แนวทางการส่งเสริมการแสดงลิเกในสถาบันอุดมศึกษาเพื่ออนุรักษ์และสืบทอดภูมิปัญญาไทยเขตภาคเหนือตอนล่าง
Main Article Content
บทคัดย่อ
บทความวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์ 1)เพื่อศึกษาภูมิปัญญา สภาพปัญหาการอนุรักษ์และสืบทอด 2)แนวทางการส่งเสริมการแสดงลิเกในสถาบันอุดมศึกษาเพื่ออนุรักษ์และสืบทอดภูมิปัญญาไทยเขตภาคเหนือตอนล่าง เป็นงานวิจัยเชิงคุณภาพ เก็บรวบรวมข้อมูลในภาคสนามจากประชากรจากกลุ่มผู้รู้ กลุ่มผู้แสดงลิเกในสถาบันอุดมศึกษาและกลุ่มผู้เกี่ยวข้องทั่วไป จำนวน 180 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ แบบสอบถาม แบบสัมภาษณ์และการสนทนากลุ่ม วิเคราะห์ข้อมูลเชิงคุณภาพด้วยวิธีการแบบอุปนัยและนำเสนอข้อมูลวิธีพรรณนา
ผลการวิจัยพบว่า 1. ภูมิปัญญาการแสดงลิเกที่ปรากฏในสถาบันอุดมศึกษามีจำนวน 4 ด้าน คือ ภูมิปัญญาด้านนาฏศิลป์ ภูมิปัญญาด้านคีตศิลป์ ภูมิปัญญาด้านวรรณศิลป์และภูมิปัญญาด้านความเชื่อและพิธีกรรม ภูมิปัญญาดังกล่าวเกิดขึ้นจากการเรียนรู้ การฝึกฝน และการสั่งสมประสบการณ์ตลอดจนการถ่ายทอดสืบต่อกันมาโดยยังรักษาภูมิปัญญาแบบดั้งเดิม แต่ในขณะเดียวกันก็ได้มีการปรับเปลี่ยนพัฒนาภูมิปัญญาบางอย่างเข้ากับยุคสมัยและสภาพสังคมปัจจุบัน เพื่อสร้างความสนใจให้กับผู้ชมการแสดงลิเก และเป็นการส่งเสริมอนุรักษ์และการสืบทอดการแสดงลิเกต่อไป ส่วนสภาพปัญหาพบจากผู้แสดงโดยเฉพาะพระเอกและนางเอกจะต้องมีรูปร่างหน้าตาดีกว่าผู้แสดงลิเกคนอื่นๆ เพราะเป็นจุดสร้างความสนใจให้ผู้ชมและแม่ยก การร้อง การรำจะแสดงพร้อมๆ กันแต่ปัจจุบันการรำน้อยลงเพราะใช้เวลาในการสลับด้วยเพลงลูกทุ่งตามคำขอของผู้ชม ภาษาของลิเกจะมีการดัดน้ำเสียง ดัดคำพูดให้เข้าท่วงทำนองหรือดนตรีที่ประกอบการแสดงและเวทีจะต้องเป็นเวทีที่โดดเด่นเพื่อดึงดูดความสนใจของผู้ชมการแสดงลิเก ทั้งนี้ การแสดงลิเกในสถาบันอุดมศึกษายังขาดผู้ถ่ายทอดจากคนรุ่นเก่ามีความรู้ความชำนาญในการแสดงลิเก และไม่นิยมที่จะถ่ายทอดการแสดงลิเกให้กับผู้อื่น ไม่เห็นถึงความสำคัญของการสืบทอดศิลปะการแสดงลิเกและสาเหตุอีกประการหนึ่งที่สำคัญเนื่องมาจากคนในสังคมเรื่องมีค่านิยมที่เปลี่ยนแปลงไปสนใจวัฒนธรรมตะวันตกมากยิ่งขึ้น 2. แนวทางการส่งเสริมการแสดงลิเกในสถาบันอุดมศึกษา ควรมีการเผยแพร่ศิลปวัฒนธรรมการแสดงลิเกอย่างกว้างขวางและควรมีการจัดกิจกรรมที่มีการแสดงของลิเก เพื่อให้ชุมชนตระหนักเห็นถึงความสำคัญ ความงดงามของศิลปวัฒนธรรม รณรงค์ให้มีการถ่ายทอดลิเกให้กับคนรุ่นหลัง เพื่อมิให้ลิเกหายไปจากท้องถิ่น สถาบันอุดมศึกษาควรจัดทำหลักสูตรศิลปะการแสดงลิเกและมีการสร้างเครือข่ายการเรียนรู้ไปยังสถาบันอุดมศึกษาต่างๆ ต่อไป
Article Details

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
เอกสารอ้างอิง
เขมิกา จันทร์สุขสวัสดิ์. (2554). การสืบทอดอัตลักษณ์ลิเกไทยสู่เด็กและเยาวชนเพื่อเสริมสร้างธุรกิจในชุมชนภาคกลาง. วิทยานิพนธ์ปรัชญาดุษฎีบัณฑิต สาขาวิชาวัฒนธรรมศาสตร์. บัณฑิตวิทยาลัย : มหาวิทยาลัยมหาสารคาม.
ธีรวัฒน์ ช่างสาน. (2556). แนวทางการอนุรักษ์และพัฒนาลิเกป่าในจังหวัดนครศรีธรรมราช. วารสารมหาวิทยาลัยราชภัฏยะลา. 8(1). 76-88.
พิชัย เกษมรักษ์. (2558). กระบวนการเรียนการสอนของคณะลิเกสมอาจน้อย จังหวัดนครราชสีมา. วิทยานิพนธ์ศิลปกรรมศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาดุริยางคศิลป์. บัณฑิตวิทยาลัย : มหาวิทยาลัยมหาสารคาม.
มณี เทพาชมพู. (2553). ลิเก : การอนุรักษ์และพัฒนาตามมิติทางวัฒนธรรม ภูมิปัญญาและปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง. กรุงเทพมหานคร : กระทรวงวัฒนธรรม.
ราชบัณฑิตยสถาน. (2546). พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.2542. กรุงเทพมหานคร : นานมีบุค พับลิเคชั่นส์ จํากัด.
สุพจน์ ดอกลำเจียก. (2553). การส่งเสริมและอนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรมพื้นบ้านเทศบาลตำบล
โพธิ์พระยา อำเภอเมือง จังหวัดสุพรรณบุรี. รายงานศึกษาอิสระปริญญารัฐประศาสนศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาการปกครองท้องถิ่น. วิทยาลัยปกครองท้องถิ่น มหาวิทยาลัยขอนแก่น.
อนุกูล โรจนสุขสมบูรณ์. (2557). ลิเกในประเทศไทย. กรุงเทพมหานคร : สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ.