ปัญหากรณีราษฎรเป็นโจทก์ฟ้องคดีอาญา : ศึกษากรณีการฟ้องคดีอาญาโดยไม่สุจริต ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 161/1
Main Article Content
บทคัดย่อ
บทคัดย่อ
บทความนี้มุ่งศึกษาปัญหาการดำเนินคดีอาญาโดยผู้เสียหายและการใช้สิทธิอย่างไม่สุจริตในการฟ้องคดีเพื่อประสงค์ที่จะกลั่นแกล้งฟ้องร้องบุคคลโดยใช้กระบวนการยุติธรรมเป็นเครื่องมือ ซึ่งการฟ้องคดีที่ไม่สุจริต บิดเบือนข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น ลักษณะพิเศษของการฟ้องคดีจะเป็นการยืดระยะเวลาให้นานที่สุด ทำให้ในระหว่างทางผู้ถูกฟ้องต้องสูญเสียเงินทองและเวลาในการเข้าสู้คดี รวมทั้งเป็นการบั่นทอนขวัญและกำลังใจของผู้ถูกฟ้อง ทำให้เกรงกลัวต่อการที่จะออกมาพูดหรือวิจารณ์การกระทำที่เกี่ยวข้องกับผลประโยชน์สาธารณะอันถือเป็นปัญหาสำคัญของประเทศไทย ตามสถิติที่มีการรวบรวมโดยสมาคมนักกฎหมายสิทธิมนุษยชนในปี พ.ศ. 2540-2562 พบว่าความผิดฐานหมิ่นประมาทตามมาตรา 326 และมาตรา 328 ถูกนำมาใช้ฟ้องกลั่นแกล้งกันมากที่สุดถึงร้อยละ 26.23 จากข้อมูลคดีทั้ง 212 คดี ซึ่งลักษณะการฟ้องมีทั้งฟ้องหมิ่นประมาทในคดีอาญา หมิ่นประมาทในคดีแพ่ง หรือฟ้องตามกฎหมายอื่นรวมมาด้วย[1] ยังไม่รวมคดีอีกจำนวนมากที่ได้มีการฟ้องร้องและถอนฟ้องออกไปทำให้บางคดีไม่ได้ถูกเก็บรวบรวมไว้ในสถิติ อันแสดงให้เห็นว่ากระบวนการในการกลั่นกรองคดีมีปัญหาด้วย ในเวลาต่อมาประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญาได้มีการเพิ่มเติมบทบัญญัติแห่งกฎหมายมาตรา 161/1 มาเพื่อแก้ไขปัญหาการฟ้องคดีที่ไม่สุจริต บิดเบือนข้อเท็จจริงเพื่อกลั่นแกล้ง หรือเอาเปรียบจำเลย หรือโดยมุ่งหวังผลอย่างอื่นยิ่งกว่าประโยชน์ที่พึงได้โดยชอบ ซึ่งบทบัญญัติที่มีขึ้นมานี้เป็นเครื่องมือในการช่วยกลั่นกรองคดีที่ต้องเข้ามาสู่กระบวนพิจารณาของศาลอีกขั้นตอนหนึ่ง แต่ด้วยกรอบของกฎหมาย หลักเกณฑ์ รวมไปถึงข้อจำกัดของบทบัญญัติกฎหมายมาตรา 161/1 นี้ ก่อให้เกิดปัญหาในการนำมาปรับใช้ว่ามาตราดังกล่าวจะสามารถแก้ไขปัญหาได้ตามความประสงค์ที่บัญญัติขึ้นมามากน้อยเพียงใด เนื่องจากสิทธิในการฟ้องคดีอาญาของผู้เสียหายไม่ว่าจะก่อนหรือภายหลักมีมาตรา 161/1 ราษฎรก็ยังคงมีอำนาจเต็มที่ในการฟ้องคดีต่อศาล คงมีเพียงกระบวนการในการกลั่นกรองคดีที่เปลี่ยนแปลงไปอันเป็นการเพิ่มขั้นตอนในการตรวจสอบความจริง โดยให้ศาลมีอำนาจมากขึ้นในการใช้ดุลพินิจยกฟ้องราษฎรได้ตั้งแต่ชั้นตรวจฟ้อง หากศาลเห็นว่าเป็นการฟ้องคดีโดยไม่สุจริต อันอาจนำมาซึ่งปัญหาอีกหลายประการที่เกิดจากการใช้ดุลพินิจของศาลและเป็นปัญหาต่อไปว่ามาตรา 161/1 สมควรมีอยู่ต่อไปหรือไม่
ตามปัญหาดังกล่าวบทความนี้ใช้วิธีการศึกษาเปรียบเทียบเพื่อพิจารณาว่าประเทศอื่น ๆ เช่น ประเทศฝรั่งเศส และประเทศเยอรมัน มีหลักการดำเนินคดีและกระบวนการในการกลั่นกรองคดีอาญาอย่างไร ซึ่งในต่างประเทศก็มีกรณีการฟ้องคดีโดยไม่สุจริตเช่นเดียวกับในประเทศไทย แต่อย่างไรก็ดี ประเทศฝรั่งเศสและประเทศเยอรมันใช้มาตรการที่แตกต่างกันในการแก้ไขปัญหา ดังนั้น บทความนี้จึงศึกษาวิเคราะห์ถึงรูปแบบการดำเนินคดี การกลั่นกรองคดีและแนวทางการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นเพื่อหาข้อเสนอให้กับประเทศไทย
