พัฒนาการของสุสานจีนโพ้นทะเลในคาบสมุทรอินโดจีนและหมู่เกาะมลายู
Main Article Content
บทคัดย่อ
สุสานจีนเป็นมรดกวัฒนธรรม และเป็นภูมิทัศน์วัฒนธรรมที่แสดงถึงการตั้งถิ่นฐานและการสืบทอดประเพณี ตามคติ ความเชื่อ ค่านิยมของชาวจีนที่อพยพมาตั้งรกรากในภูมิภาคเอเชียอาคเนย์ บทความนี้มีจุดประสงค์ในการศึกษาการเกิดและพัฒนาการทางกายภาพและคติความเชื่อที่เกี่ยวเนื่องกับสุสานจีนของชาวจีนโพ้นทะเลในอดีต รวมถึงวิเคราะห์รูปแบบของสุสานจีนปัจจุบัน และแนวโน้มบทบาทของสุสานจีนในอนาคต โดยทำการสืบค้นและวิเคราะห์ข้อมูล ผลการศึกษาทำให้สามารถจำแนกสุสานจีนออกเป็น 3 ยุคจากลักษณะทางกายภาพและทางสังคม และพบว่าปัจจัยที่มีผลต่อการกำหนดลักษณะทางกายภาพและการปฏิบัติต่อสุสานตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบัน ได้แก่ การใช้สอย ปรัชญาค่านิยม และเศรษฐกิจสังคม นอกจากนี้การวิจัยยังชี้ให้เห็นว่า สุสานจีนในอนาคตมีแนวโน้มในการเปลี่ยนแปงไป 4 แนวทาง คือ (1) ยังคงบทบาทหน้าที่เดิมเรื่องการเป็นที่เก็บรักษาร่างหรืออัฐิของผู้ล่วงลับ (2) เปลี่ยนแปลงทางกายภาพให้เหมาะกับสภาพเศรษฐกิจสังคม (3) รองรับการใช้สอยใหม่ในการเป็นสวนสาธารณะ แหล่งเรียนรู้ และเป็นมรดกทางวัฒนธรรม หรือ (4) มีความเสี่ยงที่จะถูกรื้อถอน
Article Details
เอกสารอ้างอิง
กระทรวงวัฒนธรรม สำนักงานคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ และ มหาวิทยาลัยศิลปากร คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์. (2549). แนวทางการจัดการภูมิทัศน์วัฒนธรรม. กรุงเทพฯ: อมรินทร์.
เกรียงไกร บุญธกานนท์. (2531). สุสาน (ฮวงซุ้ย) สำคัญอย่างไร. สืบค้นเมื่อ 1 มีนาคม 2565, จาก http://www.fengshuitown.com/fengshui/fengshui-tip-book51-graveyard.htm
นที ศรีตานี. (2534). ที่ระลึกงานสมโภช เจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว: ศาลเจ้าเล่งจูเกียง ปัตตานี. แปลโดย เคี่ยม สังสิทธิเสถียร. ยะลา: ยะลาการพิมพ์.
นภัสวรรณ สุภาทิตย์, บุญรอด บุญเกิด และ บุญเลิศ ยองเพ็ชร. (2559). พิธีกรรมศพของคนไทยเชื้อสายจีน ในจังหวัดชลบุรี. วารสารการเมือง การบริหาร และกฎหมาย, 8(1), 323 - 40. สืบค้นจากhttp://www.polsci-law.buu.ac.th/journal/document/8-1/10.pdf
ประสิทธิ์ เงินชัย. (2557). การดำรงอยู่และบทบาทของวัฒนธรรมจีนในภาคตะวันออก. วารสารการเมือง การบริหาร และกฎหมาย, 6(2), 63-75. สืบค้นจาก http://www.polsci-law.buu.ac.th/journal/document/6-2/2.pdf
ปรารถนา โกเมน. (2533). สมาคมชาวจีนในกรุงเทพฯ ค.ศ. 2440-2488. (วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต, จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย).
ปริวัฒน์ จันทร. (2548). การสำรวจทางทะเลของเจิ้งเหอ; 30 ปี ความสัมพันธ์ไทย-จีน 600 ปี ซำปอกง/เจิ้งเหอ กับ อยุธยาและอุษาคเนย์, หอประชุมกองทัพเรือ. กรุงเทพฯ: มูลนิธิโตโยต้าประเทศไทย บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด-มูลนิธิโครงการตำราสังคมศาสตร์และมนุษยศาสตร์.
