หนังสือ No More Fake Reading

บทคัดย่อ

เค้าโครงเรื่องและเนื้อหาโดยสังเขป

 หนังสือเล่มนี้บรรณาธิการโดย Berit Gordon จาก Teachers College of Columbia University ประเทศสหรัฐอเมริกา (USA) โครงสร้างของหนังสือเล่มนี้ประกอบด้วย คำนำ สารบัญ กิตติกรรมประกาศ บทนำ ตามด้วยเนื้อหาที่สำคัญ จำนวน 8 บท ได้แก่ บทที่ 1 คุณครูควรจะทำอย่างไรกับข้อเท็จจริงที่ว่านักเรียนของเราสนใจการสื่อสารด้วยแอปพลิเคชัน Snapchat มากกว่ากิจกรรมอ่านวรรณกรรมเรื่อง The Odyssey บทที่ 2 การเตรียมการสำหรับรูปแบบการสอนเชิงผสมผสาน (Blended Model) บทที่ 3 การสร้างหลักสูตรแบบผสมผสานสำหรับบทเรียนอิงนวนิยาย (Fiction-Based Units) บทที่ 4 การสร้างหลักสูตรแบบผสมผสานสำหรับบทเรียนอิงสารคดี (Nonfiction-Based Units) บทที่ 5 เทคนิควิธีในการกำหนดเวลาเพื่อกิจกรรมประจำวันของคุณ บทที่ 6 การเพิ่มคุณค่าจากการสื่อสารด้วยเสียงให้กับห้องเรียนการอ่านแบบผสมผสานของคุณ (Blended Reading Classroom) บทที่ 7 วิธีการประเมินความเข้าใจในการอ่านด้วยระบบการให้คะแนนที่เป็นกัลยาณมิตร แต่ก็ตรงไปตรงมาและใช้งานได้จริง และบทที่ 8 การส่งเสริมความสัมพันธ์เชิงบวกระหว่างคุณครูและนักเรียนด้วยรูปแบบการสอนเชิงผสมผสาน (Blended Model) โดยแต่ละบทนั้นมีเนื้อหาโดยสังเขป ดังนี้

บทที่ 1 คุณครูควรจะทำอย่างไรกับข้อเท็จจริงที่ว่านักเรียนของเราสนใจการสื่อสารด้วยแอปพลิเคชัน Snapchat มากกว่ากิจกรรมอ่านวรรณกรรมเรื่อง The Odyssey ประกอบด้วยเนื้อหาสำคัญ ได้แก่ (1.1) เหตุผลที่ครูไม่ควรปล่อยให้ชั้นเรียนกลายเป็นเพียงเวทีที่ไร้ความหมายอีกต่อไป (1.2) เหตุผลในการอ่านด้วยเจตจำนงอย่างเสรี (1.3) ข้อดีของรูปแบบการสอนเชิงแบบผสมผสาน และ (1.4) อนาคต: นำรอยยิ้มมาสู่ห้องเรียนของเรา

บทที่ 2 การเตรียมการสำหรับรูปแบบการสอนเชิงผสมผสาน (Blended Model) ประกอบด้วยเนื้อหาสำคัญ ได้แก่ (2.1) การจัดการห้องเรียนของคุณครูเพื่อความสำเร็จในการอ่านและ (2) ก้าวย่างต่อไปที่เป็นไปได้

บทที่ 3 การสร้างหลักสูตรแบบผสมผสานสำหรับบทเรียนอิงนวนิยาย (Fiction-Based Units) ประกอบด้วยเนื้อหาสำคัญ ได้แก่ (3.1) เหตุใดครูควรเริ่มต้นการเรียนรู้ด้วยนวนิยาย? (2) กระบวนการวางแผนการสอนด้วยบทเรียนอิงนวนิยาย (Fiction-Based Units) สิ่งสำคัญคืออะไร? (3) ขั้นตอนเริ่มต้น (ควรเริ่มต้นอย่างไร?) (4) วิธีทำให้บทเรียนคุณครูโดดเด่นและคำแนะนำสำคัญเพื่อหลีกเลี่ยงอันตรายที่อาจเกิดขึ้น

