กระแสพลวัตเศรษฐกิจเชียงใหม่
Abstract
สรุป
ผลจากบทความนี้ ประเด็นคงมีมากมายและคงต้องมีการศึกษาเพิ่มเติมกันต่อไป แท้จริงแล้วเรื่องของเมืองเชียงใหม่ในหลายประเด็น หลายท่านเคยทำหรือเคยมีประสบการณ์มาก่อน คงทราบดีกว่าผู้เขียนแน่นอน อย่างไรก็ตามบทความนี้อย่างน้อยแสดงให้เห็นได้ว่าเรื่องของเศรษฐกิจเป็นเรื่องที่ทุกคนหลีกไม่พ้นไม่ว่ายุคสมัยใดก็ตาม การปรับเปลี่ยนในหลายรูปแบบของระบบเศรษฐกิจคงมีอย่างต่อเนื่อง ตราบใดความต้องการ (Needs) ของคนเราไม่สิ้นสุดจากทรัพยากรจำกัด
จังหวัดเชียงใหม่เองเคยตกเป็นเมืองขึ้นของพม่าเกือบ 200 ปี ตามประวัติศาสตร์จนกระทั่งยุคเวลาที่ผ่านมาซึ่งอายุคนรุ่นนี้ ภายใต้สภาวะการแข่งขันกันทางเศรษฐกิจทรัพยากรมากมายได้มีการนำมาสร้างเป็นผลิตภัณฑ์บำบัดความต้องการของคนเชียงใหม่และแห่งอื่น จังหวัดเชียงใหม่คงไม่กลับไปเป็นเมืองขึ้นของประเทศใดๆอีกในแง่การปกครอง แต่สำหรับโดยเฉพาะทางเศรษฐกิจนั้นไม่แน่แต่จะเป็นจริงหรือไม่นั้นอยู่ที่ว่าบทบาททางเศรษฐกิจของประชากรในจังหวัดเชียงใหม่มีการกะทำใดๆทางเศรษฐกิจอย่างถูกต้องหรือไม่
การฉลอง 700 ปี เชียงใหม่ ทำให้พวกเราภูมิใจเพราะเป็นเรื่องที่น่ายินดีที่ว่าเศรษฐกิจเชียงใหม่ได้เตอบโตมาอย่างเข้มแข็ง เป็นอิสระ การที่จะให้เศรษฐกิจท้องถิ่นเป็นอิสระเป็นไทยตลอดไป คงไม่ใช่เรื่องที่ทำได้ง่ายนัก เพราะมีเงื่อนไขที่จะต้องจัดการแก้ปัญหาอีกหลายประการ อย่างไรก็ตามหนทางการป้องกันตนเองให้หลุดพ้นจากอันตรายนั้น เป็นเรื่องที่ผู้จัดทำนโยบายนำมาปฏิบัติคงต้องกระทำให้ดีที่สุด
ขบวนการที่เรียกว่า การเปิดตลาดเสรี มองในแง่วิชาการคือ ดำเนินงานเพื่อลดต้นทุน (Costs) ให้ต่ำที่สุด และลดความไม่มีประสิทธิภาพทางเศรษฐกิจในทุกด้าน รวมถึงลดแรงกดดันทางการเมืองด้วยเช่นกัน การปรับตัวภายใต้เศรษฐกิจตลาดเสรีภาคเอกชนได้พยายามดำเนินการอย่างเต็มที่สมควรที่ภาครัฐจะปรับตัวด้วยหรือไม่ แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ตามต้นทุนต่างๆ (Costs) ย่อมเพิ่มขึ้นเป็นเงาตามตัว คำถามจึงมีว่าต้นทุนเหล่านี้กระจายออกไปในภูมิภาคเท่าเทียมกันหรือไม่ ในท่ามกลางบรรดาผู้มีรายได้เท่าเทียมกันหรือไม่ การยอมเลือกทิศทางการลงทุนขนาดใหญ่ โดยเฉพาะภาครัฐบาลจากส่วนกลางก่อให้เกิดความไม่เท่าเทียมกันทางเศรษฐกิจในระยะยาวด้วยหรือไม่ การที่จังหวัดนี้จะเป็นศูนย์กลางในฝันเพื่อชื่อเสียง เงินตรา ตำแหน่ง และอื่นๆ ของผู้ใดก็ตาม ผู้ที่รับภาระต้นทุนต่างๆ ทั้งอดีต ปัจจุบัน และอนาคต ก็คือประชาชนที่เข้ามาอยู่อาศัยไม่ถาวรหรือชั่วคราวในลักษณะต่างๆ นั่นเอง ดังนั้นจากข้อเสนอของบทความที่ย่อมสะท้อนให้เห็นถึงผลประโยชน์ของกลุ่มชนทางเศรษฐกิจ ไม่ทางตรงหรือทางอ้อมย่อมแสดงออกผ่านทางขบวนการทางการเมือง การที่ภาครับเพิ่มขยายบทบาท (แทนการลดบทบาทเมื่อเปิดเสรีเศรษฐกิจ) และผลักดันให้ธุรกิจภาคแกชนไปสู่ตลาดแข่งขันอย่างเต็มรูปแบบอย่างมีประสิทธิภาพ เป็นสัญญาณให้เห็นว่าเศรษฐกิจเชียงใหม่กำลังเข้าสู่การแข่งขัน ในเวลาเดียวกันที่ทุกแห่งทั่วโลกก็เปิดเสรีตลาดเช่นกัน เมื่อใดก็ตามหากการดำเนินงานไร้ประสิทธิภาพ การชดเชยระบบเศรษฐกิจย่อมคงอยู่ก็คือ การจ่ายเงินอย่างไร้เป้าหมาย ใช้ทรัพยากรทุกประเภทอย่างสิ้นเปลือง เช่น คำกล่าวของปราชญ์เมืองเหนือที่ว่า “ยามเมื่อป้อแม่ยัง กิ๋นขว้างโบ๊ะ ขว้างบ๊ะ ยามเมื่อป้อแม่ต๋ายละเป๋นมะห่อยนอยจา”
Downloads
Issue
Section
License
All opinions and contents in the CMJE are the responsibility of the author(s). Chiang Mai University Journal of Economics reserves the copyright for all published materials. Papers may not be reproduced in any form without the written permission from Chiang Mai University Journal of Economics.
ข้อคิดเห็นที่ปรากฏและแสดงในเนื้อหาบทความต่างๆในวารสารเศรษฐศาสตร์มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ถือเป็นความเห็นและความรับผิดชอบโดยตรงของผู้เขียนบทความนั้นๆ มิใช่เป็นความเห็นและความรับผิดชอบใดๆของวารสารเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
บทความ เนื้อหา และข้อมูล ฯลฯ ในวารสารเศรษฐศาสตร์มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ถือเป็นลิขสิทธิ์เฉพาะของคณะเศรษฐศาสตร์มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ หากบุคคลหรือหน่วยงานใดต้องการนำทั้งหมดหรือส่วนหนึ่งส่วนใดไปเผยแพร่ต่อหรือเพื่อกระทำการใดๆ จะต้องได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษร จากวารสารเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่