การสร้างเสริมสุขภาวะแนวพุทธของพระสงฆ์ในอำเภอโพนพิสัย จังหวัดหนองคาย
Main Article Content
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อศึกษาแนวคิดทฤษฎีเกี่ยวกับการสร้างเสริมสุขภาวะของพระสงฆ์ 2) เพื่อศึกษาการสร้างเสริมสุขภาวะของพระสงฆ์ตามหลักธรรมทางพระพุทธศาสนา และ 3) เพื่อศึกษาการสร้างเสริมสุขภาวะแนวพุทธของพระสงฆ์ในเขตอำเภอโพนพิสัย จังหวัดหนองคาย เป็นการวิจัยเชิงคุณภาพ กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ กลุ่มพระสงฆ์ 20 รูป กลุ่มนักวิชาการหรือผู้เชี่ยวชาญ 3 คน และกลุ่มประชาชนทั่วไปที่นับถือศาสนาพุทธ 7 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยคือ แบบสัมภาษณ์ วิเคราะห์ข้อมูลโดยการพรรณนาวิเคราะห์
ผลการวิจัยพบว่า 1) แนวคิดทฤษฎีเกี่ยวกับการสร้างเสริมสุขภาวะของพระสงฆ์ เป็นการรักษาสุขภาวะองค์รวมของพระสงฆ์ ด้วยการบริโภค อาหารที่ปราศจาก แป้ง น้ำตาล รวมถึงอาหารที่มีรสจัด พร้อมทั้งบริโภคด้วยความพอดี กล่าวได้ว่า หลักการบริโภคอาหารตามแนวพุทธจึงเป็นการบริโภคเพื่อประโยชน์ต่อสุขภาพ การออกกำลังกายที่ดีของพระสงฆ์คือ การเดินและการปัดกวาดลานวัด นอกจากนี้การทำให้ร่างกายและจิตใจได้รับการพัก และผ่อนคลายตามธรรมชาติ การฝึกสมถกรรมฐาน วิปัสสนากรรมฐาน และการเข้ารับการตรวจโรคเป็นประจำ รวมถึงการเข้ารับการปรึกษาเรื่องสุขภาพเป็นการเพิ่มพูนสุขภาวะของตัวพระสงฆ์ 2) การสร้างเสริมสุขภาวะของพระสงฆ์ตามหลักธรรมทางพระพุทธศาสนา คือ การมุ่งเข้าใจในธรรมชาติของโลก ด้วยหลักการดำเนินชีวิตด้วยความพอเพียง การดูแลใส่ใจร่างกายตามความเหมาะสมโดยไม่หลงยึดมั่นถือมั่นในร่างกาย การยึดมั่นในศีลธรรมเป็นพื้นฐานในการดำเนินชีวิต การดำเนินชีวิตด้วยความมีสติ การ ดำเนินชีวิตตามต้นแบบตามหลักพระธรรมและหลักพระวินัย มุ่งไปสู่ความดับทุกข์ หลุดพ้นจากทุกข์ ทั้งปวง 3) การสร้างเสริมสุขภาวะแนวพุทธของพระสงฆ์ในเขตอำเภอโพนพิสัย จังหวัดหนองคาย ใช้หลักการภาวนา 4 ในการปฏิบัติ เพื่อที่จะเป็นการดูแลรักษาสภาวะทางกายและทางจิตของผู้ที่มีความสนใจในเรื่องของสุขภาวะทางธรรม แล้วการเปิดสอนหลักการภาวนา 4 ประกอบด้วย การเสริมสร้างสุขภาพทางด้านกาย (กายภาวนา) การเสริมสร้างสุขภาพทางด้านศีล (สีลภาวนา) การเสริมสร้างสุขภาพทางด้านจิต (จิตภาวนา) การรักษาสุขภาวะทางด้านปัญญา (ปัญญาภาวนา) ที่เป็นการเรียนรู้ให้กับประชาชนผู้ที่เข้าวัดทำบุญในเทศกาลต่างๆ ของอำเภอโพนพิสัย เพื่อที่จะเป็นการวางรากฐาน ความเป็นมา ความสำคัญ คุณค่า และประโยชน์ของหลักธรรมทางพระพุทธศาสนา เพื่อที่จะเป็นการเข้าใจการพึงพาตัวเราเองอย่างเต็มที่เพื่อที่จะมีสุขภาวะทั้งร่างกาย และจิตใจที่ดี
Article Details

This work is licensed under a Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
References
กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข. (2552). มาตรฐานโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพฉบับบูรณาการระหว่างกรมอนามัยและกรมควบคุมโรค. กรุงเทพมหานคร : กระทรวงสาธารณสุข.
นางสาวเรวดี ศิริภาพ. (2562). รูปแบบการพัฒนาสุขภาวะเชิงพุทธบูรณาการของพนักงานบริษัท. ดุษฎีนิพนธ์ปริญญาพุทธศาสตรดุษฎีบัณฑิต สาขาวิชาพุทธศาสนา. บัณฑิตวิทยาลัย :มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย.
พินิจ ลาภธนานนท์. (2556). โครงการวิจัยเชิงปฏิบัติการแบบมีส่วนร่วม การเสริมสร้างเครือข่ายพระสงฆ์นักพัฒนาในภาคอีสานเพื่อมีส่วนร่วมในการพัฒนากิจกรรมสร้างเป็นธรรมทางสังคม. กรุงเทพมหานคร : สถาบันวิจัยทางสังคมจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
พระปลัดทัศนพล เขมจาโร (พรหมมา). (2564). รูปแบบการบริหารจัดการสุขภาพพระสงฆ์ตามธรรมนูญสุขภาพพระสงฆ์แห่งชาติของพระสังฆาธิการในจังหวัดพิจิตร. สารนิพนธ์ปริญญาพุทธศาสตรดุษฎีบัณฑิต สาขาวิชาการจัดการเชิงพุทธ. บัณฑิตวิทยาลัย :มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย.
มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย. (2539). พระไตรปิฎกภาษาไทยฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย. กรุงเทพมหานคร : โรงพิมพ์มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย.
วีกิพีเดีย. (2565). รายชื่อวัดในจังหวัดหนองคาย. สืบค้นเมื่อ 5 ตุลาคม 2565. จาก https://th.wikipedia.org/wiki/รายชื่อวัดในจังหวัดหนองคาย.
สุวิมล พลวรรณ. (2552). ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับคุณภาพชีวิตของพระสงฆ์ที่อาพาธด้วยโรคเรื้อรัง จังหวัดสระบุรี. นครปฐม : มหาวิทยาลัยมหิดล.
World Bank. (2017). World Bank Country and Lending Groups. Retrieved 21 July 2021. From https://datahelpdesk.worldbank.org/knowledgebase/articles/906519-world- bank-country-and-lending-groups