อัตลักษณ์และความเชื่อในจิตรกรรมฝาผนังแบบพื้นบ้าน เพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์สร้างสรรค์
Main Article Content
บทคัดย่อ
บทความวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1)ศึกษาอัตลักษณ์และความเชื่อเกี่ยวกับจิตรกรรมฝาผนังแบบพื้นบ้าน 2)พัฒนาผลิตภัณฑ์สร้างสรรค์จากอัตลักษณ์ความเชื่อในจิตรกรรมฝาผนังแบบพื้นบ้าน ผู้วิจัยได้ใช้วิธีวิจัยเชิงคุณภาพ โดยเลือกพื้นที่ในการทำวิจัยคือ วัดวัดยางทวงวราราม อำเภอบรบือ และวัดป่าเลไลย์ อำเภอนาดูน จังหวัดมหาสารคาม ที่มีภาพจิตรกรรมฝาผนังโดดเด่นในเรื่องของเรื่องราว ประเพณี วัฒนธรรมของชาวอีสาน
ผลการวิจัยพบว่า อัตลักษณ์และความเชื่อเกี่ยวกับจิตรกรรมฝาผนังแบบพื้นบ้าน มีคุณค่าทางความงามที่ถูกสร้างขึ้นด้วยความประณีตของช่างภายในหมู่บ้าน ด้านคุณค่าทางเรื่องราวภาพวาดบอกเล่าเรื่องราวความเป็นมาและเหตุการณ์สำคัญที่เกิดขึ้นในช่วงที่มีการสร้างสิมที่มีความหมายและจุดประสงค์ที่แฝงอยู่ภายในภาพจิตรกรรม ด้านความสำคัญของภาพจิตรกรรมฝาผนังวัดยางทวงวราราม และวัดป่าเลไลย์ พบว่า 1)มีความสำคัญในมูลเหตุของการสร้าง 2)ความสำคัญในเรื่องศรัทธา 3)ความสำคัญในการบันทึกเรื่องราวในอดีตและ 4) ความสำคัญในการกล่อมเกลาจิตใจ นอกจากนั้นยังพบเรื่องราวที่เป็นอัตลักษณ์ที่โดดเด่นของสิมทั้งสองหลังคือคติความเชื่อเกี่ยวกับของชูชกที่มีความเชื่อเปลี่ยนไปจากเดิม คือเมื่อครั้งอดีตมีความเชื่อว่าชูชกเป็นตัวร้าย เจ้าเล่ห์ตัวซวย แต่ในปัจจุบันความเชื่อนั้นถูกเปลี่ยนไปมองชูชกว่าเป็นสัญลักษณ์แห่งโชคลาภและความร่ำรวยและอุดมสมบูรณ์
ด้วยเหตุนี้ทำให้ผู้วิจัยนำอัตลักษณ์และความเชื่อของชูชกมาสร้างสรรค์เป็นผลิตภัณฑ์ผ่านโครงสร้างทางกายภาพและโครงสร้างทางความคิด โดยนำอัตลักษณ์ที่โดดเด่นของชูชกมาเป็นแนวทางในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่เน้นความทันสมัย สวยงาม สร้างมูลค่าเพิ่มให้กับผลิตภัณฑ์อย่างทรงคุณค่าและสอดคล้องกับความเชื่อของผู้คนและความต้องการของตลาด ทั้งยังเป็นการปลูกฝังจิตสำนึกให้ผู้คนได้เห็นคุณค่าทางวัฒนธรรมอีสานมรดกท้องถิ่น เพื่อการสืบสานวัฒนธรรมอีสานให้ยั่งยืน ตลอดจนเป็นงานวิจัยต้นแบบในการออกแบบและพัฒนาผลิตภัณฑ์อีกด้วย
Article Details
เอกสารอ้างอิง
บุญเกียรติ ไทรชมภู. (2557). การพัฒนาผลิตภัณฑ์ภูมิปัญญาท้องถิ่นพื้นที่คุ้งบางกะเจ้า (กระเพาะหมู)6 ตำบลเพื่อการท่องเที่ยวและรองรับการเข้าสู่ประชาคมอาเซียน. วารสารวิชาการมหาวิทยาลัยราชภัฏพระนคร. 5(2). 1-10.
ปานฉัตท์ อินทร์คง. (2557). การพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ระลึกชนเผ่าภาคเหนือ เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงเศรษฐกิจสร้างสรรค์ : กรณีศึกษาชนเผ่าเย้า. วารสารศิลปกรรมศาสตร์วิชาการ วิจัยและงานสร้างสรรค์. 1(2). 21-41.
ยุทธนา ไพกะเพศ. (2555).จิตรกรรมอีสาน (ยุคก่อนประวัติศาสตร์ถึงยุคร่วมสมัย). ขอนแก่น : โรงพิมพ์ ศิริภัณฑ์.
ราม วัชรประดิษฐ์. (2560). ชูชก-ยอดเครื่องรางแห่งการขอ. ข่าวสด. 14 มกราคม 2560. สืบค้นเมื่อ 20 มีนาคม 2561. จาก www.khaosod.co.th/view_newsonline.php?newsid= 14379289 62
สมเด็จพระมหาวีรวงศ์(ติสสมหาเถระ). (2515). พจนานุกรมภาคอีสาน-ภาคกลาง. กรุงเทพมหานคร : ไทยวัฒนาพานิช.
ศักดิ์ชัย สายสิงห์. (2555). เจดีย์ พระพุทธรูป ฮูปแต้ม สิม ศิลปะลาวและอีสาน. พิมพ์ครั้งที่ 1. กรุงเทพมหานคร : มิวเซียมเพรส.
สุมาลี เอกชนนิยม. (2548). ฮูปแต้มในสิมอีสาน งานศิลป์สองฝั่งโขง. กรุงเทพมหานคร : สำนักพิมพ์มติชน.
สุริชัย หวันแก้ว. (2552). ศิลปวัฒนธรรมร่วมสมัยบนความหลากหลายและสับสน. กรุงเทพมหานคร : สถาบันเอเชียศึกษา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
พระมหาหรรษา ธมฺมหาโส และกรรณิการ์ ตั้งตุลานนท์. (2556). คุณค่าและความสำคัญของจิตรกรรมฝาผนังอุโบสถกลางน้ำ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย. กรุงเทพมหานคร : รพีปกรณ.