การจัดการเรียนรู้วิชาช่างสิบหมู่โดยใช้หลักอิทธิบาทธรรม 4 โรงเรียนพระปริยัติธรรม แผนกสามัญศึกษา จังหวัดพะเยา

บทคัดย่อ

         บทความวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์ 1)เพื่อศึกษาสภาพการจัดการเรียนรู้วิชาช่างสิบหมู่โดยใช้หลักอิทธิบาทธรรม 4 2)เพื่อเปรียบเทียบการจัดการเรียนรู้วิชาช่างสิบหมู่โดยใช้หลักอิทธิบาทธรรม 4 3)เพื่อศึกษาแนวทางและข้อเสนอแนะในการส่งเสริมการจัดการเรียนรู้วิชาช่างสิบหมู่โดยใช้หลัก           อิทธิบาทธรรม 4 โรงเรียนพระปริยัติธรรมแผนกสามัญศึกษา จังหวัดพะเยา เป็นการวิจัยเชิงปริมาณและคุณภาพ กลุ่มตัวอย่างจำนวน 111 รูป/คน เครื่องมือในการวิจัย คือ แบบสอบถาม วิเคราะห์ข้อมูลโดยหาค่าความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน การทดสอบค่าที และการวิเคราะห์ความแปรปรวนทางเดียว ส่วนการวิจัยเชิงคุณภาพ โดยการสัมภาษณ์เชิงลึกกับผู้ให้ข้อมูลสำคัญ จำนวน  16 รูป/คน วิเคราะห์ข้อมูลเชิงพรรณนา

         ผลการวิจัยพบว่า 1. สภาพการจัดการเรียนรู้วิชาช่างสิบหมู่โดยใช้หลักอิทธิบาทธรรม 4 โรงเรียนพระปริยัติธรรมแผนกสามัญศึกษา จังหวัดพะเยา โดยรวมอยู่ในระดับมาก เมื่อพิจารณาเป็นรายด้าน พบว่า อยู่ในระดับมากทุกด้าน โดยเรียงจากมากไปหาน้อย ได้แก่ ด้านวิมังสา ด้านฉันทะ ด้านจิตตะ และด้านวิริยะ ตามลำดับ 2. เปรียบเทียบกลุ่มตัวอย่างผู้บริหารและครูผู้สอนที่มี สถานภาพ วุฒิการศึกษา และประสบการณ์ทำงาน ต่างกัน มีความคิดเห็นต่อการจัดการเรียนรู้วิชาช่างสิบหมู่โดยใช้หลักอิทธิบาทธรรม 4 โรงเรียนพระปริยัติธรรมแผนกสามัญศึกษา จังหวัดพะเยา ไม่แตกต่างกัน    3. แนวทางและข้อเสนอแนะการส่งเสริมการจัดการเรียนรู้วิชาช่างสิบหมู่นั้น ทางผู้บริหารและครูผู้สอนต้องตระหนักว่าควรจัดการเรียนรู้วิชาชีพแก่ผู้เรียน เพราะวิชาชีพดังกล่าวมีความเป็นอัตลักษณ์ของความเป็นไทยและไม่ขัดต่อสมณวิสัยของผู้เรียน ควรส่งเสริมด้านงบประมาณ ด้านการฝึกอบรม เผยแพร่ผลงานของนักเรียนให้เป็นที่ประจักษ์ในการแข่งขันทักษะวิชาการ และควรจัดวิทยากรผู้เชี่ยวชาญมาอบรมวิชาช่างสิบหมู่แก่ครูภูมิปัญญาท้องถิ่น บรรจุครูช่างศิลป์ให้มาสอนประจำ