ธรรมาสน์ล้านนา: อัตลักษณ์ ภูมิปัญญา และสุนทรียศาสตร์มรดกวัฒนธรรมทางพระพุทธศาสนา
คำสำคัญ:
ธรรมาสน์ล้านนา, ภูมิปัญญา, สุนทรียศาสตร์บทคัดย่อ
บทความวิจัยนี้มี วัตถุประสงค์ดังนี้ 1) เพื่อศึกษาสำรวจ วิเคราะห์ประวัติความเป็นมาและอัตลักษณ์ของธรรมาสน์ล้านนา 2) เพื่อวิเคราะห์สุนทรียศาสตร์ที่ปรากฏในภูมิปัญญาการสร้างสรรค์ธรรมาสน์ล้านนา และ 3) เพื่อพัฒนากระบวนการเผยแพร่และถ่ายทอดความรู้ภูมิปัญญาสร้างสรรค์ธรรมาสน์ล้านนา งานวิจัยนี้เป็นการวิจัยเชิงคุณภาพ ในพื้นที่วัด 2 แห่ง ได้แก่ วัดพระธาตุหริภุญชัย วรมหาวิหาร อำเภอเมือง จังหวัดลำพูน และวัดพระธาตุลำปางหลวง อำเภอเกาะคา จังหวัดลำปาง โดยใช้การศึกษาข้อมูลเชิงเอกสารและการสัมภาษณ์เชิงลึกกับผู้ให้ข้อมูลสำคัญ จำนวน 20 รูป/คน และการสนทนากลุ่มย่อยกับผู้ทรงคุณวุฒิ จำนวน 6 รูป/คน การวิเคราะห์เชิงเนื้อหาด้วยการพรรณนาบรรยาย
ผลการวิจัยพบว่า 1) ธรรมาสน์ล้านนามีรูปแบบสถาปัตยกรรมที่สร้างขึ้นตั้งแต่พุทธศตวรรษที่ 23 - 25 โดยสอดคล้องกับปรัชญาและคติธรรมทางพระพุทธศาสนา มีโครงสร้างแบ่งเป็น 3 ส่วน ได้แก่ ฐาน เรือนเทศน์ และหลังคา แต่ละส่วนแฝงความหมายเชิงศาสนา เช่น การแกะสลักลวดลายดอกบัวซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของการพ้นจากกิเลส และลวดลายนาคที่สื่อถึงการปฏิบัติอุโบสถศีลอย่างเคร่งครัด ธรรมาสน์บางหลังยังมีลวดลายเทวดาที่สื่อถึงการบูชาพระธรรมของเทวดา ซึ่งจัดเป็นอามิสบูชา สะท้อนความเชื่อของชาวล้านนาในเรื่องการสร้างบุญกุศล 2) สุนทรียศาสตร์ที่ปรากฏในธรรมาสน์ล้านนา มีความโดดเด่นด้านการออกแบบและตกแต่ง โดยลวดลายต่าง ๆ ลายดอกบัวที่สื่อถึงการตรัสรู้ ลายเถาวัลย์ที่แสดงถึงการเติบโต และลายเมฆที่สื่อถึงการหลุดพ้นจากความทุกข์ เป็นลวดลายที่ถูกออกแบบมาอย่างประณีตเพื่อสะท้อนคติธรรมที่ลึกซึ้ง นอกจากนี้ การจัดวางและออกแบบธรรมาสน์ยังถูกออกแบบมาเพื่อส่งเสริมบรรยากาศในการปฏิบัติธรรมและการศึกษาพระธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้า ลวดลายและสัญลักษณ์ที่ใช้ในการตกแต่งธรรมาสน์ช่วยส่งเสริมบรรยากาศแห่งการปฏิบัติธรรมอย่างสมบูรณ์ และ 3) การพัฒนากระบวนการเผยแพร่และถ่ายทอดภูมิปัญญาการสร้างธรรมาสน์ล้านนา มุ่งเน้นการอนุรักษ์ศิลปกรรมผ่านการฝึกอบรม การจัดกิจกรรม และการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อเผยแพร่ความรู้ไปยังสังคมในวงกว้าง นิทรรศการและการแสดงศิลปกรรมมีบทบาทสำคัญในการสร้างความสนใจและกระตุ้นการอนุรักษ์ศิลปกรรมล้านนาในยุคปัจจุบัน
References
กาญจนา ชลศิริ และวัชระ กว้างไชย์. (2561). การอนุรักษ์นาคทันต์และธรรมาสน์บุษบกล้านนา. รายงานวิจัย. สถาบันวิจัยพุทธศาสตร์, มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย, หน้า140.
