั้ง 5 ไม่ได้ จึงจำเป็นต้องใช้หลักธรรมในทางพระพุทธศาสนามาเป็นหลักยึดเหนี่ยวในการดำเนินชีวิต ตั้งตนอยู่ในศีลธรรม มีคุณธรรมจริยธรรม สามารถบริหารจัดการให้ครอบครัวอยู่ร่วมกันได้ด้วยความเมตตา ก็จะทำให้ตนเองและครอบครัวมีชีวิตอยู่อย่างมีความสุขที่แท้จริง

เอกสารอ้างอิง

กนก สีจร, ถวัลย์วงค์ รัตนสิริ, วิทูรย์ ประเสริฐเจริญสุข, โกวิท คำพิทักษ์. (26 มิถุนายน 2559). Antenatal
care. สูติศาสตร์. second edition. สืบค้นเมื่อวันที่ 24 มิถุนายน 2561, จาก https://haamor.
com/th/การตั้งครรภ์/.
ไทยเฮิร์บ การแพทย์แผนไทยประยุกต์. (2558). การมีประจำเดือน. สืบค้นเมื่อวันที่ 23 มิถุนายน 2561, จาก
www.facebook.com/Thaiherbclinic/posts.
พระธรรมปิฏก (ป.อ.ปยุตฺโต). (2546). พจนานุกรม ฉบับประมวลศัพท์. พิมพ์ครั้งที่ 9. กรุงเทพมหานคร :
โรงพิมพ์ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย.
พระมหามิตร ฐิตปญฺโญ. “พระพุทธศาสนากับการอุ้มบุญ”. วารสารการประชุมวิชาการระดับชาติ “บูรณา
การพระพุทธศาสนากับศาสตร์สมัยใหม่” เล่ม 1. มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย 22 –
23 ธันวาคม 2557 : 157-172.

มั่นเกียรติ โกศลนิรัติวงษ์. (2541). พุทธธรรม : ทฤษฎีและเทคนิคการให้คำปรึกษา. กรุงเทพมหานคร :
สุวิริยาสาส์น.
มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย. (2539). พระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย.
กรุงเทพ มหานคร : โรงพิมพ์มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย.
แม่รักลูก. (2559). ผู้หญิงคลอดบุตรสามขั้นตอน. สืบค้นเมื่อวันที่ 18 มิถุนายน พ.ศ. 2561, จาก www.
maerakkuke.com/topics/1226.
วิเชียร ชาบุตรบุณฑริก. (2542). ความจริงของชีวิต. กรุงเทพมหานคร : บริษัท ซีเอ็ดยูเคชั่น จำกัด.
RITTI JANSON. (30 พฤษภาคม 2554). อภิธรรม คือ โพธิปักขิยธรรม. สืบค้นเมื่อวันที่ 23 มิถุนายน พ.ศ.
2561, จาก https://rittijanson.blogspot.com.
Siamhealth. (2561). สุภาพสตรี. สืบค้นเมื่อวันที่ 18 มิถุนายน พ.ศ. 2561, จาก www.siamhealth.net/
pubic_htm/mother_child/menstruation/mens_index.htm.
Dr. W. Rahula. (1988). What the Buddha Taught. Bangkok : kurusapha Press.

ดาวน์โหลด

เผยแพร่แล้ว

2018-12-28

รูปแบบการอ้างอิง

พลอยงาม จ., & ฐิตปญฺโญ (วันยาว) พ. (2018). ความทุกข์ของสตรีตามทัศนะในพระพุทธศาสนาเถรวาท / The suffering of women in Theravada Buddhist view. วารสารมนุษยศาสตร์สังคมศาสตร์, 35(3), 114–128. สืบค้น จาก https://so01.tci-thaijo.org/index.php/HUSO/article/view/151859

ฉบับ

ประเภทบทความ

บทความวิจัย