บทที่ 4 การสร้างหลักสูตรแบบผสมผสานสำหรับบทเรียนอิงสารคดี (Nonfiction-Based Units) ประกอบด้วยเนื้อหาสำคัญ ได้แก่ (4.1) เหตุใดครูควรเริ่มต้นการเรียนรู้ด้วยสารคดี? (4.2) กระบวนการวางแผนการสอนด้วยบทเรียนอิงสารคดี (Nonfiction-Based Units)  (4.3) จะทำอย่างไรเมื่อนักเรียนเลือกอ่านแต่นวนิยาย (4.4) ถึงเวลาสอนสารคดีแล้ว (4.5) วิธีวางแผนบทเรียนอิงสารคดี (Nonfiction-Based Units) ในชั้นเรียนของคุณ (4.6) วิธีทำให้บทเรียนอิงสารคดี (Nonfiction-Based Units) มีความโดดเด่นและหลีกเลี่ยงข้อผิดพลาดที่อาจเกิดขึ้น (4.7) เหตุใดสิ่งที่คุณครูเพิ่งวางแผนการเรียนรู้ไว้จึงมีความสำคัญ

บทที่ 5 เทคนิควิธีในการกำหนดเวลาเพื่อกิจกรรมประจำวันของคุณ ประกอบด้วยเนื้อหาสำคัญ ได้แก่ (5.1) การสร้างแผนการสอนรายวัน (5.2) การแบ่งช่วงเวลา (5.3) เพียงสิบนาทีของการสอนที่เน้นโดยคุณครู (5.4)การเปลี่ยนไปสู่การอ่าน (5.5) สิ่งที่นักเรียนทำนอกเหนือจากการอ่าน: การเขียน การคิด และการตั้งคำถาม (5.6) สอนให้ผู้อ่านแสดงความคิดเกี่ยวกับการอ่าน: การสร้างแบบจำลอง (5.7) การเขียนของนักเรียนเกี่ยวกับการอ่าน: การประเมินและความแตกต่าง (5.8) การปิดชั้นเรียน (5.9) การเชื้อเชิญเข้าสู่สนามฝึกการอ่าน

บทที่ 6 การเพิ่มคุณค่าจากการสื่อสารด้วยเสียงให้กับห้องเรียนการอ่านแบบผสมผสานของคุณ (Blended Reading Classroom) ประกอบด้วยเนื้อหาสำคัญ ได้แก่ (6.1) เหตุใดคุณครูควรต้องสอนนักเรียนให้เข้าถึงวิธีการพูดคุยเกี่ยวกับหนังสือ (6.2) วิธีการพูดคุยเกี่ยวกับหนังสืออย่างมีความหมาย (6.3) หากพวกเขาไม่ได้อ่านหนังสือเล่มเดียวกัน นักเรียนกำลังพูดถึงอะไร (นั่นคือจินตนาการร่วมที่สำคัญ) (6.4) ถึงเวลาสำหรับข้อความที่ใช้ร่วมกัน (6.5) การพูดคุยผสมผสานกับช่วงเวลาที่ได้อ่านหนังสือเพียงใด (6.6) ทำไมการพูดคุยจึงส่งเสริมการสอนของคุณครู

บทที่ 7 วิธีการประเมินความเข้าใจในการอ่านด้วยระบบการให้คะแนนที่ดีเพื่อเสริมสร้างพลังของคุณครู ประกอบด้วยเนื้อหาสำคัญ ได้แก่  (7.1) การประเมินเชิงกัลยาณมิตรอย่างต่อเนื่อง(7.2) การประเมินรวบยอด (7.3) การประเมินคะแนนอย่างเป็นธรรม

