ปัจจัยที่มีผลต่อการไร้ที่ดินทำกินและการมีงานทำของชาวชนบทในจังหวัดลำพูนและจังหวัดพิจิตร

Authors

  • เดช กาญจนางกูร

Abstract

บทคัดย่อ

ปัจจุบันโครงสร้างทางเศรษฐกิจในชนบทของประเทศไทย ยังคงเป็นเกษตรกรรมและกิจกรรมการเกษตรส่วนใหญ่ คือ การทำนา ทำไร่ ซึ่งเป็นปัจจัยการผลิตที่สำคัญของการทำนา ทำไร่ ก็คือ ที่ดินทำกินและแรงงาน ในอดีตที่ผ่านมาการเพิ่มผลผลิตทางการเกษตรในชนบทเกิดจากการขยายพื้นที่ดินทำกินเพื่อการเพาะปลูกเป็นสำคัญ แต่ในปัจจุบันการขยายพื้นที่ดินทำกินสำหรับการเพาะปลูกไม่สามารถกระทำได้อีกต่อไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งในภาคเหนือของประเทศไทย ทั้งนี้ เนื่องจากมีผลกระทบอย่างร้ายแรง ต่อพื้นที่ป่าไม้ต้นน้ำลำธารของประเทศ ส่วนแรงงานหรือประชากรในชนบทกลับมีจำนวนเพิ่มมากขึ้นอยู่ตลอดเวลาประกอบกับประเพรีการแบ่งปันมรดกที่ดินทำกินให้บุตรทุกคนๆ ละเท่าๆกัน จึงทำให้อัตราส่วนของที่ดินทำกินต่อแรงงานหรือขนาดที่ดินทำกินเฉลี่ยต่อครัวเรือนลดน้อยถอยลงอยู่ตลอดเวลา จนมีผลทำให้ชาวชนบทเกิดการไร้ที่ดินทำกินเป็นของตนเอง และเกิดการว่างงานเพิ่มจำนวนมากยิ่งขึ้นตามลำดับ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในพื้นที่จังหวัดลำพูน ซึ่งตั้งอยู่ในภาคเหนือตอนล่าง

            จากประเด็นปัญหาดังกล่าว จึงทำให้มีการศึกษาวิจัยในหัวข้อเรื่อง “ปัจจัยที่มีผลต่อการไร้ที่ดินทำกินและการมีงานทำของชาวชนบทในจังหวัดลำพูนและจังหวัดพิจิตร” ขึ้น โดยมีวัตถุประสงค์หลักต้องการศึกษาวิเคราะห์ปัจจัยที่มีผลต่อการไร้ที่ดินทำกินและการไร้ที่ดินทำกินมีผลต่อการทำงานประกอบอาชีพของแรงงานในครัวเรือนอย่างไรบ้าง ซึ่งมีรายละเอียด 3 ประการ ดังนี้

1. เป็นการศึกษาวิเคราะห์ปัจจัยที่มีผลทั้งที่ทำให้ชาวชนบทไร้ที่ดินทำกิน และที่ทำให้ชาวชนบทมีที่ดินทำกินเป็นของตนเองระหว่างครัวเรือนไร้ที่ดินทำกินและครัวเรือนที่มีที่ดินทำกินเป็นของตนเอง

2. ศึกษาเปรียบเทียบสถานภาพทางด้านประชากรและเศรษฐกิจของครัวเรือนในชนบทระหว่างครัวเรือนที่มีที่ดินทำกินเป็นของตนเอง

3. ศึกษาวิเคราะห์ปัจจัยที่มีผลต่อการอพยพเคลื่อนย้ายออกไปทำงานประกอบอาชีพนอกหมู่บ้านของแรงงานในครัวเรือนในชนบท ระหว่างครัวเรือนที่ไร้ที่ดินทำกินและครัวเรือนที่มีที่ดินทำกินเป็นของตนเอง

            การศึกษาวิเคราะห์กระทำโดยการเก็บรวบรวมข้อมูลปฐมภูมิ ด้วยการสัมภาษณ์หัวหน้าครัวเรือนตัวอย่างของการวิจัยซึ่งมีจำนวนทั้งสิ้น 444 ตัวอย่าง จำแนกเป็นครัวเรือนตัวอย่างที่ได้จากจังหวัดลำพูน จำนวน 212 ตัวอย่าง ประกอบด้วยครัวเรือนที่มีที่ดินทำกิน 136 ตัวอย่าง และครัวเรือนที่มีที่ดินทำกินเป็นของตนเอง 76 ตัวอย่าง และเป็นครัวเรือนตัวอย่างที่ได้จากจังหวัดพิจิตร จำนวน 232 ตัวอย่าง ประกอบด้วย ครัวเรือนไร้ที่ดินทำกิน 134 ตัวอย่าง และครัวเรือนที่มี่ที่ดินทำกินเป็นของตนเอง 98 ตัวอย่าง

            การศึกษาวิเคราะห์หาปัจจัยที่มีผลทำให้เกิดการไร้ที่ดินทำกิน และการอพยพเคลื่อนย้ายออกไป ทำงานประกอบอาชีพนอกหมู่บ้านของแรงงานในครัวเรือน ได้ใช้เทคนิคการวิเคราะห์การถดถอยพหุคูณ (Multiple Regression) ตามแบบจำลองโลจิต (Logit Model) โดยวิธีการประมาณภาวะความน่าจะเป็นสูงสุด (Maximum Likehhood Estimates) ส่วนการวิเคราะห์เปรียบเทียบสถานภาพทางด้านประชากรและเศรษฐกิจระหว่างครัวเรือนที่มีที่ดินทำกินเป็นของตนเอง ได้ใช้เทคนิคการทดสอบหาค่า (T-test)

