การศึกษาความตระหนักของผู้ตรวจสอบบัญชีภาครัฐต่อการป้องกัน การตรวจพบ และการรายงานการทุจริต กรณีศึกษา สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน

Main Article Content

เอกชัย ดวงไฟ

บทคัดย่อ

การศึกษาความตระหนักและการรับรู้ด้านการทุจริตของผู้ตรวจสอบบัญชีภาครัฐ เป็นบันไดขั้นพื้นฐานที่ช่วยส่งเสริมให้ผู้ตรวจสอบบัญชีภาครัฐปฏิบัติงานตรวจสอบได้อย่างมีคุณภาพ บทความนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาความตระหนักของผู้ตรวจสอบบัญชีภาครัฐที่มีต่อการป้องกัน การตรวจพบและการรายงานการทุจริต และศึกษาความแตกต่างของความตระหนักของผู้ตรวจสอบบัญชีภาครัฐแต่ละระดับ การวิจัยครั้งนี้เป็นการศึกษาแบบผสานวิธี (Mixed method) เก็บรวบรวมข้อมูลจากแบบสอบถามและแบบสัมภาษณ์จากผู้ปฏิบัติงานตรวจสอบบัญชีภาครัฐของสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน ผลการศึกษาพบว่าผู้ปฏิบัติงานตรวจสอบบัญชีภาครัฐนั้นมีความตระหนักต่อการป้องกัน การตรวจพบและการรายงานการทุจริตอยู่ในระดับที่แตกต่างกัน 1) ความตระหนักด้านการป้องกันการทุจริต พบว่าระดับชำนาญการพิเศษและระดับชำนาญการมีความแตกต่างในระดับที่สูงกว่าระดับปฏิบัติการอย่างมีนัยสำคัญ 2) ความตระหนักด้านการตรวจพบการทุจริตพบว่าระดับผู้อำนวยการ ระดับชำนาญการพิเศษ และระดับชำนาญการมีความแตกต่างในระดับที่สูงกว่าระดับปฏิบัติการอย่างมีนัยสำคัญ 3) ความตระหนักด้านการรายงานการทุจริตพบว่าระดับผู้อำนวยการ ระดับชำนาญการพิเศษมีความแตกต่างในระดับที่สูงกว่าระดับชำนาญการและระดับปฏิบัติการอย่างมีนัยสำคัญ และสามารถนำข้อมูลเพื่อใช้เป็นแนวทางในการส่งเสริมและพัฒนาด้านการตรวจสอบบัญชีภาครัฐแก่บุคลากรสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินต่อไป

Article Details

How to Cite
ดวงไฟ เ. (2021). การศึกษาความตระหนักของผู้ตรวจสอบบัญชีภาครัฐต่อการป้องกัน การตรวจพบ และการรายงานการทุจริต กรณีศึกษา สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน. วารสารวิจัยราชภัฏกรุงเก่า สาขามนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์, 8(1), 57–64. สืบค้น จาก https://so01.tci-thaijo.org/index.php/rdi-aru/article/view/241711
บท
บทความวิจัย

References

A. Graycar and D. Villa, “The Loss of Governance Capacity through Corruption,” An International Journal of Policy, Administration, and Institutions, Vol. 24, No. 3, pp. 419-438, 2011.(วารสาร)

สังศิต พิริยรังสรรค์ และผาสุก พงษ์ไพจิตร, คอรัปชั่นกับประชาธิปไตยไทย, ศูนย์เศรษฐศาสตร์ การเมือง คณะเศรษฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, 2536. (หนังสือ)

ต่อภัสสร์ ยมนาค, “ทุจริตในประเทศไทยกรณีศึกษาการทุจริตและสภาวการณ์ทางสังคม-การเมืองในวงการก่อสร้างไทย,” วารสารวิชาการ ป.ป.ช., ปีที่ 8, ฉบับที่ 2, หน้า 76-100, 2558. (วารสาร)

Transparency International. (2019). Corruption Perceptions Index 2019. สืบค้นจาก https:// www.bbc.com/thai/thailand-51217494. (เว็บไซต์)

ประกาศคณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดิน เรื่อง หลักเกณฑ์มาตรฐานเกี่ยวกับการตรวจเงินแผ่นดิน, สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน, 2562. (คู่มือ/รายงาน)

A. Zarefar, Andreas and A. Zarefar, “The Influence of Ethics, experience and competency toward the quality of auditing with professional auditor skepticism as a Moderating Variable,” Procedia – Social and Behavioral Sciences, Vol. 219, pp. 828-832, 2016. (วารสาร)

Owusu‐Ansah S., Moyes G. D., Oyelere P. B. and Hay D. “An empirical analysis of the likelihood of detecting fraud in New Zealand,” Managerial Auditing Journal,pp.192-204, 2002. (วารสาร)

นิศาชล รัตนมณี และประสพชัย พสุนนท์, "อัตราการตอบกลับของแบบสอบถามในงานวิจัยเชิงปริมาณ", Journal of Humanities and Social Sciences Thonburi, Vol. 13, No. 3, pp. 181-188, 2019. (วารสาร)

S. S. Halbouni, “The Role of Auditors in Preventing, Detecting, and Reporting Fraud: The Case of the United Arab Emirates (UAE),” International Journal of Auditing, Vol. 19, pp. 117-130, 2015. (วารสาร)

M. Jizi, R. Nehme and R. ELHout, “Fraud: Auditors' Responsibility or Organisational Culture,” International Social Science Journal, Vol. 66, No. 221-222, pp. 241-255, 2016. (วารสาร)

H. A. Hashim, Z. Salleh, N. R. Mohamad, F. S. Anuar and M. M. Ali, "Auditors' Perception towards their Role in Assessing, Preventing and Detecting Business Fraud," International Journal of Innovation, Creativity and Change, Vol. 5, No. 2, pp. 847-862, 2019. (วารสาร)

มาตรฐานการสอบบัญชี ฉบับที่ 240 เรื่อง ความรับผิดชอบของผู้สอบบัญชีเกี่ยวกับการพิจารณาการทุจริตในการตรวจสอบงบการเงิน, สภาวิชาชีพบัญชีในพระบรมราชูปถัมภ์, 2555. (คู่มือ/รายงาน)

มาตรฐานกำหนดตำแหน่งข้าราชการสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน พ.ศ. 2561, สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน, 2561. (คู่มือ/รายงาน)

S. W. Breckler, Attitude Structure and Function, New Jork: L Eribaum Association, 1986. (หนังสือ)