การประยุกต์หลักอิทธิบาท 4 ไปใช้ในการดำเนินงานด้านโครงสร้างพื้นฐานของ องค์การบริหารส่วนตำบลนาโพธิ์ อำเภอเมือง จังหวัดร้อยเอ็ด
Main Article Content
บทคัดย่อ
สารนิพนธ์เรื่องนี้มีวัตถุประสงค์ คือ 1) เพื่อศึกษาความคิดเห็นของประชาชนต่อการประยุกต์หลักอิทธิบาท 4 ไปใช้ในการดำเนินงานด้านโครงสร้างพื้นฐานขององค์การบริหารส่วนตำบลนาโพธิ์ อำเภอเมือง จังหวัดร้อยเอ็ด 2) เพื่อเปรียบเทียบการประยุกต์หลักอิทธิบาท 4 ไปใช้ในการดำเนินงานฯ ตามความคิดเห็นของประชาชนที่มี เพศ อายุ และระดับการศึกษา ต่างกัน และ 3) เพื่อรวบรวมข้อเสนอแนะแนวทางการประยุกต์หลักอิทธิบาท 4 ไปใช้ในการดำเนินงานฯ กลุ่มตัวอย่างได้แก่ ประชาชนที่เป็นหัวหน้าครัวเรือนหรือผู้มีอายุตั้งแต่ 20 ปีขึ้นไป ในเขตองค์การบริหารส่วนตำบลนาโพธิ์ จำนวนรวม 291 คน กำหนดขนาดตัวอย่างโดยใช้สูตรของของทาโร่ ยามาเน่ (Taro Yamane) เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย คือ แบบสอบถามแบบมาตราส่วนประมาณค่าห้าระดับ จำนวน 24 ข้อ มีค่าความเชื่อมั่นทั้งฉบับเท่ากับ .90 สถิติที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน t-test และ F-test (One Way ANOVA) วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์
ผลการวิจัย พบว่า 1) การประยุกต์หลักอิทธิบาท 4 ไปใช้ในการดำเนินงานด้านโครงสร้างพื้นฐานขององค์การบริหารส่วนตำบลนาโพธิ์ โดยรวมอยู่ในระดับมาก เมื่อพิจารณาเป็นรายด้าน พบว่า อยู่ในระดับมากทั้งสามด้าน เรียงลำดับจากด้านที่มีค่าเฉลี่ยมากไปหาน้อย ได้แก่ ด้านการสาธารณูปโภค ด้านการคมนาคม และด้านน้ำเพื่ออุปโภคบริโภค 2) ผลการทดสอบสมมติฐาน พบว่า การประยุกต์หลักอิทธิบาท 4 ไปใช้ในการดำเนินงานด้านโครงสร้างพื้นฐานขององค์การบริหารส่วนตำบลนาโพธิ์ตามความคิดเห็นของประชาชนที่มี เพศ อายุ และระดับการศึกษาต่างกัน โดยรวมและรายด้าน ไม่แตกต่างกัน 3) ข้อเสนอแนะที่มีค่าความถี่สูงไปหาต่ำสามอันดับแรก ตามความคิดเห็นของประชาชน เกี่ยวกับการประยุกต์หลักอิทธิบาท 4 ไปใช้ในการดำเนินงานด้านโครงสร้างพื้นฐานขององค์การบริหารส่วนตำบลนาโพธิ์ ปรากฏดังนี้ ควรมีความมุ่งมั่นในการพัฒนาความสะอาดของน้ำประปา ควรตีเส้นแบ่งถนนให้ชัดเจนอยู่เสมอเพื่อลดอุบัติเหตุ และควรเพิ่มความถี่ในการซ่อมไฟส่องสว่างในถนนสาธารณะ
Article Details
เอกสารอ้างอิง
กิตติธัช อิ่มวัฒนนกุล. (2553). ความคิดเห็นของประชาชนที่มีต่อการให้บริการด้านโครงสร้างพื้นฐานขององค์การบริหารส่วนตำบลในเขตอำเภอโนนไทย จังหวัดนครราชสีมา. สารนิพนธ์วิศวกรรมศาสตรมหาบัณฑิต สาขาการบริการ. บัณฑิตวิทยาลัย : มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี.
โกวิทย์ พวงงาม. (2553). การปกครองท้องถิ่นไทย. กรุงเทพมหานคร : บริษัท ส. เอเชียเพรส (1989) จำกัด.
บุญชม ศรีสะอาด. (2545). การวิจัยเบื้องต้น. พิมพ์ครั้งที่ 7. กรุงเทพมหานคร : สุวีริยาสาส์น.
พระถวิล ยสินธโธ (แสงสุด). (2558). การประยุกต์ใช้หลักอิทธิบาท 4 ในการปฏิบัติงานของบุคลากร องค์การบริหารส่วนตำบลหนองพอก อำเภอหนองพอก จังหวัดร้อยเอ็ด. วิทยานิพนธ์รัฐศาสตรมหาบัณฑิต สาขารัฐศาสตร์การปกครอง. บัณฑิตวิทยาลัย : มหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย.
พระมหามนตรี มนติวฑฺฒโน(อุทัยวัฒน์). (2559). ความคิดเห็นของประชาชนที่มีต่อการดำเนินงานด้านโครงสร้างพื้นฐานขององค์การบริหารส่วนตำบลเหนือเมือง อำเภอเมืองจังหวัดร้อยเอ็ด. วิทยานิพนธ์รัฐศาสตรมหาบัณฑิต สาขารัฐศาสตร์การปกครอง. บัณฑิตวิทยาลัย : มหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย.
พระเอกพันธ์ ธีรภทฺโท (วิมานทอง). (2554). การปฏิบัติหน้าที่ตามหลักอิทธิบาท 4 ของบุคลากรสำนักงานเขตบางพลัด กรุงเทพมหานคร. วิทยานิพนธ์พุทธศาสตรมหาบัณฑิต. สาขารัฐประศาสนศาสตร์. บัณฑิตวิทยาลัย : มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณ์ราชวิทยาลัย.
ระเบียบ เพชรมะตัน. (2551). การดำเนินงานการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานขององค์การบริหารส่วนตำบลหนองบัวฮี อำเภอพิบูลมังสาหาร จังหวัดอุบลราชธานี. วิทยานิพนธ์รัฐประศาสนศาสตรมหาบัณฑิต. บัณฑิตวิทยาลัย : มหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี.
ล้วน สายยศ และอังคนา สายยศ. (2540). เทคนิคการวิจัยทางการศึกษา. กรุงเทพฯ : สุวีริยาสาส์น.
วุฒิสาร ตันไชย. (2547). การกระจายอำนาจสู่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ความก้าวหน้าหลัง รัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2540. กรุงเทพมหานคร : คลังวิชา.
องค์การบริหารส่วนตำบลนาโพธิ์. (2559). แผนพัฒนาองค์การบริหารส่วนตำบลนาโพธิ์. ร้อยเอ็ด : องค์การบริหารส่วนตำบลนาโพธิ์.