การศึกษาพฤติกรรมการดำเนินชีวิต ตามแนวปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงที่นำไปสู่ความสำเร็จ การประกอบธุรกิจส่วนตัวขนาดเล็ก ในเขตจังหวัดนครปฐม

Abstract

การวิจัยนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อศึกษาระดับการดำเนินชีวิตตามแนวปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง และ ความสำเร็จในการประกอบธุรกิจส่วนตัวขนาดเล็กเพื่อเปรียบเทียบการดำเนินชีวิตตามแนวปรัชญาเศรษฐกิจ พอเพียง รวมถึงเพื่อเปรียบเทียบความสำเร็จในการประกอบธุรกิจส่วนตัวขนาดเล็ก ตลอดจนศึกษา ความสัมพันธ์ระหว่างการดำเนินชีวิตตามแนวปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงกับความสำเร็จในการประกอบ ธุรกิจส่วนตัวขนาดเล็กของประชากร กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ คือ ประชากรที่อาศัยอยู่ในเขต จังหวัดนครปฐม จำนวน 400 คน เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูลคือแบบสอบถามการวิเคราะห์ ข้อมูลโดยใช้สถิติเชิงพรรณนาในการวิเคราะห์ข้อมูลคือ ค่าร้อยละ คะแนนเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ส่วนสถิติเชิงอนุมานที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลคือ การทดสอบค่าที (t-test) และการทดสอบความแปรปรวน ทางเดียว (One Way ANOVA) รวมทั้งหาค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์ของการดำเนินชีวิตตามแนว ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงและความสำเร็จในการประกอบธุรกิจ

โดยผลการวิจัยพบว่า ประชากรมีการดำเนินชีวิตตามแนวปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงโดยรวม ในระดับมาก และประชากรที่มีสถานภาพแตกต่างกัน มีการดำเนินชีวิตตามแนวปรัชญาเศรษฐกิจ พอเพียงแตกต่างกัน ส่วนประชากรเพศชาย และเพศหญิงที่มีอายุ ระดับการศึกษา การประกอบธุรกิจ แตกต่างกัน มีการดำเนินชีวิตตามแนวปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงไม่แตกต่างกัน ในการศึกษาความสำเร็จ ในการประกอบธุรกิจ ประชากรมีระดับความสำเร็จในการประกอบธุรกิจโดยรวมในระดับสูง และประชากร ที่มีสถานภาพแตกต่างกัน มีโอกาสประสบความสำเร็จในการประกอบธุรกิจขนาดเล็กแตกต่างกัน ส่วน ประชากรที่อายุ ระดับการศึกษา การประกอบธุรกิจแตกต่างกัน มีโอกาสประสบความสำเร็จในการประกอบธุรกิจไม่แตกต่างกัน และพบว่าการดำเนินชีวิตตามแนวปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมีความสัมพันธ์ทางบวก กับความสำเร็จในการประกอบธุรกิจส่วนตัวขนาดเล็ก (r=.419) ทดสอบนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05

A Study Of Self-Sufficient Economy Living Style Behaviors That Lead To The Success Of Small Private Businesses Of The PeopleIn Nakhonpathom Province

The purposes of this research were: 1) to study the level of self-sufficient economy living style and the success of small private business. 2) to compare level of self-sufficient economy living style of people on the basis of gender, marital status, age, educational level and occupation. 3) to compare level of the success of small private business on the basis of gender, marital status, age, educational level and occupation. 4) to study the relationship between self-sufficient economy living style and the success of small private business. The sample of this research included 400 people in Nakhonpathom province. The instruments for collecting the data were questionnaires. The statistical methods and procedures for analyzing the data were percentage, mean, standard deviation, t-test, One Way ANOVA and Pearson’s product-moment correlation coefficient.

The results were as follows :

People in Nakhonpathom province were found to be at a high level of self-sufficient economy living style. Their marital status had a significant difference at the .05 level in self-sufficient economy living style of people,while no gender, age, educational level and occupation difference was found in their self-sufficient economy living style. This study also indicated that the people were found to be at a high level of the success of small private business. Only marital status was found to have a significant difference at the .05 level in the success of small private business, whereas no significant difference of any gender, age, educational level and occupation were found in the success of small private business. The findings also indicated a positive correlation coefficient (r=.419) at the .05 level of significance between self-sufficient economy living style and the success of small private business.