การผลิตและการตลาดสินค้าเกษตรอินทรีย์ในประเทศญี่ปุ่น (Production and Marketing of Organic Produce in Japan)
Abstract
สรุป
ระบบการผลิตและการตลาดสินค้าเกษตรอินทรีย์ในประเทศญี่ปุ่น ซึ่งอาศัยความร่วมมือระหว่างผู้ผลิตและผู้บริโภค (Teikei system) นับเป็นกรณีศึกษาที่น่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง แบบจำลองในการพัฒนาการผลิตและการตลาดสินค้าเกษตรอินทรีย์ในระบบ Teikei คือ ความร่วมมือและช่วยเหลือซึ่งกันและกันของคนในท้องถิ่นเพื่อพัฒนาเศรษฐกิจชุมชน (Community centered agriculture) โดยเน้นหลักการอยู่ร่วมกันขอคนในสังคมและการดำรงชีวิตอยู่โดยไม่เบียดเบียนสิ่งแวดล้อม แบบจำลองดังกล่าวท้าทายทฤษฏีเศรษฐศาสตร์กระแสหลัก (Mainstream economics) ซึ่งเน้นการแข่งขันในระบบตลาด เป็นสมมุติฐานสำคัญในการกำหนดพฤติกรรมของคนในสังคม
แม้ระบบ Teikei จะมิใช่แนวปฏิบัติซึ่งเป็นกระแสหลักของระบบการผลิตและการตลาดสินค้าเกษตรทั่วไปของญี่ปุ่นและของประเทศต่างๆในโลก แต่ด้วยเอกลักษณ์ ค่านิยม สภาพเศรษฐกิจสังคมพื้นฐานของญี่ปุ่นทำให้การพัฒนาระบบ Teikei ในช่วง 20 ปี ที่ผ่านมาประสบความสำเร็จในระดับหนึ่ง อย่างไรก็ตาม สภาพเศรษฐกิจ สังคม ตลอดจนวัฒนธรรมประเพณี ของประเทศญี่ปุ่นที่เปลี่ยนแปลง ความรวดเร็วในการสื่อสารคมนาคม กติกาการพึ่งพาทางการค้าและเศรษฐกิจของโลกที่นับวันจะเพิ่มสูงขึ้น ความตื่นตัวในปัญหาสุขภาพและสิ่งแวดล้อมของคนญี่ปุ่นและชาวโลก ล้วนเป็นปัญหาที่ท้าทายความมั่นคงและแข็งแกร่งของความร่วมมือกันโดยตรงระหว่างผู้ผลิตและผู้บริโภค ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของระบบ Teikei ทั้งในปัจจุบันและอนาคต
Downloads
Issue
Section
License
All opinions and contents in the CMJE are the responsibility of the author(s). Chiang Mai University Journal of Economics reserves the copyright for all published materials. Papers may not be reproduced in any form without the written permission from Chiang Mai University Journal of Economics.
ข้อคิดเห็นที่ปรากฏและแสดงในเนื้อหาบทความต่างๆในวารสารเศรษฐศาสตร์มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ถือเป็นความเห็นและความรับผิดชอบโดยตรงของผู้เขียนบทความนั้นๆ มิใช่เป็นความเห็นและความรับผิดชอบใดๆของวารสารเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
บทความ เนื้อหา และข้อมูล ฯลฯ ในวารสารเศรษฐศาสตร์มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ถือเป็นลิขสิทธิ์เฉพาะของคณะเศรษฐศาสตร์มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ หากบุคคลหรือหน่วยงานใดต้องการนำทั้งหมดหรือส่วนหนึ่งส่วนใดไปเผยแพร่ต่อหรือเพื่อกระทำการใดๆ จะต้องได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษร จากวารสารเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่