ทัศนคติต่อการเปลี่ยนแปลงทัศนียภาพจากการพัฒนาทางเลียบริมแม่น้ำเจ้าพระยา: บริเวณวัด และโบราณสถานริมน้ำ

Main Article Content

ภัทร พลศิริ
รุจิโรจน์ อนามบุตร

บทคัดย่อ

จากการพัฒนาพื้นที่ริมแม่น้ำเจ้าพระยาในลักษณะโครงการทางเดินเลียบริมแม่น้ำ พบว่า มีประเด็นโต้แย้งจากสังคมทั้งข้อดี และข้อเสียถึงความเหมาะสมด้านต่างๆ ทำให้เกิดประเด็นการศึกษาในงานวิจัย คือ การศึกษาทัศนคติด้านความชอบ การยอมรับได้ และความเหมาะสมที่มีต่อทัศนียภาพบริเวณวัด และโบราณสถานที่อยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ว่าหากมีการเปลี่ยนแปลงทัศนียภาพจากทางเลียบริมแม่น้ำ หรือพื้นที่ส่วนขยายริมแม่น้ำ จะมีผลต่อทัศนคติอย่างไร โดยมีการจัดทำรูปแบบจำลองทางเลียบริมแม่น้ำ 4 รูปแบบซ้อนทับภาพถ่ายใน 4 พื้นที่ตัวแทนของวัด และโบราณสถานที่อยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ซึ่งขั้นตอนการศึกษามีทั้งหมด 4 ขั้นตอน ได้แก่  1) การทบทวนวรรณกรรม และโครงการที่เกี่ยวข้อง 2) การวิเคราะห์ข้อมูลพื้นฐานของวัด และโบราณสถานริมแม่น้ำเจ้าพระยา  3) การเลือกพื้นที่ตัวแทน และสร้างแบบสอบถามเพื่อสำรวจความคิดเห็นโดยใช้รูปแบบจำลองทางเลียบริมแม่น้ำซ้อนทับภาพถ่าย (photomontage) ในพื้นที่ตัวแทน  4) การวิเคราะห์ข้อมูล และการประมวลผลข้อมูลจากการพัฒนาพื้นที่ริมแม่น้ำเจ้าพระยาในลักษณะโครงการทางเดินเลียบริมแม่น้ำ พบว่า มีประเด็นโต้แย้งจากสังคมทั้งข้อดี และข้อเสียถึงความเหมาะสมด้านต่างๆ ทำให้เกิดประเด็นการศึกษาในงานวิจัย คือ การศึกษาทัศนคติด้านความชอบ การยอมรับได้ และความเหมาะสมที่มีต่อทัศนียภาพบริเวณวัด และโบราณสถานที่อยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ว่าหากมีการเปลี่ยนแปลงทัศนียภาพจากทางเลียบริมแม่น้ำ หรือพื้นที่ส่วนขยายริมแม่น้ำ จะมีผลต่อทัศนคติอย่างไร โดยมีการจัดทำรูปแบบจำลองทางเลียบริมแม่น้ำ 4 รูปแบบซ้อนทับภาพถ่ายใน 4 พื้นที่ตัวแทนของวัด และโบราณสถานที่อยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ซึ่งขั้นตอนการศึกษามีทั้งหมด 4 ขั้นตอน ได้แก่  1) การทบทวนวรรณกรรม และโครงการที่เกี่ยวข้อง 2) การวิเคราะห์ข้อมูลพื้นฐานของวัด และโบราณสถานริมแม่น้ำเจ้าพระยา  3) การเลือกพื้นที่ตัวแทน และสร้างแบบสอบถามเพื่อสำรวจความคิดเห็นโดยใช้รูปแบบจำลองทางเลียบริมแม่น้ำซ้อนทับภาพถ่าย (photomontage) ในพื้นที่ตัวแทน  4) การวิเคราะห์ข้อมูล และการประมวลผลข้อมูล ผลการศึกษาพบว่า กลุ่มประชากรตัวอย่างมีทัศนคติต่อการเปลี่ยนแปลงทัศนียภาพที่แตกต่างกันขึ้นอยู่กับปัจจัยหลัก 3 ปัจจัย ได้แก่  1) สภาพแวดล้อมปัจจุบัน  2) ความสำคัญทางประวัติศาสตร์  3) คุณค่าของศิลปสถาปัตยกรรม และมีปัจจัยรอง คือ รูปแบบขององค์ประกอบทางกายภาพในบริเวณทางเลียบริมแม่น้ำ แบ่งเป็น 3 องค์ประกอบ ได้แก่  1) ระดับความสูงและวัสดุปูพื้นทางเดิน/โครงสร้าง และระดับความสูงของเขื่อน  2) ความกว้างของพื้นที่ทางเดินริมแม่น้ำ 3) ความสามารถในการเข้าถึงทางเลียบริมแม่น้ำ โดยสรุปได้ว่าผู้ตอบแบบสอบถามมีระดับความชอบ การยอมรับได้ และ ความเหมาะสมในสภาพแวดล้อมปัจจุบันมากที่สุด แต่มีทัศนคติทางลบต่อรูปแบบทางเลียบริมแม่น้ำที่มีขนาดกว้างมาก ซึ่งผลจากการศึกษานี้สามารถใช้เป็นข้อมูลเบื้องต้นสำหรับการศึกษาข้อมูลเชิงลึกเพื่อการพัฒนาพื้นที่ริมแม่น้ำต่อไป

