การพัฒนารูปแบบการจัดกิจกรรมการเรียนรู้เชิงประสบการณ์ เพื่อเสริมสร้างทักษะการทำขนมไทย สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5

Main Article Content

ณปภัช ลิ้มพงศ์ธร

บทคัดย่อ

                   การศึกษางานวิจัยในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อพัฒนารูปแบบการจัดกิจกรรมการเรียนรู้เชิงประสบการณ์ เพื่อเสริมสร้างทักษะการทำขนมไทยสำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ตามเกณฑ์มาตรฐาน 80/80 2) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนและหลังการจัดกิจกรรมการเรียนรู้เชิงประสบการณ์เพื่อเสริมสร้างทักษะการทำขนมไทยสำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 3) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของการพัฒนารูปแบบการจัดกิจกรรมการเรียนรู้เชิงประสบการณ์เพื่อเสริมสร้างทักษะการทำขนมไทยสำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 4) เพื่อหาความคงทนของการเรียนรู้ของการพัฒนารูปแบบการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ เชิงประสบการณ์เพื่อเสริมสร้างทักษะการทำขนมไทยสำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5


                    กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยในครั้งนี้ ได้แก่ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5/2 จำนวน 1 ห้องเรียน จำนวน 24 คนได้มาโดยวิธีการสุ่มแบบแบ่งกลุ่ม (Cluster Random Sampling) เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษาวิจัย ได้แก่ รูปแบบการจัดกิจกรรมการเรียนรู้เชิงประสบการณ์เพื่อเสริมสร้างทักษะการทำขนมไทยสำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนเทศบาลวัดเหนือ แบบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาการงานอาชีพและเทคโนโลยี วิเคราะห์ข้อมูลโดยการหาค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และค่าร้อยละ


                   ผลการศึกษาค้นคว้าพบว่า (1) เพื่อพัฒนารูปแบบการจัดกิจกรรมการเรียนรู้เชิงประสบการณ์ เพื่อเสริมสร้างทักษะการทำขนมไทยสำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 มuประสิทธิภาพเท่ากับ 80.85/84.06 (2)  เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนและหลังการจัดกิจกรรมการเรียนรู้เชิงประสบการณ์เพื่อเสริมสร้างทักษะการทำขนมไทยสำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 พบว่า นักเรียนมีคะแนนหลังการผ่านการจัดกิจกรรมการเรียนรู้อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 (3) การประเมินความพึงพอใจในการใช้รูปแบบการจัดกิจกรรมการเรียนรู้เชิงประสบการณ์เพื่อเสริมสร้างทักษะการทำขนมไทยสำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 พบว่า อยู่ในระดับมาก (4)  ความคงทนของการเรียนรู้ของการพัฒนารูปแบบการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ เชิงประสบการณ์เพื่อเสริมสร้างทักษะการทำขนมไทยสำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 พบว่า มีความคงทนในการเรียนรู้

Article Details

รูปแบบการอ้างอิง
ลิ้มพงศ์ธร ณ. (2019). การพัฒนารูปแบบการจัดกิจกรรมการเรียนรู้เชิงประสบการณ์ เพื่อเสริมสร้างทักษะการทำขนมไทย สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5. วารสารมหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย วิทยาเขตร้อยเอ็ด, 8(1), 231–240. สืบค้น จาก https://so01.tci-thaijo.org/index.php/AJMBU/article/view/194963
ประเภทบทความ
บทความวิจัย

เอกสารอ้างอิง

ขวัญใจ เอมใจ. (2540). การเลือกการตัดสินใจบริโภคขนมไทย. กรุงเทพมหานคร : ภาควิชาพัฒนามหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์.

ศรีสมร คงพันธุ์. (2544). เข้าครัวเป็นอาชีพ. กรุงเทพมหานคร : บริษัท สำนักพิมพ์แสงแดด จำกัด.

สุภาพร คำพิมาย และกิติพงษ์ ลือนาม. (2555). การศึกษาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหน่วยการเรียนรู้การหาร และพฤติกรรมการทำงานกลุ่มของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 จากการจัดการเรียนรู้โดยใช้เทคนิค SIAD. วารสารวิชาการเครือข่ายบัณฑิตศึกษา มหาวิทยาลัยราชภัฏภาคเหนือ. 3 (4). 89–100.

Hickcox, L.K. (1991). A Historical Review of Kolb’s Formulation of Experiential Learning Theory. Dissertation Abstracts International. 52 (5). 112-A.

Lee, P.L., & Moffeit, K.S. (1990). Case for Experiential Learning for Internal Auditors. Internal Auditing, 6 (1). 40-45.

Wallerstein, H.A. (1971). Dictionary of Psychology. New York : Penguin Books, Inc.