การสื่อสารประทุษวาจาทางการเมืองไทยบนเฟซบุ๊ก
คำสำคัญ:
การสื่อสาร, ประทุษวาจา, เฟซบุ๊กบทคัดย่อ
งานวิจัยนี้ มีวัตถุประสงค์ 1.เพื่อศึกษาปรากฏการณ์ความเคลื่อนไหวที่สำคัญทางการเมืองมีผลต่อการผลิตประทุษวาจาที่เกี่ยวข้องกับบริบทการเมืองที่พบในเฟซบุ๊กเพจ เชียร์ลุงตู่มาอยู่กลุ่มนี้1 และเพจของแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม อย่างไร และ2. เพื่อศึกษาประทุษวาจาที่เกี่ยวข้องกับบริบทการเมืองที่พบในเฟซบุ๊กเพจ เชียร์ลุงตู่มาอยู่กลุ่มนี้1 และเพจของแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม มีลักษณะเนื้อหาอย่างไร ใช้การวิจัยเชิงคุณภาพ โดยวิธีการสัมภาษณ์เชิงลึกนำความคิดเห็นมาถอดรหัสเป็นชุดคำประทุษวาจา เพื่อนำมาวิเคราะห์เนื้อหา จาก 3 ช่วงเวลา ระหว่างวันที่ 25 กรกฎาคม - 23 ตุลาคม 2564
ผลการวิจัยพบว่า ปรากฎการณ์ที่สำคัญทางการเมืองซึ่งส่งผลต่อการผลิตประทุษวาจาที่พบจาก 2 เพจ แบ่งได้เป็น 4รูปแบบ คือ 1) การเปิดรับข้อมูลที่สะท้อนอยู่เฉพาะภายในกลุ่มของตน(Echo chamber) ส่งผลต่อประทุษวาจาทางการเมือง 2) สงครามปฏิบัติข้อมูลข่าวสารสีดำ (Fake News) นำมาใช้เป็นเครื่องมือสื่อสารด้อยค่าฝ่ายตรงข้าม 3)ความคาดหวังในการต่อต้านประทุษวาจาการสื่อสารประเด็นทางการเมือง (Counter / Hate) Speech) 4) การรู้เท่าทันสื่อสังคมออนไลน์ (Social media Literacy) ส่งผลต่อผู้รับสารของเฟสบุ๊กเพจการเมือง
ด้านการวิเคราะห์เนื้อหาประทุษวาจาจาก 2 เพจ พบว่า ระดับความรุนแรง ที่ 1 แบบไม่ได้ตั้งใจ จากทั้ง 2 กลุ่มนั้นมีจำนวนมากที่สุด โดยระดับความรุนแรงที่ 2 และ 3 รองลงมาตามลำดับ และปัญหาการอยู่ในห้องเสียงสะท้อนของตนเอง (Echo Chamber) รวมถึงการสร้างข่าวปลอมที่เป็นส่วนหนึ่งของการสร้างปฏิบัติการข้อมูลข่าวสาร (Fake News by Information Operation) เป็นเรื่องที่ต้องได้รับการแก้ไขปัญหาด้วยการสร้างวัจนกรรมและอวจนกรรมการสื่อสารเพื่อแก้ไขความเข้าใจผิดให้กับผู้คนในสังคมร่วมกัน
References
กิติมา สุรสนธิ. (2555). การรู้เท่าทันสื่อกับการมีส่วนร่วมทางการเมือง. วารสารนิเทศศาสตร์ธุรกิจบัณฑิตย์, 6(2), 43-62. https://commarts.dpu.ac.th/journal/upload/issue/hwxk1GnK52.pdf
ชาญชัย ชัยสุโกศล. (2554). Hate speech และข้อมูลที่เป็นอันตราย: ทางเลือกและวิธีตอบโต้ทางการเมือง. https://chaisuk.files.wordpress.com/2011/06/hate-speech-alternative-respond-presentation-feb1811.pdf
นิธิดา วิวัฒน์พาณิชย์. (2558). การพัฒนาทักษะการรู้เท่าทันสื่อสังคมออนไลน์. วารสารบัณฑิตศึกษา มหาวิทยาลัยราชภัฏวไลยอลงกรณ์ในพระบรมราชูปถัมภ์, 9(3), 209-219. https://so02.tci-thaijo.org/index.php/JournalGradVRU/article/view/45702/37819
พิรงรอง รามสูต. (2558). ประทุษวาจากับโลกออนไลน์. มูลนิธิเพื่อการศึกษาประชาธิปไตยและการพัฒนา (โครงการจัดพิมพ์คบไฟ).
พิรงรอง รามสูต และคณะ. (2556). การกำกับดูแลสื่อที่เผยแพร่เนื้อหาที่สร้างความเกลียดชัง จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
วรารัตน์ ทักษิณวราจาร. (2554). การสื่อสารทางการเมืองบนเครือข่ายสังคมออนไลน์. วารสารนักบริหาร มหาวิทยาลัยกรุงเทพ, 31(2), 217-222. https://www.bu.ac.th/knowledgecenter/executive_journal/april_june_11/pdf/aw29.pf
วรวุฒิ อ่อนน่วม. (2555). ปรากฏการณ์ทางการสื่อสารยุคดิจิทัล. วารสารวิชาการสมาคมสถาบันอุดมศึกษาเอกชนแห่งประเทศไทย, 18(2), 212-220.
วาทะแห่งความเกลียดชัง. (2558, 16 มกราคม). คม ชัด ลึก. http://www.komchadluek.net/news/scoop/199566
Cortese, A. (2006) Opposing hate speech. Praeger.
Potter, W. J. (1998). Media literacy. Sage.
Silver Bratt & Baran (2003). Internet co-regulation: Eeuropean law, regulatory governance and legitimacy in cyberspace.
Walker, S. (1994). Hate speech: The history of an American controversy. Lincoln, Nebraska and London: University of Nebraska Press.
Downloads
เผยแพร่แล้ว
ฉบับ
บท
License
Copyright (c) 2023 วารสารนิเทศศาสตร์ธุรกิจบัณฑิตย์

This work is licensed under a Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
ลิขสิทธิ์เป็นของวารสาร....