บทที่ 8 การส่งเสริมความสัมพันธ์เชิงบวกระหว่างคุณครูและนักเรียนด้วยรูปแบบการสอนเชิงผสมผสาน (Blended Model) ประกอบด้วยเนื้อหาสำคัญ ได้แก่ (8.1) เหตุใดการจัดการเรียนรู้ด้านการอ่านด้วยรูปแบบผสมผสานจึงเปิดพื้นที่สำหรับการสอนแบบตัวต่อตัวที่มีประสิทธิภาพ (8.2) เทคนิควิธีในการพูดคุยกับนักเรียนเกี่ยวกับการอ่านหนังสือ (8.3) สิ่งที่คุณครูคาดหวังได้จากการพูดคุยกับนักเรียนเกี่ยวกับการอ่านหนังสือ

บทส่งท้าย คุณครูเตรียมตัวให้พร้อมที่จะยอมรับการเปลี่ยนแปลง

             หนังสือ No More Fake Reading ของ Berit Gordon เป็นทรัพยากรสารสนเทศอันล้ำค่าสำหรับคุณครูที่ต้องการแสวงหาเทคนิควิธีการสอนเกี่ยวกับทักษะการอ่านให้กับนักเรียนระดับมัธยมศึกษาตอนปลายและนิสิตนักศึกษาระดับปริญญาตรี ในหนังสือเล่มนี้ Gordon ได้ให้คำอธิบายที่ครอบคลุมเกี่ยวกับการสอนทักษะการอ่านแบบดั้งเดิมผสมผสานกับการสอนทักษะการอ่านด้วยเจตจำนงเสรีเพื่อสร้างประสบการณ์การเรียนรู้ตลอดชีวิตที่สนุกสนานสำหรับผู้เรียน หนังสือเล่มนี้ยังได้นำเสนอกลยุทธ์การสอนสำหรับคุณครูที่นำไปใช้งานได้จริง เช่น เทคนิควิธีสร้างสภาพแวดล้อมการอ่านที่มีประสิทธิภาพ เทคนิควิธีสร้างบทเรียนที่จูงใจผู้เรียนและเพิ่มการส่วนร่วมในชั้นเรียน และเทคนิควิธีประเมินและติดตามความก้าวหน้าของผู้เรียน บทที่ 1 Gordon ได้เจาะลึกถึงแก่นแท้ของปัญหา: ว่าเหตุใดผู้เรียนจึงชอบการพูดคุยกันมากกว่าชอบการอ่าน? จากนั้น Gordon ก็เล่าถึงวิธีการดำเนินการแก้ไขปัญหานี้โดยนำเสนอแนวทางที่ครอบคลุมเพื่อผสมผสานระหว่างแนวทางการอ่านแบบดั้งเดิมกับแนวทางการอ่านด้วยเจตจำนงเสรี บทที่ 2 Gordon  แบ่งปันกลยุทธ์ในการเตรียมพร้อมที่จะใช้รูปแบบผสมผสาน บทที่ 3 และ 4 ครอบคลุมพื้นฐานของการสร้างหลักสูตรแบบผสมผสานบทเรียนแบบอิงนวนิยายและอิงสารคดี ในบทที่ 5 Gordon นำเสนอกลยุทธ์สำหรับการวางแผนการสอนแบบวันต่อวัน บทที่ 6 Gordon นำเสนอเนื้อหาเชิงลึกเพื่อเน้นย้ำถึงความสำคัญของการพูดคุยในห้องเรียนในประเด็นการอ่านแบบผสมผสาน บทที่ 7 และ 8 Gordon ได้อุทิศเนื้อหาให้กับการประเมินผู้อ่านและสร้างความสัมพันธ์ระหว่างคุณครูกับนักเรียนผ่านรูปแบบการเรียนรู้เชิงผสมผสานที่มีประสิทธิภาพ กล่าวโดยสรุป No More Fake Reading เป็นหนังสือที่คุณครูบรรณารักษ์ รวมถึงคุณครูด้านภาษาที่ศรัทธาต่อการพัฒนาทักษะการอ่านของผู้เรียน อาทิ คุณครูภาษาไทย คุณครูภาษาอังกฤษ ฯลฯ ควรมีไว้ในครอบครองเพื่อใช้เป็นพื้นฐานความรู้สู่การเปลี่ยนแปลงในการสอนด้านทักษะการอ่านเป็นรูปธรรม