การศึกษาแนวทางการพัฒนาบทบาททีมสหวิชาชีพต่อการเลี้ยงดูเด็กด้วยวินัยเชิงบวก ในสถานรองรับเด็กแห่งหนึ่ง
คำสำคัญ:
บทบาททีมสหวิชาชีพ; วินัยเชิงบวก; การเลี้ยงดูเด็กด้วยวินัยเชิงบวกในสถานรองรับเด็กบทคัดย่อ
การศึกษานี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาปัญหาอุปสรรคและแนวทางการพัฒนาบทบาทของทีมสหวิชาชีพต่อการเลี้ยงดูเด็กด้วยวินัยเชิงบวกในสถานรองรับเด็กแห่งหนึ่ง ผลการวิจัย พบว่า ทีมสหวิชาชีพในสถานรองรับเด็กมีปัญหาอุปสรรคจากทีมสหวิชาชีพในการเลี้ยงดูเด็กด้วยวินัยเชิงบวก คือ 1) การขาดองค์ความรู้และทักษะในการเลี้ยงดู 2) ขาดความต่อเนื่อง ในการติดตามเด็กตามแผนพัฒนาเด็กรายบุคคล (Individual Development Plan : IDP) และ 3) ภาระงานที่ได้รับมอบหมายไม่สัมพันธ์กับจำนวนบุคลากร ในส่วนของปัญหาอุปสรรค จากหน่วยงานที่แบ่งออกเป็น 3 ประเด็น คือ 1) นโยบาย แผนงานหรือโครงการของหน่วยงานยังไม่ให้ความสำคัญต่อการเลี้ยงดูเด็กในสถานรองรับเด็กด้วยวินัยเชิงบวกและยังไม่มี ความชัดเจน 2) ขาดแคลนทรัพยากรสนับสนุนการทำงานที่จำเป็นต่อการเลี้ยงดูเด็กด้วย วินัยเชิงบวก และ 3) สวัสดิการคนทำงานที่ยังมีความเหลื่อมล้ำ โดยที่ทีมสหวิชาชีพใน สถานรองรับเด็กมีการเสนอรูปแบบการเลี้ยงดูเด็กตามบทบาทหน้าที่ของทีมสหวิชาชีพ ด้วยแนวคิดวินัยเชิงบวกตามลำดับขั้นตอน ดังนี้ 1) การกำหนดเป้าหมายระยะยาวในการเลี้ยงดูเด็ก เพื่อให้การเลี้ยงดูเด็กมีความเป็นเอกภาพและสามารถนำไปปฏิบัติเป็นแนวทางเดียวกัน 2) การเข้าใจเด็กที่มีความหลากหลายทั้งช่วงวัยและเด็กที่มีความต้องการพิเศษ จึงจำเป็นต้อง มีศูนย์การเรียนรู้ เพื่อจัดกิจกรรมที่ตอบโจทย์การพัฒนาและบำบัดเด็กที่มีปัญหาพฤติกรรม 3) การให้ความอบอุ่น เอาใจใส่และให้เวลากับเด็กอย่างสม่ำเสมอ การสัมผัส การให้กำลังใจ ชมเชย โดยเฉพาะการปฏิบัติต่อเด็กด้วยความเสมอภาค 4) การให้แนวทาง โดยการปฏิบัติตนเป็นตัวแบบที่ดี การสอนให้เด็กเรียนรู้จากประสบการณ์เพื่อป้องกันการเกิดปัญหาซ้ำในอนาคต รวมถึงการควบคุมอารมณ์ของผู้เลี้ยงดู และ 5) การแก้ปัญหา โดยการสอนให้เด็กแก้ไขปัญหาของตนเองอย่างถูกต้อง เปิดโอกาสให้เด็กรู้จักรับผิดชอบการกระทำแก้ไขปัญหาของตนเอง โดยไม่นำปัญหาของเด็กไปเปรียบเทียบ เพื่อช่วยเหลือเด็กให้มีการเจริญเติบโตอย่างถูกต้องเหมาะสมตามพัฒนาการตามวัยของเด็กอย่างมีประสิทธิภาพและมีความสุขควบคู่กันไป รวมถึงสร้างเสริมทักษะชีวิตให้เด็กสามารถกลับสู่ครอบครัวหรืออยู่ในสังคมได้อย่างปกติสุข
References
กรมกิจการเด็กและเยาวชน. (2559). การจัดบริการสวัสดิการสังคมให้กับเด็กในสถานรองรับ 30 แห่ง, สืบค้นจาก : https://www.dcy.go.th/webnew/main/services//130301.pdf, เมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2564.
กรมกิจการเด็กและเยาวชน. (2562). นโยบายการพัฒนาระบบคุณภาพสถานรองรับเด็ก. สืบค้นจาก : https://www.dailynews.co.th/article/688634, เมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2564.
