แนวทางการพัฒนาอาคารชุดเพื่อสุขภาพดี โดยใช้กรณีศึกษา โครงการจิณณ์ เวลบีอิ้ง เคาน์ตี้ จังหวัดปทุมธานี และ โครงการไนท์บริดจ์ ดิ โอเชี่ยน ศรีราชา จังหวัดชลบุรี
Main Article Content
บทคัดย่อ
ในปัจจุบันที่อยู่อาศัยประเภทอาคารชุดได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง มีการสำรวจพบว่าในอาคารชุดแต่ละแห่งมีประชากรอาศัยอยู่หนาแน่น แต่ขาดการจัดการด้านสุขภาพของผู้อยู่อาศัย การศึกษานี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาข้อมูล เอกสาร มาตรฐานและเกณฑ์การประเมินอาคาร ด้านการออกแบบที่อยู่อาศัยในต่างประเทศ วิเคราะห์ปัจจัยด้านกายภาพ พฤติกรรมผู้อยู่อาศัย สภาพแวดล้อม และบริบทโดยรอบของโครงการอาคารชุดเพื่อสุขภาพดี เพื่อนำเสนอแนวทางในการพัฒนาที่อยู่อาศัยประเภทอาคารชุดที่มีการส่งเสริมให้ผู้อยู่อาศัยมีสุขภาพดีในประเทศไทย โดยศึกษาจากผู้อยู่อาศัย ผู้ประกอบการ สถาปนิก รวมไปถึงนำความคิดเห็นจากผู้เชี่ยวชาญมาสรุปผลเพื่อหาแนวทาง ผ่านการเก็บข้อมูลด้วยแบบสอบถาม โดยเลือกศึกษาโครงการจิณณ์ เวลบีอิ้ง เคาน์ตี้ จังหวัด ปทุมธานี และ โครงการไนท์บริดจ์ ดิ โอเชี่ยน ศรีราชา จังหวัดชลบุรี เนื่องจากเป็นโครงการที่ส่งเสริมการมีสุขภาพดีของผู้อยู่อาศัย
ผลการศึกษาพบว่าผู้อยู่อาศัยให้ความเห็นว่าการอยู่อาศัยในโครงการก่อให้เกิดสุขภาพดีในระดับปานกลางถึงมาก และพบว่าปัจจัยที่ก่อให้เกิดอาคารชุดเพื่อสุขภาพดี ประกอบไปด้วย 8 ปัจจัย ได้แก่ 1.คุณภาพอากาศ 2. คุณภาพน้ำ 3. แสงสว่าง 4. สภาวะน่าสบาย 5. วัสดุ 6. เสียง 7. การอนุรักษ์พลังงาน 8. สถานที่ตั้งโครงการ โดยผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาวะและสถาปนิกผู้ออกแบบโครงการ มีความคิดเห็นตรงกันว่า ปัจจัยด้านวัสดุ มีความสำคัญมากที่สุด ทางด้านผู้อยู่อาศัยและสถาปนิกผู้ออกแบบโครงการ มีความเห็นตรงกันว่า ปัจจัยด้านที่ตั้ง เป็นปัจจัยที่มีความสำคัญมากที่สุด ในส่วนของผู้ประกอบการและสถาปนิก มีความเห็นตรงกันว่าปัจจัยด้านคุณภาพน้ำมีความสำคัญมาก ดังนั้น เพื่อเป็นแนวทางการพัฒนาอาคารชุดเพื่อสุขภาพดีของคนทุกกลุ่มในประเทศไทย ควรดำเนินการใน 3 ประเด็นดังนี้คือ 1. จัดทำคู่มือหรือเกณฑ์การออกแบบอาคารชุดเพื่อสุขภาพดีที่เหมาะสมกับประเทศไทย 2. ส่งเสริมให้มีผลิตภัณฑ์ที่ส่งเสริมการมีสุขภาพดีมีความหลากหลายและมีราคาที่จับต้องได้ 3. การให้ความรู้ความเข้าใจกับบุคลทั่วไปและสาขาวิชาชีพที่เกี่ยวข้อง
Article Details
เอกสารอ้างอิง
การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย. (2563). มาตรฐานความปลอดภัยด้านสุขอนามัย. สืบค้นเมื่อ 2 พฤศจิกายน 2563, จาก https://thailandsha.tourismthailand.org/
กรมที่ดินและศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์. (2562). จำนวนการโอนกรรมสิทธิ์ที่อยู่อาศัยในประเทศไทย พ.ศ. 2558-2562. สืบค้นเมื่อ 5 พฤศจิกายน 2563, จาก https://www.reic.or.th/Product/Transfer
ฉัตรชัย นกดี. (2562). โรคตึกเป็นพิษ ภัยคนเมือง2020. สืบค้นเมื่อ 2 พฤศจิกายน 2563, จาก www.thaihealth.
or.th/content/50935-โรคตึกเป็นพิษ%20ภัยคนเมือง%202020.html
ไตรรัตน์ จารุทัศน์. (2558). Universal Design Guidebook คู่มือการออกแบบเพื่อทุกคน. กรุงเทพฯ: สถาบันวิจัยสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมกับผู้สูงอายุและคนพิการ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
ภาวดี ธุรวงศ์. (2559). การพัฒนาเกณฑ์การออกแบบอาคารเขียวเพื่อส่งเสริมสุขภาวะสำหรับอาคารที่พักอาศัยแบบยั่งยืนในประเทศไทย. (วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต, จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย).
Allen, Joseph G. (2019a). Building evidence for health. (n.p.).: Healthy Building Program at Harvard T.H. Chan School of Public Health.
Allen, Joseph G. (2019b). Home for health. (n.p.).: Healthy Building Program at Harvard T.H. Chan School of Public Health.
Ghebreyesus, Tedros Adhanom. (2018). WHO housing and health guidelines. Geneva: World Health Organization.
World Health Organization. (1986). Ottawa charter for health promotion. Retrieved November 5, 2020, from http://www.who.int/ hpr/archive/does/ottawa.html