สภาพปัจจุบัน ปัญหาและแนวทางการอนุรักษ์สืบทอด “โขน” ในกลุ่มเด็กและเยาวชน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา

Main Article Content

อัจฉราพรรณ กันสุยะ
ปิยะ มีอนันต์
สุพินดา เพชรา

บทคัดย่อ

การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ (1) เพื่อศึกษาสภาพปัจจุบัน และปัญหาการอนุรักษ์ สืบสาน “โขน” และ (2) เพื่อศึกษาแนวทางการอนุรักษ์ และสืบทอด “โขน” ในกลุ่มเด็กและเยาวชน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา การวิจัยนี้เป็นการวิจัย เชิงคุณภาพ โดยใช้เทคนิคการเก็บข้อมูลจากเอกสาร และการสัมภาษณ์เชิงลึกกับผู้ให้ข้อมูลหลักจำนวน 5 คน ประกอบด้วย (1) ครูภูมิปัญญาท้องถิ่นด้านโขนและผู้เชี่ยวชาญด้านโขน 2 คน (2) ผู้เชี่ยวชาญด้านการศึกษา ประวัติศาสตร์ การจัดการเรียนรู้โขน 3 คน เครื่องมือในการวิจัย เป็นแบบสัมภาษณ์กึ่งโครงสร้าง และใช้เทคนิคการวิเคราะห์เนื้อหา ผลการวิจัย พบว่า 1) สภาพปัจจุบัน และปัญหาของการอนุรักษ์ สืบสาน “โขน” ได้มีการส่งเสริม อนุรักษ์ ฟื้นฟู ผ่านเครือข่ายความร่วมมือระหว่างหน่วยงานภาครัฐและเอกชน และสถาบันการศึกษาในพื้นที่ อาทิ มูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพ กระทรวงวัฒนธรรม จังหวัดร่วมกับสำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดพระนครศรีอยุธยา และหน่วยงานสถาบันการศึกษา เช่น วิทยาลัยนาฏศิลป์อ่างทอง ร่วมกับสถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์ ผลิตบัณฑิตและจัดการเรียนการสอนด้านการแสดงโขน และสถาบันการศึกษา ส่งนักเรียนร่วมโชว์และแสดงในงานต่าง ๆ ส่วนปัญหาของการอนุรักษ์ สืบสาน “โขน” พบว่า (1) การขาดแคลนบุคลากรเฉพาะทาง (2) การแสดงโขนในแต่ละครั้งมีค่าใช้จ่ายสูง (3) โขนถูกสร้างให้เข้าถึงยาก น่ากลัว (4) ปัญหาอื่น ๆ เช่น ผู้บริหาร หรือครูผู้สอน ที่รับผิดชอบเรื่องโขน เกษียณอายุราชการ หรือโยกย้าย ส่งผลต่อการสานต่องานและกิจกรรมด้านโขนในโรงเรียน เป็นต้น 2) แนวทางการอนุรักษ์ สืบสาน “โขน” สำหรับเด็กและเยาวชน พบว่า (1) ควรออกแบบบูรณาการกิจกรรมการเรียนการสอนในโรงเรียน เช่น บรรจุวิชาโขนเป็นวิชาเลือกหรือกิจกรรมพัฒนาผู้เรียนในหลักสูตรการศึกษา จัดกิจกรรมค่ายโขนสำหรับเยาวชน และสอดแทรกบูรณาการเนื้อหาโขนในกลุ่มสาระการเรียนรู้อื่นๆ (2) จัดตั้งชมรม ชุมนุม หรือค่ายโขนในโรงเรียน (3) จัดทำแหล่งเรียนรู้ หรือสื่อการเรียนรู้เกี่ยวกับโขนในรูปแบบสื่อดิจิทัลและมัลติมีเดียที่น่าสนใจ และ(4) การสนับสนุนจากผู้ปกครอง ชุมชน และหน่วยงานต่าง ๆ จะช่วยสร้างความตระหนักรู้และสืบทอดศิลปะโขนไปสู่เด็กและเยาวชนรุ่นต่อไป

Article Details

รูปแบบการอ้างอิง
กันสุยะ อ. ., มีอนันต์ ป., & เพชรา ส. (2025). สภาพปัจจุบัน ปัญหาและแนวทางการอนุรักษ์สืบทอด “โขน” ในกลุ่มเด็กและเยาวชน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา. วารสารวิจัยราชภัฏกรุงเก่า สาขามนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์, 12(2), 30–40. สืบค้น จาก https://so01.tci-thaijo.org/index.php/rdi-aru/article/view/280032
ประเภทบทความ
บทความวิจัย

เอกสารอ้างอิง

กรมศิลปากร. (2563). เอกสารโขน. https://www.finearts.go.th/storage/contents/2020/07/file/ KWvBJWArmGhMADFCl1TwVimYp37dVoaRqKObSVYR.pdf

กรินทร์ กรินทสุทธ. (2558). ปัจจัยต่อการเปลี่ยนแปลง พัฒนาการ และความหลากหลายของโขน (ทศวรรษที่ 2480 ถึงปัจจุบัน) [วิทยานิพนธ์ปริญญาดุษฎีบัณฑิต]. มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์.