เกศวดี ไกรนอก. (2562). คุณภาพชีวิตการทำงานของพี่เลี้ยงในสถานสงเคราะห์เด็กอ่อน สังกัดกรม กิจการเด็กและเยาวชน. สารนิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต.มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์, คณะ สังคมสงเคราะห์ศาสตร์, ภาควิชาสังคมสงเคราะห์ศาสตร์
จันท์ฑิตา พฤกษานานนท์. (2552). เด็กกับการเรียน พ่อแม่ ครู แพทย์และเด็กแก้ไขได้.นิตยสารหมอ ชาวบ้าน, เล่มที่ 364 ประจำเดือนสิงหาคม 2552.
จิราภรณ์ อรุณากูร. (2562). “วินัยเชิงบวก” แนวทางเลี้ยงลูกยุคใหม่ที่ท้าทาย แต่ได้ผล เกินคุ้ม. สืบค้นจาก : https://www.sanook.com/women/136037/, เมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2564.
โจน อี เดอร์แรนท์. (2007). การสร้างวินัยเชิงบวก ความเข้าใจที่ถูกต้องและวิธีนำไปใช้. กรุงเทพฯ: บริษัท คีน มีเดีย (ประเทศไทย) จำกัด
ชุลี สงวนกิจ. (2550). การพัฒนาทักษะของผู้ปฏิบัติงานเพื่อการบริการในสถานสงเคราะห์เด็ก. วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต, มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์, คณะสังคมสงเคราะห์ศาสตร์, สาขาการบริหารและนโยบายสวัสดิการสังคม.
ณัฐวดี ณ มโนรม. (2547). คู่มือปฏิบัติงานของทีมสหวิชาชีพในกระบวนการคุ้มครองเด็ก. กรุงเทพฯ: ม.ป.พ.
ทิพสุคนธ์ ศรีแจ่ม. (2548). การพัฒนาบุคลากรพี่เลี้ยงเด็กในสถานสงเคราะห์เด็กอ่อนสังกัดกรม พัฒนาสังคมและสวัสดิการ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์. วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต, มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์.
นงพงา ลิ้มสุวรรณ. (2557). จิตวิทยาการเลี้ยงดูและอบรมเด็ก. สืบค้นจาก : https://www.thaihealth.or.th/Content/26043, เมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2564.
นวลจันทร์ จุฑาภักดีกุล. (2559). การเลี้ยงลูกด้วยนมแม่กับการพัฒนา Executive Function ของลูก. ศูนย์วิจัยประสาทวิทยาศาสตร์, สถาบันชีววิทยาศาสตร์โมเลกุล มหาวิทยาลัยมหิดล
ปนัดดา ธนเศรษฐกร. (2561). เลี้ยงลูกถึงใจ ด้วยวินัยเชิงบวก. สืบค้นจาก : https://thepotential.org/knowledge/positive-discipline/, เมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2564.
ปาริชาต ทองคำ. (2546). ความรู้และความต้องการของพี่เลี้ยงในการส่งเสริมการปฏิบัติงานดูแลเด็ก อ่อนในสถานสงเคราะห์. วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต, มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์, คณะ สังคมสงเคราะห์ศาสตร์, สาขาการบริหารและนโยบายสวัสดิการสังคม.
ฝ่ายนิติการ กองกลาง สำนักงานส่งเสริมสวัสดิภาพและพิทักษ์เด็ก เยาวชน ผู้ด้อยโอกาส และ ผู้สูงอายุ. (2555). เลี้ยงลูกถูกวิธี : คู่มือมาตรฐานขั้นต่ำในการอุปการะเลี้ยงดูเด็กตามพระราชบัญญัติคุ้มครองเด็ก พ.ศ. 2546. พิมพ์ครั้งที่ 4. กรุงเทพฯ : สำนักงาน, 2555
ภัทรยา เมธาพร บ.ก. เรียบเรียง. (2554). สารานุกรมพฤติกรรมเด็กเพื่อตรวจสอบและพัฒนา IQ & EQ. กรุงเทพฯ : มา ยิก
มณี ภิญโญพรพาณิชย์. (2556). รักวัวให้ผูก...รักลูกให้ใจ. เชียงใหม่: เชียงใหม่โรงพิมพ์แสงศิลป์.
มูลนิธิสุขภาพไทย. (2556). โครงการพลังอาสาสมัครสร้างสุขให้เด็กในสถานสงเคราะห์. สืบค้นจาก : http://www.thaihof.org/อาสาสร้างสุข/, เมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2564.
รพีพรรณ สุวรรณณัฐโชติ. (2550). สังคมวิทยา. สงขลา: ไทยนำ.
ระเบียบกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์. (2549). กำหนดมาตรฐานขั้นต่ำในการ อุปการะ เลี้ยงดู อบรมสั่งสอน และพัฒนาเด็กที่อยู่ในความปกครองดูแล พ.ศ. 2549. สืบค้น จาก : http://law.m-society.go.th/law2016/law/view/10, เมื่อวันที่ 16 ธันวาคม 2564.