เปรมา สัตยาวุฒิพงศ์. (2546). แรงงานรับจ้างชาวจีนในกรุงเทพฯ ตั้งแต่ พ.ศ. 2425-2492. (วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต, จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย).
พรพรรณ จันทโรนานนท์. (2550). ชาวจีนในไทยมาจากไหน เปิดประวัติการอพยพยุคแรกเริ่ม ถึงการผสมกลมกลืนทางวัฒนธรรม. สืบค้นเมื่อ 8 ธันวาคม 2564, จาก https://www.silpa-mag.com/songwad-century/article_26173
ไพรถ เลิศพิริยกมล. (2547). "ฮวงจุ้ย" ความเชื่อถือและปฏิบัติที่สืบต่ออย่างน่าพิศวง. สืบค้นเมื่อ 7 ธันวาคม 2564, จาก https://thaifolk.com/doc/literate/hungjui/hungjui1.htm
วลัยลักษณ์ ทรงศิริ. (2562, 23 พฤษภาคม). เมืองจันทบูรเก่า. สืบค้นเมื่อ 4 กุมภาพันธ์ 2565, จาก https://suanleklek.wordpress.com/2019/05/23/old-chantaboon/
ศศิภา พูลบูลย์. (2556). ระบบวิเคราะห์แบบร่างสถาปัตยกรรมภายในตามหลักฮวงจุ้ย. (วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต, มหาวิทยาลัยศิลปากร).
ศุภกาญจน์ สุจริต. (2559). คติความเชื่อและรูปแบบเทพเจ้า “ปุนเถ้ากง” ของชาวจีนโพ้นทะเลในสมัยรัตนโกสินทร์ กรณีศึกษาในเขตกรุงเทพมหานคร.(วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต, มหาวิทยาลัยศิลปากร).
Akpedonu, Erik. (2016, October 15). The Manila Chinese cemetery: A repository of Tsinoy culture and identity. Archipel, 92, 111-53. Retrieved from https://doi.org/10.4000/archipel.288
Cheng Hoon Teng Temple. [n.d.]. History of the temple. Retrieved December 6, 2021, from http://chenghoontengtemple.com/en/history/history
Dian, Zhang. (2004). Land for the dead: Locating urban cemeteries, case study Guilin. (Master’s thesis, ITC Enschede).
Groot, Jan Jakob Maria. (1897). The religious system of China: Its ancient forms, evolution, history and present aspect, manners,customs and social institutions connected therewith Vol. 3: Dutch colonial government. Retrieved from https://archive.org/details/religioussystemo03groo/page/n7/mode/2up
Han, Ke-Tsung. (2001, September 1). Traditional Chinese site selection-Feng Shui: An evolutionary/ecological perspective. Journal of Cultural Geography, 19, 75-96. Retrieved from https://doi.org/10.1080/08873630109478298
Loo, Yat Ming. (2013). Architecture and urban form in Kuala Lumpur. Farnham: Ashgate.
marchouliston. (2017). Bukit Cina Chinese Cemetery [Photograph]. Retrieved November 30, 2017, from http://marchouliston.com/Malaysia_2017/BukitCina.html
Poston, Dudley, & Wong, Juyin. (2016, July 1). The Chinese diaspora: The current distribution of the overseas Chinese population. Chinese Journal of Sociology, 2, 348-73. Retrieved from https://doi.org/10.1177/2057150X16655077
Raksaperdana, Ikrar, & Kurniawan, Kemas. (2021, May 1). Souw Beng Kong’s tomb: Transformation of a green Chinese cemetery area to a present dense area. IOP Conference Series: Earth and Environmental Science, 764, 012013. Retrieved from https://doi.org/10.1088/1755-1315/764/1/012013
Salmon, Claudine. (2016, October 15). From cemeteries to luxurious memorial parks: With special reference to Malaysia and Indonesia. Archipel, 92, 177-212. Retrieved from https://doi.org/10.4000/archipel.320
Singapore Society Heritage. (2017). Bukit brown self-guided wayfinder trail. Singapore: Singapore Heritage Society.
United Nations Educational, Scientific and Cultural Organization. (2003). What Is intangible cultural heritage? Paris: UNESCO. Retrieved from https://ich.unesco.org/doc/src/01851-EN.pdf
Wong Tze Ken, Danny. (2016). Early Chinese presence in Malaysia as reflected by three cemeteries (17th-19th C.). Archipel, 92, 9-21. Retrieved from https://doi.org/10.4000/archipel.280
Wu, F., & Y. Zhao, Y. (1996). Thinking on cemetery culture. Journal of Jianghan University, 13(5), 93-96.