ผลของการศึกษาพบว่าหลักการดำเนินคดีอาญาของแต่ละประเทศจะใช้หลักการดำเนินคดีโดยรัฐเป็นหลัก แต่มิได้ตัดอำนาจของผู้เสียหายออกไปอย่างเด็ดขาด ผู้เสียหายจะมีอำนาจดำเนินคดีอาญาเฉพาะในขอบเขตที่กำหนด โดยกระบวนการดำเนินคดีจะอยู่ในการกำกับหรือความรู้เห็นของพนักงานอัยการทั้งสิ้น อันถือเป็นการให้ความสำคัญกับบทบาทของพนักงานอัยการเป็นอย่างมากในการรักษาผลประโยชน์สาธารณะ จากการศึกษาเปรียบเทียบบทความนี้จึงมีการเสนอให้มีการจำกัดอำนาจในการฟ้องคดีอาญาของผู้เสียหายให้สามารถฟ้องคดีอาญาได้เองเฉพาะในความผิดต่อส่วนตัวและให้พนักงานอัยการเข้ามามีบทบาทในการดำเนินคดีของผู้เสียหาย เมื่อระบบเป็นไปตามที่ได้เสนอ ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 161/1 ก็ไม่มีความจำเป็นที่ต้องมีอยู่อีกต่อไป
[1] สมาคมนักกฎหมายสิทธิมนุษยชน, รายงานข้อเสนอแนะต่อการคุ้มครองผู้ใช้สิทธิและเสรีภาพเพื่อการมีส่วนร่วมในประเด็นสาธารณะจากการถูกฟ้องคดี 2562 <https://naksit.net/wp-content/uploads/2019/06/20190811-pdf.pdf>สืบค้นเมื่อ 21 พฤษภาคม 2563.
Article Details
บทความหรือข้อความคิดเห็นใด ๆ ที่ปรากฏในวารสารบัณฑิตศึกษานิติศาสตร์เป็นวรรณกรรมของผู้เขียนโดยเฉพาะคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และบรรณาธิการไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย
เอกสารอ้างอิง
สมาคมสิทธิเสรีภาพของประชาชน, ข้อเสนอต่อการปรับปรุงแก้ไขประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญาและประมวล
กฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง (การฟ้องคดีปิดกั้นการมีส่วนร่วมสาธารณะ Anti SLAPPs Law) 2562
สมาคมนักกฎหมายสิทธิมนุษยชน, รายงานข้อเสนอแนะต่อการคุ้มครองผู้ใช้สิทธิและเสรีภาพเพื่อการมีส่วนร่วมในประเด็น
สาธารณะจากการถูกฟ้องคดี 2562
หนังสือ
สุรศักดิ์ ลิขสิทธิ์วัฒนกุล, ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา ฉบับอ้างอิง, (พิมพ์ครั้งที่ 20, วิญญูชน 2563).
อุทัย อาทิเวช, คู่มือกฎหมาย วิธีพิจารณาความอาญา เล่ม 2 สิทธิของผู้เสียหายในคดีอาญา, (พิมพ์ครั้งที่ 3, ห้างหุ้นส่วน
จำกัด วี.เจ.พริ้นติ้ง 2558).
บทความ
คณิต ณ นคร, ‘อัยการเยอรมันและการดำเนินคดีอาญาของอัยการเยอรมันก่อนฟ้อง’ หนังสือรวมบทความด้านวิชาการ
ของศาสตราจารย์ คณิต ณ นคร อัยการสูงสุด (พิมพ์อักษร 2540).
ปกป้อง ศรีสนิท, ‘ปัญหาการดำเนินคดีอาญาโดยผู้เสียหาย’ ใน เขมภูมิ ภูมิถาวร (บรรณาธิการ) หนังสือรวมบทความงาน
วิชาการประจำปี 2550 (มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต 2552).
รชฎ เจริญฉ่ำ, ‘ระบบการฟ้องคดีโดยรัฐ’ (2539) 4 ดุลพาห 13.
สมคิด ณ นคร, ‘การพิจารณาคดีอาญาในศาลฝรั่งเศส’ (2507) 5 ดุลพาห 5.
วิทยานิพนธ์
สุจิต ปัญญาพฤกษ์, ‘การใช้สิทธิโดยสุจริต’ (วิทยานิพนธ์มหาบัณฑิต คณะนิติศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย 2541).
บล็อกและเว็บไซต์
สมาคมนักกฎหมายสิทธิมนุษยชนและไอลอว์, ‘SLAPPs คืออะไรแล้วทำไมเราถึงต้องให้ความสำคัญ’ (ilaw
freedom, 27 พฤศจิกายน 2019)
เสวนา
สุรสิทธิ์ แสงวิโรจนพัฒน์, ผู้พิพากษาศาลอุทธรณ์ประจำสำนักประธานศาลฎีกา, ‘การใช้สิทธิฟ้องร้องคดีอาญา ตามร่าง
พ.ร.บ.แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มาตรา 161/1’ (เสวนา, โครงการเผยแพร่ความรู้ทางด้านกฎหมายและการพิจารณาพิพากษาคดีของข้าราชการฝ่ายตุลการศาลยุติธรรม, สำนักงานศาลยุติธรรม, 14 มีนาคม 2562).