Article Details

ประเภทบทความ
Articles

เอกสารอ้างอิง

1. กำธร กุลชล. การออกแบบชุมชนเมืองคืออะไร: การติดตามหาคำตอบในรอบ 40 ปี. กรุงเทพมหานคร: โรงพิมพ์มหาวิทยาลัยศิลปากร, 2545.
2. กระทรวงวัฒนธรรม. กรมศาสนา. พระอารามหลวง เล่ม 1. กรุงเทพมหานคร: โรงพิมพ์ชุมนุมสหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศไทย, 2551.
3. กรมศิลปากร. “ระบบฐานข้อมูลแหล่งมรดกทางศิลปวัฒนธรรมธรรม และระบบภูมิสารสนเทศ โครงการสำรวจแหล่งมรดกทางศิลปวัฒนธรรม.” สืบค้น 6 มิถุนายน 2559. http://www.gis.finearts.go.th
4. กรมศิลปากร. กองจดหมายเหตุแห่งชาติ. จดหมายเหตุการอนุรักษ์กรุงรัตนโกสินทร์. กรุงเทพฯ: กรม, 2525.
5. กรมศิลปากร. กองโบราณคดี. ทฤษฎีและแนวทางปฏิบัติการอนุรักษ์อนุสรณ์สถานและแหล่งโบราณคดี. กรุงเทพมหานคร: หิรัญพัฒน์, 2533.
6. กรมศิลปากร. กองโบราณคดี. แนวปฏิบัติในการสงวนรักษาโบราณสถาน ตามพระราชบัญญัติโบราณสถาน โบราณวัตถุ ศิลปวัตถุ และพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พ.ศ. 2504 แก้ไขเพิ่มเติม พ.ศ. 2535. กรุงเทพมหานคร: รุ่งศิลป์การพิมพ์, 2548.
7. “ข้อมูลแผนที่ดาวเทียม จาก Google Maps.” สืบค้น 20 มีนาคม 2559. https://www.google.co.th/maps.
8. คณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ. แนวทางการจัดการภูมิทัศน์วัฒนธรรม. กรุงเทพฯ: อมรินทร์, 2549.
9. ไตรรัตน์ จารุทัศน์. คู่มือปฏิบัติวิชาชีพสถาปัตยกรรม การออกแบบสภาพแวดล้อมและสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับทุกคน (Universal Design Code of Practice). กรุงเทพมหานคร: สมาคมสถาปนิกสยาม ในพระบรม-ราชูปถัมภ์, 2552.
10. ทรรศชล ปัญญาทรง. “แนวทางการออกแบบเพื่อพัฒนา ทางเท้าในย่านพาณิชยกรรมอโศก กรุงเทพมหานคร.” วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต สาขาวิชาการออกแบบชุมชนเมือง คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, 2551.
11. นนทิชา ถาวรไพบูลย์บุตร. “กรอบอ้างอิงการรับรู้ทางสายตา.” บทความฟื้นวิชา 17, 3 (กันยายน- ธันวาคม 2555): 25-29.
12. รุจิโรจน์ อนามบุตรและวิลาสินี สุขสว่าง. คู่มือการประเมินผลกระทบทางสายตา จากสิ่งก่อสร้างประเภท อาคาร. กรุงเทพมหานคร: สานักนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม, 2555.
13. วิมลสิทธิ์ หรยางกูร. พฤติกรรมมนุษย์กับสภาพแวดล้อม: มูลฐานทางพฤติกรรมเพื่อการออกแบบและวางแผน. พิมพ์ครั้งที่ 6. กรุงเทพมหานคร: โรงพิมพ์แห่งจุฬา- ลงกรณ์มหาวิทยาลัย, 2549.
14. วิล์ลญา สงค์อิ่ม. “ผลกระทบทางสายตาของอาคารสูงเพื่อการอยู่อาศัยที่มีต่อวัดในบริเวณกรุงเทพมหานคร.” วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต สาขาวิชาภูมิสถาปัตยกรรม คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร, 2557.
15. สนิท สมัครการ. การเปลี่ยนแปลงทางวัฒนธรรมกับการพัฒนาการของสังคม. กรุงเทพมหานคร: สำนักงานกิจการโรงพิมพ์ องค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึก, 2545.
16. อดิศร ศรีเสาวนันท์และวีระ อินพันทัง. “แนวความคิดเรื่องสถานที่ และปรากฏการณ์วิทยา กับการศึกษางานสถาปัตยกรรมพื้นถิ่น.” วารสารวิชาการ คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น 15, 1(มกราคม-มิถุนายน 2559): 1-20.