การประยุกต์หลักอธิษฐานธรรม 4 ไปใช้ในการมีส่วนร่วมทางการเมืองท้องถิ่นของประชาชนในเขตเทศบาลเมืองร้อยเอ็ด จังหวัดร้อยเอ็ด
Main Article Content
บทคัดย่อ
สารนิพนธ์เรื่องนี้มีวัตถุประสงค์ คือ 1) เพื่อศึกษาการประยุกต์หลักอธิษฐานธรรม 4 ไปใช้ในการมีส่วนร่วมทางการเมืองท้องถิ่นของประชาชนในเขตเทศบาลเมืองร้อยเอ็ด จังหวัดร้อยเอ็ด 2) เพื่อเปรียบเทียบการประยุกต์หลักอธิษฐานธรรม 4 ไปใช้ในการมีส่วนร่วมทางการเมืองท้องถิ่นของประชาชนในเขตเทศบาลเมืองร้อยเอ็ด จังหวัดร้อยเอ็ด ที่มีเพศ อายุ ระดับการศึกษา และการประกอบอาชีพต่างกัน และ 3) เพื่อรวบรวมข้อเสนอแนะในการพัฒนาการประยุกต์หลักอธิษฐานธรรม 4 ไปใช้ในการมีส่วนร่วมทางการเมืองท้องถิ่นของประชาชนในเขตเทศบาลเมืองร้อยเอ็ด จังหวัดร้อยเอ็ด กลุ่มตัวอย่างได้แก่ ประชาชนที่เป็นหัวหน้าครัวเรือนหรือตัวแทนครัวเรือนที่มีอายุตั้งแต่18 ปีขึ้นไปและอาศัยในเขตเทศบาลเมืองร้อยเอ็ด จังหวัดร้อยเอ็ด จำนวน 382 คน จาก 382 ครัวเรือน กำหนดขนาดกลุ่มตัวอย่างโดยใช้สูตรของของทาโร่ ยามาเน่ (Taro Yamane) เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย คือ แบบสอบถามแบบมาตราส่วนประมาณค่าห้าระดับ จำนวน 32 ข้อ มีค่าความเชื่อมั่นทั้งฉบับเท่ากับ .91 สถิติที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน t-test และการวิเคราะห์ความแปรปรวนทางเดียว (One Way ANOVA : F-test) และวิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์
ผลการวิจัย พบว่า
1) การประยุกต์หลักอธิษฐานธรรม 4 ไปใช้ในการมีส่วนร่วมทางการเมืองท้องถิ่นของประชาชนในเขตเทศบาลเมืองร้อยเอ็ด จังหวัดร้อยเอ็ด โดยรวมอยู่ในระดับมาก เมื่อพิจารณาเป็นรายด้าน พบว่าอยู่ในระดับมากทั้งสี่ด้าน เรียงลำดับจากด้านที่มีค่าเฉลี่ยมากไปหาน้อย ได้แก่ ด้านการเลือกตั้ง ด้านการติดตามข่าวสารทางการเมือง ด้านการเข้าฟังการปราศรัยหาเสียงทางการเมือง และด้านการช่วยกลุ่มการเมืองรณรงค์หาเสียงตามลำดับ
2) ผลการทดสอบสมมติฐาน การประยุกต์หลักอธิษฐานธรรม 4 ไปใช้ในการมีส่วนร่วมทางการเมืองท้องถิ่นของประชาชนในเขตเทศบาลเมืองร้อยเอ็ด จังหวัดร้อยเอ็ด ที่มีเพศ อายุ ระดับการศึกษา และการประกอบอาชีพต่างกัน โดยรวมและรายด้าน ไม่แตกต่างกัน และ
3) ข้อเสนอแนะของประชาชนในการพัฒนาการประยุกต์หลักอธิษฐานธรรม 4 ไปใช้ในการ มีส่วนร่วมทางการเมืองท้องถิ่นของประชาชนในเขตเทศบาลเมืองร้อยเอ็ด จังหวัดร้อยเอ็ด เรียงลำดับจากข้อที่มีค่าความถี่สูงไปหาต่ำสามอันดับแรก ได้แก่ การติดตามข่าวสารทางการเมืองทางสื่อมวลชนควรทำอย่างเป็นกลาง ควรสละเวลาติดตามรับฟังคำปราศรัยของผู้สมัครรับเลือกตั้งในท้องถิ่นทุกคน และควรเลือกที่นโยบายมากกว่าความใกล้ชิดกับบุคคล
Article Details
เอกสารอ้างอิง
โกวิทย์ พวงงาม. (2553). การปกครองท้องถิ่นไทย. กรุงเทพฯ : บริษัท ส. เอเชียเพรส จำกัด.
เทศบาลเมืองร้อยเอ็ด. (2559). แผนพัฒนาเทศบาล. ร้อยเอ็ด : เทศบาลเมืองร้อยเอ็ด.
ธนกฤต บุบผาโชติ. (2556). การมีส่วนร่วมทางการเมืองท้องถิ่นของประชาชนองค์การบริหารส่วนตำบลสวนจิก อำเภอศรีสมเด็จ จังหวัดร้อยเอ็ด. สารนิพนธ์รัฐศาสตรมหาบัณฑิต. บัณฑิตวิทยาลัย : มหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย.
บวรศักดิ์ อุวรรณโณ และถวิลวดี บุรีกุล. (2550). ประชาธิปไตยแบบมีส่วนรวม. กรุงเทพมหานคร : โรงพิมพ์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
ฤทัยรัตน์ กากิ่ง. (2550). การมีส่วนร่วมทางการเมืองของประชาชนในการปกครองส่วนท้องถิ่น : ศึกษากรณี เทศบาลตำบลพระสมุทรเจดีย์ อำเภอพระสมุทรเจดีย์ จังหวัดสมุทรปราการ. วิทยานิพนธ์ศิลปศาสตรมหาบัณฑิต. บัณฑิตวิทยาลัย : มหาวิทยาลัยรามคำแหง.
ลัดดาวัลย์ กาดี. (2552). การมีส่วนร่วมทางการเมืองท้องถิ่นของประชาชน: ศึกษาเฉพาะกรณีในเขตเทศบาล ตำบลลำตาเสา อำเภอวังน้อย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา. สารนิพนธ์รัฐศาสตรมหาบัณฑิต. บัณฑิตวิทยาลัย : มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย.
อัจฉรา เกษสมเกียรติ. (2551). การมีส่วนร่วมทางการเมืองระดับท้องถิ่นของประชาชนในองค์การบริหารส่วนตำบลคลองจิก อำเภอบางปะอิน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา. วิทยานิพนธ์ศิลปศาสตรมหาบัณฑิต. บัณฑิตวิทยาลัย : มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์.