            1.ปัจจัยที่มีผลทำให้เกิดการไร้ที่ดินทำกินในจังหวัดลำพูน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติมี 4 ประการ คือ ขนาดที่ดินทำกินที่มีหรือเคยมี คุณสมบัติของที่ดินทำกินที่เป็นที่ดอน อายุของหัวหน้าครัวเรือนและระดับการศึกษาของหัวหน้าครัวเรือน กล่าวคือ ครัวเรือนที่มีหรือเคยมีที่ดินทำกินขนาดเล็กมีโอกาสเกิดการไร้ที่ดินทำกินสูง ครัวเรือนที่มีที่ดินทำกินเป็นที่ดอนมีโอกาสเกิดการไร้ที่ดินทำกินสูง หัวหน้าครัวเรือนที่มีอายุน้อยและมีระดับการศึกษาต่ำมีโอกาสไร้ที่ดินทำกินสูง

            ส่วนปัจจัยที่มีผลทำให้เกิดการไร้ที่ดินทำกินในจังหวัดพิจิตร อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติมีเพียง 2 ประการ คือ ขนาดที่ดินทำกินที่มีหรือเคยมีและราคาที่ดินทำกินต่อไร่ที่ขายหรือจำนอง กล่าวคือ ครัวเรือนที่มีหรือเคยมีที่ดินทำกินขนาดเล็ก มีโอกาสเกิดการไร้ที่ดินสูงและระดับราคาที่ดินทำกินต่อไร่ที่สูงขึ้น มีผลทำให้เกิดดารไร้ที่ดินทำกินสูง

            2. ปัจจัยทางด้านประชากรของครัวเรือน ซึ่งได้แก่ขนาดของครัวเรือนและอัตราส่วนร้อยละของแรงงานในครัวเรือน ระหว่างครัวเรือนไร้ที่ดินทำกินและครัวเรือนที่มีที่ดินทำกินเป็นของตนเอง ไม่มีความแตกต่างกันแต่อย่างใด ทั้งในจังหวัดลำพูนและในจังหวัดพิจิตร

            ปัจจัยทางด้านเศรษฐกิจของครัวเรือน ซึ่งได้แก่ขนาดที่ดินที่ใช้ทำกิน มูลค่าทรัพย์สินทั้งหมด รายได้ทั้งหมด รายได้เฉลี่ยต่อหัวและรายจ่ายเพื่อการบริโภคของครัวเรือนไร้ที่ดินทำกิน มีค่าน้อยกว่าครัวเรือนที่มีที่ดินทำกินเป็นของตนเอง อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ ทั้งในจังหวัดลำพูนและจังหวัดพิจิตร ส่วนปัจจัยทางด้านเศรษฐกิจอีกประการหนึ่งคือ จำนวนหนี้สินของครัวเรือนนั้น ปรากฏว่าในจังหวัดลำพูนไม่มีความแตกต่างกันแต่อย่างใดระหว่างครัวเรือนไร้ที่ดินทำกินกับครัวเรือนที่มีที่ดินทำกินเป็นของตนเองอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ

            3. ปัจจัยที่มีผลทำให้แรงงานในครัวเรือนอพยพเคลื่อนย้ายออกไปทำงานประกอบอาชีพนอกหมู่บ้านในจังหวัดลำพูน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติมี 4 ประการ คือ รายได้ครัวเรือนจากการรับจ้าง อัตราส่วนร้อยละของแรงงานในครัวเรือน รายได้เฉลี่ยต่อหัว และความแตกต่างระหว่างรายได้ทั้งหมดของครัวเรือนกับรายได้จากการรับจ้าง (รายได้อื่นนอกเหนือจากการรับจ้าง) กล่าวคือ ครัวเรือนที่มีรายได้จากการรับจ้างสูงจะจูงใจให้แรงงานในครัวเรือนอพยพเคลื่อนย้ายออกไปทำงานประกอบอาชีพนอกหมู่บ้านสูง ส่วนครัวเรือนที่มีอัตราส่วนร้อยละของแรงงานในครัวเรือนสูงและครัวเรือนที่มีรายได้เฉลี่ยต่อหัวต่ำจะผลักดันให้แรงงานในครัวเรือนอพยพเคลื่อนย้ายออกไปทำงานประกอบอาชีพนอกหมู่บ้านสูง ตลอดจนครัวเรือนที่มีรายได้อื่นนอกจากรายได้จากการรับจ้างสูงจะจูงใจให้แรงงานในครัวเรือนอพยพเคลื่อนย้ายออกไปทำงานประกอบอาชีพนอกหมู่บ้านสูงด้วย

            ปัจจัยที่มีผลทำให้แรงงานในครัวเรือนอพยพเคลื่อนย้ายออกไปทำงานประกอบอาชีพนอกหมู่บ้านในจังหวัดพิจิตรมีเพียง 2 ประการ คือ อัตราส่วนร้อยละของแรงงานในครัวเรือนและรายได้ครัวเรือนจากการรับจ้าง กล่าวคือ อัตราส่วนร้อยละของแรงงานในครัวเรือนและรายได้ครัวเรือนจากการรับจ้างมีค่าสูงจะผลักดันและจูงใจให้แรงงานในครัวเรือนอพยพเคลื่อนย้ายออกไปทำงานประกอบอาชีพนอกหมู่บ้านสูง ตามลำดับ

Published

2017-11-16