การพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้เพื่อเสริมสร้างความสามารถด้านการสื่อสารในการฟัง และการพูดภาษาอังกฤษ ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนเทศบาล 5 บ้านกาหยี เทศบาลเมืองตะลุบัน อำเภอสายบุรี จังหวัดปัตตานี
Main Article Content
บทคัดย่อ
บทความวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1)ศึกษาข้อมูลพื้นฐานในการจัดการเรียนรู้เพื่อเสริมสร้างความสามารถด้านการสื่อสารในการฟังและการพูดภาษาอังกฤษ 2)สร้างรูปแบบการจัดการเรียนรู้เพื่อเสริมสร้างความสามารถด้านการสื่อสารในการฟังและการพูดภาษาอังกฤษ 3)ทดลองใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้เพื่อเสริมสร้างความสามารถด้านการสื่อสารในการฟังและการพูดภาษาอังกฤษ 4)ศึกษาผลการใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้เพื่อเสริมสร้างความสามารถด้านการสื่อสารในการฟังและการพูดภาษาอังกฤษ ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนเทศบาล 5 บ้านกาหยี เทศบาลเมืองตะลุบัน อำเภอสายบุรี จังหวัดปัตตานี กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนเทศบาล 5 บ้านกาหยี จำนวน 35 คน ได้มาโดยสุ่มแบบกลุ่ม ใช้วิธีดำเนินการวิจัยในลักษณะของการวิจัยและพัฒนา โดยใช้ระเบียบวิธีการวิจัยแบบผสมผสานวิธี ที่มีลักษณะเป็นแบบแผนเชิงผสมผสานแบบรองรับภายใน ด้วยการศึกษาวิธีการเชิงปริมาณเสริมด้วยวิธีการวิจัยเชิงคุณภาพ และใช้แบบแผนการทดลองแบบทดสอบกลุ่มเดียวก่อน-หลัง การใช้รูปแบบวิเคราะห์ข้อมูลโดยการหาค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการทดสอบค่าทีแบบไม่อิสระ (t-test for dependent samples)
ผลการวิจัยพบว่า 1) ผลการศึกษาวิเคราะห์ข้อมูลพื้นฐาน ซึ่งประกอบด้วยข้อมูลพื้นฐานเอกสารและข้อมูลพื้นฐานบุคคล จากข้อมูลดังกล่าวที่นำมาใช้กำหนดนิยาม ความสามารถ พฤติกรรมบ่งชี้ และแนวทางการพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้เพื่อเสริมสร้างความสามารถด้านการสื่อสารในการฟังและการพูดภาษาอังกฤษ ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ได้รูปแบบการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ประกอบด้วย 6 องค์ประกอบ คือ (1)แนวคิดและทฤษฎีพื้นฐาน (2)วัตถุประสงค์ (3)ขั้นตอนการจัดการเรียนรู้ (4)หลักการตอบสนอง (5)ระบบสนับสนุน (6)การวัดและประเมินผล 2)ผลการพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้เพื่อเสริมสร้างความสามารถด้านการสื่อสารในการฟังและการพูดภาษาอังกฤษ ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 โดยผู้เชี่ยวชาญมีผลการประเมินโดยรวมเฉลี่ย 4.13 มีความเหมาะสมอยู่ในระดับมาก 3)ผลการทดลองใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้เพื่อเสริมสร้างความสามารถด้านการสื่อสารในการฟังและการพูดภาษาอังกฤษ นักเรียนมีทักษะการฟังและการพูดภาษาอังกฤษเพิ่มขึ้นหลังจากได้รับการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ตามตามรูปแบบอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 4)ผลการประเมินประสิทธิผลของรูปแบบการจัดการเรียนรู้เพื่อเสริมสร้างความสามารถด้านการสื่อสารในการฟังและการพูดภาษาอังกฤษ พบว่า นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 มีความพึงพอใจต่อจัดการเรียนรู้ด้วยรูปแบบการจัดการเรียนรู้เพื่อเสริมสร้างความสามารถด้านการสื่อสารในการฟังและการพูดภาษาอังกฤษ ในภาพรวมอยู่ในระดับมาก
Article Details
เอกสารอ้างอิง
พรรณวรท เลื่อมใส. (2556). การพัฒนาการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ทักษะการฟัง-พูดภาษาอังกฤษชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โดยวิธีการเรียนรู้แบบร่วมมือเทคนิค LT. วิทยานิพนธ์ปริญญาศึกษาศาสตรมหาบัณฑิต. มหาวิทยาลัยมหาสารคาม.
พิมพา อัมเพิลบี้. (2553). การพัฒนาทักษะการฟังและการพูดภาษาอังกฤษโดยใช้วิธีการสอนตอบสนองด้วยท่าทางและเล่าเรื่องชั้นประถมศึกษาปีที่ 2. วิทยานิพนธ์ปริญญาศึกษาศาสตรมหาบัณฑิต. มหาวิทยาลัยมหาสารคาม.
โรงเรียนเทศบาล 5 บ้านกาหยี 3. (2559). หลักสูตรสถานศึกษากลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศระดับประถมศึกษา ฉบับปรับปรุง 2559. ปัตตานี : โรงเรียนเทศบาล 5 บ้านกาหยี.
เศรษฐพัส สุวรรณแสนทวี. (2556). การเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์การเรียนภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสารแรงจูงใจใฝ่สัมฤทธิ์ของนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ระหว่างการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบ CLT และแบบ TPR. วิทยานิพนธ์การศึกษามหาบัณฑิต สาขาหลักสูตรและการสอน. มหาวิทยาลัยมหาสารคาม.
สุจิตตรา สวยขุนทด. (2553). การใช้กิจกรรมยี่สิบคำถามเพื่อพัฒนาทักษะการพูดภาษาอังกฤษของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5. การศึกษาค้นคว้าอิสระการศึกษามหาบัณฑิต. มหาวิทยาลัยมหาสารคาม.
สุธิมาศ นะรินรัมย์. (2554). การพัฒนากิจกรรมการเรียนรู้ การพูดภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสารโดยใช้บทบาทสมมติ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6. การศึกษาค้นคว้าอิสระการศึกษามหาบัณฑิต. มหาวิทยาลัยมหาสารคาม.
ฮาสีด๊ะ ดีนามอ. (2553). การศึกษาความสามารถในการฟัง พูดภาษาอังกฤษ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 โดยวิธีการสอนเพื่อการสื่อสาร ตามแนวคิดของ คีธ จอห์นสัน. วิทยานิพนธ์ หลักสูตรและการสอน. มหาวิทยาลัยทักษิณ.