ใจบุญ แย้มยิ้ม. (2565). การจัดการแสดงโขนสดเด็กคณะครูวิกฉิมพลีแบบมีส่วนร่วมของชุมชนเพื่อการพัฒนาศิลปะการแสดงเชิงพาณิชย์. วารสารนิเทศศาสตร์และนวัตกรรม นิด้า, 2(1), 44–52.

ธนินท์รัฐ กฤษฎิ์ฉันทัชท์ ศิริวิศาลสุวรรณ (2559). โขนวิจิตรนาฏศิลป์ชั้นสูง: กรณีศึกษาการถ่ายทอดการสอนโขนจากรุ่นสู่รุ่นของนักเรียนโขนโรงเรียนมหาภาพกระจาดทองอุปถัมภ์ จังหวัดสมุทรปราการ. วารสารสถาบันวัฒนธรรมและศิลปะ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ, 17(2), 104-112.

ศิริลักษณ์ บัตรประโคน. (2558). วัยใสหัวใจโขน: การสืบทอดและกลวิธีการสืบทอดศิลปะโขนของไทย. วารสารบัณฑิตศึกษา มนุษยศาสตร์ สังคมศาสตร์, 4(1), 89-107.

สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน. สำนักวิชาการและมาตรฐานการศึกษา. (2567). แนวทางการจัดการเรียนรู้ที่บูรณาการมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมสำหรับการศึกษาขั้นพื้นฐาน.

สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ. (2559). แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติฉบับที่สิบสอง พ.ศ. 2560-2564.

สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดพระนครศรีอยุธยา. (2567). กิจกรรมวัฒนธรรมวินิต. https://ayutthaya.prd.go.th/th/ content/category/detail/id/9/iid/239996

อมรา กล่ำเจริญ, สวภา เวชสุรักษ์, นพรัตน์ หวังในธรรม, กัญญา ทองมั่น, ไพฑูรย์ เข้มแข็ง, ทองล้วน บุญยิ่ง,กฤตพชรพร ทองถนอม, และธิดารัตน์ ภูมิวัฒนะ. (2557). โขน: โครงการวิจัย. กรมส่งเสริมวัฒนธรรม.

อมรา กล่ำเจริญ และคณะ. (2561). โขน. วารสารสถาบันวัฒนธรรมและศิลปะ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ, 20(1), 215-228.

อินทิรา พงษ์นาค. (2566). การพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้โขนที่ส่งเสริมทักษะการบูรณาการเชิงสร้างสรรค์ สำหรับนักเรียนระดับมัธยมศึกษา [วิทยานิพนธ์ปริญญาดุษฎีบัณฑิต]. มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ.

อุษาภรณ์ บุญเรือง, สุมาลี ไชยศุภรากุล, และปิยพร ท่าจีน. (2562). แนวทางการอนุรักษ์และสืบทอดการแสดงโขน. วารสารเซนต์จอห์น, 22(31), 70-86.

Dimitropoulos, K., Tsalakanidou, F., Nikolopuolos, S., Kompatsiaris, I., Grammalidis, N., & Manitsaris, S. (2018). A multimodal approach for the safeguarding and transmission of intangible cultural heritage: The case of i-Treasures. IEEE Intelligent Systems, 33(6), 3-16. http://ieeexplore.ieee.org/document/8255779/

Tourism Authority of Thailand. (2022). 'Khon' - the beautiful and mesmerising masked dance drama of Thailand. https://www.tatnews.org/2022/09/khon-the-beautiful-and-mesmerising-masked-dance-drama-of-thailand/

United Nations Educational, Scientific and Cultural Organization. (2003). Convention for the safeguarding of the intangible cultural heritage. https://ich.unesco.org/en/convention

United Nations Educational, Scientific and Cultural Organization. (2024). Khon, masked dance drama in Thailand. https://ich.unesco.org/en/RL/khon-masked-dance-drama-in-thailand-01385