ศิริรัตน์ แอดสกุล. (2555). ความรู้เบื้องต้นทางสังคมวิทยา. กรุงเทพฯ: สำนักพิมพ์แห่งจุฬาลงกรณ์ มหาวิทยาลัย.
ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กจอมมะณี.(2552). การอบรมเลี้ยงดูเด็กปฐมวัย. สืบค้นจาก : http://muang.udonthani.police.go.th/manatsananit48215/data/d4.doc, เมื่อวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2564.
สถาบันราชานุกูล. (2551). สายใย พันผูก เลี้ยงลูกทางบวก Positive Parenting.กรุงเทพฯ: บียอนด์ พับลิชชิ่ง.
สมบัติ ตาปัญญา. (2550). รายงานผลการศึกษาฉบับสมบูรณ์โครงการวิจัย "การศึกษาเพื่อพัฒนา รูปแบบแนวทางการป้องกันความรุนแรงต่อเด็กแบบยั่งยืน" ปีที่ 2. สำนักงานกองทุน สนับสนุนสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.), และมูลนิธิสาธารณสุขแห่งชาติ (มสช.).
สุภาพรรณ ศรีสุข. (2563). ลูกเป็นแบบไหน บอกได้จากการเลี้ยงดู. สืบค้นจาก : https://www.trueplookpanya.com/knowledge/content/83704/-blog-parpres-par-, เมื่อวันที่ 28 ธันวาคม 2564.
สุมาลี สุขพัฒน์. (2544). ทัศนคติของเจ้าหน้าที่เกี่ยวกับการพัฒนาความสามารถทางอารมณ์ของเด็กใน สถานสงเคราะห์เด็ก สังกัดกองสงเคราะห์เด็กและบุคคลวัยรุ่น กรมประชาสงเคราะห์. วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต,มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์, คณะสังคมสงเคราะห์ศาสตร์.
สุริยเดว ทรีปาตี. (2559). หัวใจสำคัญของการใช้จิตวิทยาเชิงบวกปรับพฤติกรรมลูก. สืบค้นจาก : https://thepotential.org/family/positive-psychology-sixth/, เมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2564.
เสาวภา พรจินดารักษ์. (2563). เลี้ยงลูกเชิงบวกของหมอเสาวภา. กรุงเทพฯ: สำนักพิมพ์ Happy Parenting.
อรธิชา วิเศษโกสิน. (2551). แนวทางการพัฒนาการปฏิบัติงานสหวิชาชีพของพนักงานเจ้าหน้าที่ ตามพระราชบัญญัติคุ้มครองเด็ก พ.ศ. 2546. วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต, มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์, คณะสังคมสงเคราะห์ศาสตร์.
Office of Child Welfare and Protection of Underprivileged Children and the Elderly, Ministry of Social Development and Human Security. Violence against children: children in juvenile observation and protection center, Volume 6. Bangkok: Ministry of Social Development and Human Security; 2012.
The Association of Southeast Asian Nations (ASEAN). The ASEAN guidelines for a non- violent approach to nurture, care and development of children, in all settings [Internet]. Jakarta: ASEAN Secretariat; 2016 Retrieved from https://asean.org/wp-content/uploads/2017/03/ASEAN-Guidelinefor-Non- Violent-Approach_FINAL.pdf, access on Febuary, 6, 2021.
Downloads
เผยแพร่แล้ว
ฉบับ
บท
License
Copyright (c) 2022 วารสารวิชาการแสงอีสาน
This work is licensed under a Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
เนื้อหาและข้อมูลในบทความที่ตีพิมพ์ในวารสาร ถือเป็นข้อคิดเห็นและความรับผิดชอบของผู้เชียนบทความโดยตรง ซึ่งวารสารไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง นอกจากนั้น ผู้เขียนทุกท่านต้องยืนยันว่าบทความต้นฉบับที่ส่งมาตีพิมพ์เผยแพร่นั้น จะต้องไม่เป็นบทความที่กำลังอยู่ในการพิจารณาเพื่อตีพิมพ์ในวารสารอื่นหรือเคยตีพิมพ์เผยแพร่มาแล้ว หากมีการใช้ภาพ ข้อความหรือตารางของผู้เขียนหรือผู้นิพนธ์ท่านอื่น ผู้เขียนจะต้องอ้างแหล่งที่มาหรือเจ้าของลิขสิทธ์
Publication Ethic:
The detail published in Saeng Isan Journal is opinion and responsibility of the authors, and it is not relevant with the jouranl. Besides, the authors must certify that the original manuscript is not in the process to publish in other journals or used to publish in other journals. If the authors use paragraphs, pictures or tables from others, the athours must refer to the original sources.
Article Consideration:
Each article will be published by a panel three journalists with expertise in relevant fields, and get the editorial approval before publishing. The review is in the form of The article's double blind.
To comply with copyright law. The author must sign the copy of the article submission form to the journal. In addition, the author must confirm that the original article submitted to the journal is only one publication in Saeng Isan Journal. If the images or tables of other authors appearing in other publications are used, the author must ask permission of the copyright owner before publishing.