ปัจจัยส่วนบุคคลกับวิธีการบริหารความขัดแย้ง : กรณีศึกษาบุคลากรในรัฐวิสาหกิจแห่งหนึ่ง
Main Article Content
บทคัดย่อ
วัตถุประสงค์ของการวิจัย คือ 1) ศึกษาระดับและลำดับความสำคัญของแต่ละวิธีการบริหารความขัดแย้งของบุคลากร 2) ศึกษาเปรียบเทียบปัจจัยส่วนบุคคลในเรื่องเพศและรุ่นของคนกับวิธีการบริหารความขัดแย้งของบุคคล และ 3) ศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างปัจจัยส่วนบุคคล ได้แก่ อายุ การศึกษา รายได้ และประสบการณ์ในการทำงานกับวิธีการบริหารความขัดแย้งของบุคคลในรัฐวิสาหกิจแห่งหนึ่ง กลุ่มตัวอย่างเป็นบุคลากรในรัฐวิสาหกิจแห่งหนึ่ง จำนวน 40 คน ซึ่งได้มาด้วยวิธีการสุ่มอย่างง่าย เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ แบบวัดวิธีการบริหารความขัดแย้งที่คณะผู้วิจัยปรับและพัฒนาจากแบบวัดวิธีการบริหารความขัดแย้ง ของ Thomas-Kilman ที่มีชื่อว่า Thomas-Kilman Instrument (TKI) การวิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติ t-test และการวิเคราะห์สหสัมพันธ์แบบ Pearson Product-moment ผลการวิจัย พบว่า 1) เพศของบุคลากรที่แตกต่างกัน มีวิธีการบริหารความขัดแย้งไม่แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (เนื่องจากค่า p >.05) 2) รุ่นของคนที่แตกต่างกัน มีวิธีการบริหารความขัดแย้งแตกต่างกัน โดยบุคลากร Generation Y มีวิธีการบริหารความขัดแย้ง ด้านการปรองดองหรือยอมให้ (t = -2.45, p < .05) และด้านการหลีกเลี่ยง (t = -2.89, p < .05) สูงกว่า บุคลากร Generation X อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 ในขณะที่บุคลากรใน Generation X มีวิธีการบริหารความขัดแย้งด้านการเอาชนะ (t = 3.98, p < .05) สูงกว่าบุคลากรใน Generation Y อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ.05 และ 3) ปัจจัยส่วนบุคคล ได้แก่ อายุ การศึกษา รายได้ และประสบการณ์ในการทำงาน มีความสัมพันธ์กับวิธีการบริหารความขัดแย้งของบุคลากร
Article Details
อยู่ระหว่างการปรับปรุง (ลิขสิทธิ์และการรับผิดชอบ)
References
2.Kilmann, R.H., Thomas, K.W. Developing a forced choice measure of conflict handling behavior: the mode instrument”, Education and Psychological Measurement, Vol. 37, 1972: 309-325.
3.Mills, J., & Chusmir, L. H. Managerial conflict resolution styles: Work and home differences. In:Goldsmith, E. (Ed.),Work and family: Theory, research, and applications (special issue). Journal of Social Behavior and Personality. 3,(4), 1988 : 303-316.
4.Lindeman, M., Harakka, T., & Keltikangas-Järvinen, L. Age and gender differences in adolescents’ reaction to conflict situations: Aggression, prosociality, and withdrawal-.Journal of Youth and Adolescence. 26,(3), 1977: 339-351.
5.Holmes, H., & Tangtongtavy, S. Working with Thais: A guide to managing in Thailand 4thed. Bangkok: White Lotus.1997.
6.Ting-Toomey, S. Culture, facemaintenance, and styles of handling interpersonal conflict: A study in five cultures.The International Journal of Conflict Management. 2 (24),1991: 275-296.
7.Pruitt,D,G.,& Carnevale, P.j Negotiation and social conflict. Belmont, CA: Thomson Brooks/Cole.