การพัฒนาทักษะการพูดภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสารเชิงวิชาการโดยประยุกต์ใช้ปริเฉทและประโยชน์จากอัตภาควิเคราะห์เพื่อเสริมสร้างความสามารถในการพูดภาษาอังกฤษ สำหรับนักศึกษาปริญญาตรี

Main Article Content

สิริกาณณ์ ทองมาก
อังคณา อ่อนธานี

บทคัดย่อ

         บทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาวิธีการสอนแบบใหม่สำหรับทักษะการพูดภาษาอังกฤษของนักศึกษาระดับปริญญาตรีตามแบบอรรถฐาน (genre-based approach) ที่มีประสิทธิภาพ               กลุ่มตัวอย่างในการศึกษา ได้แก่ นักศึกษาระดับปริญญาตรี จำนวน 60 คน เก็บข้อมูลจากคะแนนทดสอบก่อนเรียนและหลังเรียน และวิเคราะห์ข้อมูลด้วยสถิติ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน และค่าทีอิสระ


         ผลการวิจัยพบว่า นักศึกษาส่วนใหญ่เป็นเพศหญิง มีจำนวน 42 คน คิดเป็นร้อยละ 70 และนักศึกษาเพศชายมีจำนวน 18 คน คิดเป็นร้อยละ 30 นักศึกษาส่วนใหญ่มีอายุระหว่าง 20–24 ปี โดยมีอายุ 22 ปีมากที่สุด จำนวน 24 คน คิดเป็นร้อยละ 40 และมี GPA อยู่ระหว่าง 2.00–3.40               โดยมี GPA 2.50 มากที่สุด จำนวน 26 คน คิดเป็นร้อยละ 43.40 การนำรูปแบบการพูดนำเสนอเชิงวิชาการในรูปแบบตามแนวการสอนแบบอรรถฐาน (genre-based approach) มาใช้กับนักศึกษา การทดสอบหลังเรียน นักศึกษามีคะแนนเพิ่มขึ้นจากการทดสอบก่อนเรียนในทุกลักษณะทั้ง    ด้านพฤติกรรมการพูด ความคล่องแคล่วในการพูด การใช้ไวยากรณ์และคำศัพท์ และการเรียบเรียงประโยค ซึ่งผลการทดสอบมีการเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ และรูปแบบการสอนภาษาอังกฤษตามแนวการสอนแบบอรรถฐาน (genre-based approach) ประกอบด้วย 5 ขั้นตอน 1) การคัดเลือกประเภทของการพูด 2) การจัดทำเนียบภาษา คำศัพท์ในแต่ละประเภท 3) การสร้างความเชื่อมโยงการเรียบเรียงประโยค 4) การฝึกพูดพร้อมภาษากาย และ 5)การพูดนำเสนอเชิงวิชาการ

Article Details

รูปแบบการอ้างอิง
ทองมาก ส., & อ่อนธานี อ. (2023). การพัฒนาทักษะการพูดภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสารเชิงวิชาการโดยประยุกต์ใช้ปริเฉทและประโยชน์จากอัตภาควิเคราะห์เพื่อเสริมสร้างความสามารถในการพูดภาษาอังกฤษ สำหรับนักศึกษาปริญญาตรี. วารสารมหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย วิทยาเขตร้อยเอ็ด, 12(2), 444–459. สืบค้น จาก https://so01.tci-thaijo.org/index.php/AJMBU/article/view/265856
ประเภทบทความ
บทความวิจัย

เอกสารอ้างอิง

กระทรวงศึกษาธิการ. (2551). หลักสูตรแกนกลาง พ.ศ. 2550. กรุงเทพมหานคร : สำนักพิมพ์คุรุสภา.

ช่อทิพ วิริยะ. (2555). การเพิ่มความสามารถในการใช้ภาษาอังกฤษโดยการสอนภาษาแบบเน้นภาระงาน เป็นหลัก: เตรียมความพร้อมของนักศึกษาธรรมศาสตร์ให้พร้อมเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจ อาเซียน. ปทุมธานี : สถาบันภาษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์.

สงวนศรี โทรอค. (2547). การเปรียบเทียบความเข้าใจในการอ่านและเจตคติในการเรียนวิชา ภาษาอังกฤษของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ที่ได้รับการสอนด้วยวิธีการสอนตาม แนวทฤษฎีการสอนภาษาแบบอรรถฐานกับการสอนแบบเดิม. ดุษฎีนิพนธ์ปรัชญาดุษฎีบัณฑิตสาขาการสอนภาษาอังกฤษ. อิดิธโคแวน : ออสเตรเลีย.

สุมิตรา อังวัฒนกุล. (2540). วิธีสอนภาษาอังกฤษ. พิมพ์ครั้งที่ 4. กรุงเทพมหานคร : สำนักพิมพ์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.

Brown, G., & Yule, G. (1983). Discourse analysis. Cambridge University Press : Cambridge.

Fahnestock, J. (2011). Rhetorical style: The uses of language in persuasion. Oxford University Press : Oxford.

Halliday, M. A. K. (1978). Language as social semiotic: The social interpretation of language and meaning. Edward Arnold : New Jersey.

Hyland, K. (1994). Hedging in academic writing and EAF textbooks. English for specific Purposes. 13(3). 239-256.

Martin, J. R., & White, P. R. R. (2005). Language of evaluation: Appraisal in English. Palgrave Macmillan : London.

Olsen, L. A., &Huckin, T. H. (1990). Point-driven understanding in engineering lecture comprehension. English for Specific Purposes. 9(1). 33-47.

Rasmeenin, C. (2006). A structural move analysis of MA thesis discussion sections in applied Linguistics. Unpublished master degree thesis. Nakhon Pathom : Mahidol University.

Rowley-Jolivet, E. & Carter-Thomas, S. (2005). The rhetoric of conference presentation introductions: Context, argument and interaction. International Journal of Applied Linguistics. 15. 45-70.

Thompson, A. (1994). Frameworks and contexts: A genre-based approach to analyzing lecture introductions. English for Specific Purposes. 13(2). 171-186.