ทรงพันธ์ วรรณมาศ. (2546). ปราสาท-ธรรมาสน์ในเขตจังหวัดเชียงรายและพะเยา.รายงานวิจัย. ภาควิชาภาษาไทย, คณะวิจิตรศิลป์, มหาวิทยาลัยเชียงใหม่, หน้า 84-91
นพดณ ปัญญาวรทัต และคณะ. (2563). การส่งเสริมและอนุรักษ์การสร้างสรรค์ศิลปะของวัดและชุมชนในกลุ่มจังหวัดล้านนา. รายงายวิจัย. สถาบันวิจัยพุทธศาสตร์, มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย, หน้า 35
พระพีร์ญาภพพ์ ธารพนาลี และคณะ. (2563). จากปราสาทศพสู่ธรรมาสน์ล้านนา.วารสารมนุษยศาสตร์, ปีที่ 17 ฉบับที่ 3 ประจำเดือนกันยายน – ธันวาคม, 49-59
พระมหาจรัญ ยาวินัน. (2549) .ศึกษาเรื่องธรรมาสน์พื้นเมืองจังหวัดลำปาง. สารนิพนธ์ศิลปศาสตรมหาบัณฑิต, สาขาวิชาประวัติศาสตร์ศิลปะ, ภาควิชาประวัติศาสตร์ศิลปะ, คณะมนุษยศาสตร์, มหาวิทยาศิลปากร, หน้า 43-46
วิบูลย์ ลี้สุวรรณ. (2527) . ศิลปหัตถกรรมภาคต้น. กรุงเทพมหานคร: ปาณยา, หน้า147.
สุรศักดิ์ เจริญวงศ์. (2535). 81 ปีแห่งการสถาปนากรมศิลปากร. กรุงเทพมหานคร : ฉลองรัตนโกสินทร์ กองโบราณคดี, หน้า 11
สุรัสวดี อ๋องสกุลและรัสวดี อ๋องสกุล. (2549). ประวัติศาสตร์ล้านนา. พิมพ์ครั้งที่ 3 . กรุงเทพมหานคร: อมรินทร์,หน้า 259.
อรุณรัตน์ วิเชียรเขียว. (2547). โบราณสถาน-โบราณวัตถุวัดในล้านนา. สถาบันภาษาศิลปะและวัฒนธรรม มหาวิทยาลัยราชภัฏชียงใหม่,หน้า 109.
Downloads
เผยแพร่แล้ว
ฉบับ
บท
License
Copyright (c) 2024 วารสารวิชาการแสงอีสาน Saeng-Isan Academic Journal ISSN:3027-6152(Print), ISSN:3027-6160(Online)
This work is licensed under a Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
เนื้อหาและข้อมูลในบทความที่ตีพิมพ์ในวารสาร ถือเป็นข้อคิดเห็นและความรับผิดชอบของผู้เชียนบทความโดยตรง ซึ่งวารสารไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง นอกจากนั้น ผู้เขียนทุกท่านต้องยืนยันว่าบทความต้นฉบับที่ส่งมาตีพิมพ์เผยแพร่นั้น จะต้องไม่เป็นบทความที่กำลังอยู่ในการพิจารณาเพื่อตีพิมพ์ในวารสารอื่นหรือเคยตีพิมพ์เผยแพร่มาแล้ว หากมีการใช้ภาพ ข้อความหรือตารางของผู้เขียนหรือผู้นิพนธ์ท่านอื่น ผู้เขียนจะต้องอ้างแหล่งที่มาหรือเจ้าของลิขสิทธ์
Publication Ethic:
The detail published in Saeng Isan Journal is opinion and responsibility of the authors, and it is not relevant with the jouranl. Besides, the authors must certify that the original manuscript is not in the process to publish in other journals or used to publish in other journals. If the authors use paragraphs, pictures or tables from others, the athours must refer to the original sources.
Article Consideration:
Each article will be published by a panel three journalists with expertise in relevant fields, and get the editorial approval before publishing. The review is in the form of The article's double blind.
To comply with copyright law. The author must sign the copy of the article submission form to the journal. In addition, the author must confirm that the original article submitted to the journal is only one publication in Saeng Isan Journal. If the images or tables of other authors appearing in other publications are used, the author must ask permission of the copyright owner before publishing.