การดำรงอัตลักษณ์มุสลิมในสังคมพหุวัฒนธรรมอีสาน
Main Article Content
บทคัดย่อ
การดำรงอัตลักษณ์มุสลิมในสังคมพหุวัฒนธรรมอีสานเป็นการศึกษาเรื่องวิธีการดำรงอัตลักษณ์มุสลิมในระดับปัจเจกบุคคลและองค์กรมุสลิมท่ามกลางความเป็นสังคมพหุวัฒนธรรมอีสานคือมุสลิมอีสานเป็นประชากรส่วนน้อยในพื้นที่อาศัยอยู่ร่วมกับกลุ่มวัฒนธรรมที่หลากหลายอย่างลงตัวด้วยความถ้อยทีถ้อยอาศัยซึ่งกันและกันทั้ง พุทธ คริสต์ จีน อิสลาม พบได้จากภายในพื้นที่เดียวกัน มีทั้งวัด โบสถ์ โรงเรียนคริสต์ สมาคมหอสมุดวัฒนธรรมจีน และมัสยิด อัตลักษณ์ในการศึกษาครั้งนี้ประกอบด้วย 3 อัตลักษณ์คือ อัตลักษณ์ละหมาด อัตลักษณ์ซะกาต และ อัตลักษณ์ การส่งเสริมความดียับยั้งความชั่ว ผู้วิจัยยังได้ศึกษาแนวทางการปฏิสัมพันธ์ที่มีส่วนทำให้อัตลักษณ์มุสลิมดำรงอยู่ได้ในสังคมพหุวัฒนธรรมอีสาน โดยมีวิธีการเก็บรวบรวมข้อมูลจากภาคสนามด้วยวิธีการสัมภาษณ์เจาะลึกแบบมีโครงสร้าง ประกอบกับการสังเกตการณ์แบบมีส่วนร่วมและแบบไม่มีส่วนร่วม ศึกษาข้อมูลจากเอกสาร งานวิจัย วิทยานิพนธ์ วารสาร หนังสือ บทความ เอกสารหมู่บ้าน และเอกสารทางราชการที่เกี่ยวข้อง การวิเคราะห์ข้อมูลด้วยการตีความโดยใช้แนวคิด ทฤษฎี และผลงานวิจัยที่เกี่ยวข้องมาอธิบายปรากฏการณ์ที่ศึกษาจนได้ข้อสรุป ผ่านกรอบแนวคิดเรื่องสังคมพหุวัฒนธรรม การสื่อสารระหว่างวัฒนธรรม อัตลักษณ์มุสลิม บทบาทองค์กรและแนวคิดวะสะฏียะฮ์ (ทางสายกลางในอิสลาม)
ผลการศึกษาพบว่าการดำรงอัตลักษณ์มุสลิมในสังคมพหุวัฒนธรรมอีสานนั้นขึ้นอยู่กับ 3 ปัจจัยคือ ปัจเจกบุคคล องค์กร และปฏิสัมพันธ์ทางสังคม ในระดับปัจเจกบุคคลนั้นเกี่ยวข้องกับการมีความรู้ด้านศาสนาและการปฏิบัติของประชาชน ด้านองค์กรเกิดจากวิสัยทัศน์ ภารกิจหลัก และโครงการที่องค์กรมีส่วนส่งเสริมให้ อัตลักษณ์มุสลิมสามารถดำรงอยู่ได้ในสังคมพหุวัฒนธรรมอีสาน สำหรับด้านปฏิสัมพันธ์นั้นพบว่ามี 2 ด้านด้วยกันคือ ปฏิสัมพันธ์ด้านศาสนาและปฏิสัมพันธ์ด้านสังคมเศรษฐกิจ ที่เกิดจากการติดต่อสื่อสารทางวัฒนธรรมระหว่างประชาชนของทั้ง 3 ศาสนาที่อาศัยอยู่ร่วมกันในสังคมพหุวัฒนธรรมอีสาน
Article Details
All contents and information in the manuscripts published by Journal of Political Science Critique are the authors’ opinions; thus, the authors take sole responsibility for any contents. The editorial board does not agree with or accept responsibility for the manuscripts.
All published articles, information, contents, pictures, or other things in Journal of Political Science Critique are Copyright by the Journal. All Rights Reserved. All contents may not be copied or duplicated in whole or part by any means without the prior written permission of Journal of Political Science Critique.
References
นิพนธ์ โซะเฮง. (2554). “การรักษาอัตลักษณ์ของมุสลิมในบริบทการพัฒนาของไทย.” วารสารวิชาการมหาวิทยาลัยการจัดการและเทคโนโลยีอีสเทิร์น 8: 141-143.
แผนงานสร้างเสริมสุขภาวะมุสลิมไทย. (2557). สำมะโนประชากรมุสลิม พ.ศ. 2553. กรุงเทพฯ: จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
ไพศาล วงษ์อารี. (2552). บทบาทของคณะกรรมการมัสยิดต่อการพัฒนาชุมชนมุสลิม ศึกษากรณีมัสยิดในเขตวัฒนา กรุงเทพมหานคร (วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต). สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์, คณะพัฒนาสังคมและสิ่งแวดล้อม, สาขาการบริหารการพัฒนาสังคม.
มนูญ โต๊ะอาจ. (2555). การเรียนรู้และการสื่อสารอัตลักษณ์ความเป็นมุสลิมของมุอัลลัฟในเขตชุนชนเมืองและชุมชนชนบทของไทย (วิทยานิพนธ์ปริญญาดุษฎีบัณฑิต). มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์, บัณฑิตวิทยาลัย, สาขานิเทศศาสตร์.
วิสุทธิ์ บิลล่าเต๊ะ. (2553). กระบวนการดำรงอัตลักษณ์มุสลิมกับการสร้างชุมชนที่เข้มแข็ง : กรณีศึกษาชุมชนมัสยิดบ้านเหนือ ตำบลคูเต่า อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา. (วิทยานิพนธ์ปริญญาดุษฎีบัณฑิต). มหาวิทยาลัยทักษิณ, บัณฑิตวิทยาลัย, สาขาวัฒนธรรมศึกษา.
สุไรยา วานิ. (2557). “การอยู่ร่วมกันของชุมชนในสังคมพหุวัฒนธรรม กรณีศึกษา ตำบลทรายขาว อำเภอโคกโพธิ์ จังหวัดปัตตานี.” วารสารการเมืองการปกครอง 4,1: 204–216.
ศิริจิต สุนันต๊ะ. (2556). “สถานการณ์โต้แย้งเรื่องพหุวัฒนธรรมในประเทศไทย.” ภาษาและวัฒนธรรม 32,1: 7-18.
อัมพร ธำรงลักษณ์. (2551). องค์การ : ทฤษฎี โครงสร้าง และการออกแบบ. กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์.
อารี จำปากลาย, ธีรนงค์ สกุลศรี และอาซิส ประสิทธิหิมะ. (2555). มุสลิมในประเทศไทย : ชายขอบหรือเพียงแค่แตกต่าง?. ใน มหาวิทยาลัยมหิดล, สถาบันวิจัยประชากรและสังคม, การประชุมวิชาการประชากรและสังคม ครั้งที่ 8 (87-104). นครปฐม: ผู้แต่ง.