การไม่ยอมรับกลุ่มออมทรัพย์เพื่อการผลิตของประชาชนในพื้นที่ดำเนินการของจังหวัดเชียงใหม่
Abstract
สรุป
การศึกษาการไม่ยอมรับกลุ่มออมทรัพย์เพื่อการผลิตครั้งนี้ เพื่อต้องการทราบถึงโอกาสที่กลุ่มออมทรัพย์เพื่อการผลิตที่ดำเนินงานโดยกรมการพัฒนาชุมชนว่าจะสามารถขยายการดำเนินงานไปได้อีกมากน้อยเพียงใด และต้องการที่จะศึกษาว่ามีปัจจัยอะไรบ้างที่ทำให้ประชาชนในเขตพื้นที่ดำเนินของกลุ่มออมทรัพย์เพื่อการผลิต รวมไปถึงการศึกษาถึงปัญหาการดำเนินงานของกลุ่มออมทรัพย์เพื่อการผลิตในพื้นที่ว่ามีอะไรบ้าง จากผลการศึกษาพอสรุปได้ดังนี้
โอกาสที่จะขยายการดำเนินงานของกลุ่มออมทรัพย์เพื่อการผลิตในพื้นที่ ถ้าพิจารณาจากหมู่บ้านที่มีกลุ่มออมทรัพย์เพื่อการผลิต จะเห็นได้ว่าในหมู่บ้านที่มีกลุ่มออมทรัพย์เพื่อการผลิตประมาณร้อยละ 48.02 ดังนั้นโอกาสที่จะขยายการดำเนินงานให้ทุกครัวเรือนเป็นสมาชิกกลุ่มออมทรัพย์เพื่อการผลิตมีถึงร้อยละ 51.98 ของครัวเรือนทั้งหมดหรือถ้าพิจารณาถึงโอกาสที่จะขยายการดำเนินงานของกลุ่มออมทรัพย์เพื่อการผลิตให้ครบทุกหมู่บ้านในจังหวัดเชียงใหม่ (ยกเว้นในเขตเทศบาล) จะเห็นได้ว่าจังหวัดเชียงใหม่มีสัดส่วนของหมู่บ้านที่มีกลุ่มออมทรัพย์เพื่อการผลิต เพียงร้อยละ23.85 ของหมู่บ้านทั้งหมดในพื้นที่ (ไม่รวมในเขตเทศบาล) ซึ่งถือได้ว่ามีการดำเนินงานของกลุ่มออมทรัพย์ฯ เป็นสัดส่วนที่ค่อนข้างต่ำ เพราะฉะนั้นโอกาสที่จะขยายการดำเนินงานของกลุ่มออมทรัพย์เพื่อการผลิตให้ครบทุกหมู่บ้านยังมีอีกมากถึงร้อยละ 76.15 ของหมู่บ้านทั้งหมดในพื้นที่ (ไม่รวมในเขตเทศบาล) ซึ่งถือได้ว่าโอกาสที่จะขยายการดำเนินงานของกลุ่มออมทรัพย์ยังมีค่อนข้างสูงมาก
ในด้านปัจจัยที่มีผลต่อการไม่ยอมรับกลุ่มออมทรัพย์เพื่อการผลิตของประชาชนในเขตพื้นที่ดำเนินการ พอสรุปได้ดังนี้
1. สภาพการถือครองที่ดินที่เป็นของตนเอง หากครัวเรือนใดไม่มีที่ดินเป็นของตนเองสมาชิกในครัวเรือนดังกล่าวมีโอกาสที่จะไม่เข้าร่วมเป็นสมาชิกกลุ่มออมทรัพย์เพื่อการผลิต
2. การเป็นสมาชิกสหกรณ์เพื่อการเกษตรโดยที่ครัวเรือนที่เป็นสมาชิกสหกรณ์เพื่อการเกษตร สมาชิกในครัวเรือนดังกล่าวมีโอกาสที่จะไม่เข้าร่วมเป็นสมาชิกกลุ่มออมทรัพย์เพื่อการผลิต
3. ความเพียงพอในการกู้ยืมเงินจากสหกรณ์การเกษตร หากครัวเรือนใดเป็นสมาชิกสหกรณ์เพื่อการเกษตรแล้วกู้ยืมเงินและปริมาณเงินกู้ไม่เพียงพอกับการลงทุนสมาชิกในครัวเรือนดังกล่าวมีโอกาสที่จะไม่เข้าร่วมเป็นสมาชิกกลุ่มออมทรัพย์เพื่อการผลิต
4. ความเพียงพอในการกู้ยืมเงินจาก ธ.ก.ส. หากครัวเรือนใดเป็นสมาชิก ธ.ก.ส. แล้วไม่กู้ยืมเงินหรือกู้ยืมเงินและปริมาณเงินกู้เพียงพอกับการลงทุน สมาชิกในครัวเรือนดังกล่าวมีโอกาสที่จะไม่เข้าร่วมเป็นสมาชิกกลุ่มออมทรัพย์เพื่อการผลิต
5. การมีบัญชีเงินฝากธนาคารของครัวเรือนตัวอย่าง หากครัวเรือนใดมีบัญชีเงินฝากธนาคารในธนาคารใดธนาคารหนึ่งสมาชิกในครัวเรือนดังกล่าวมีโอกาสที่จะไม่เข้าร่วมเป็นสมาชิกกลุ่มออมทรัพย์เพื่อการผลิต
6. การเข้าร่วมประชุมเตรียมการก่อตั้งกลุ่มออมทรัพย์เพื่อการผลิต หากครัวเรือนใดไม่เข้าร่วมประชุมเตรียมการก่อตั้งกลุ่มออมทรัพย์เพื่อการผลิต แล้วสมาชิกในครัวเรือนดังกล่าวมีโอกาสที่จะไม่เข้าร่วมเป็นสมาชิกกลุ่มออมทรัพย์เพื่อการผลิต
7. การทราบหลักการดำเนินงานของกลุ่มออมทรัพย์เพื่อการผลิต หากครัวเรือนใดไม่ทราบหลักการดำเนินงานของกลุ่มออมทรัพย์เพื่อการผลิต แล้วสมาชิกในครัวเรือนดังกล่าวมีโอกาสที่จะไม่เข้าร่วมเป็นสมาชิกในกลุ่มออมทรัพย์เพื่อการผลิต
8. ถ้าทราบข้อดีของกลุ่มออมทรัพย์เพื่อการผลิตแล้วจะเข้าร่วมกลุ่มออมทรัพย์ฯ หากครัวเรือนใดที่ทราบถึงข้อดีของกลุ่มออมทรัพย์เพื่อการผลิตแล้วยังจะตัดสินใจไม่เข้าร่วมเป็นสมาชิกกลุ่มออมทรัพย์เพื่อการผลิต สมาชิกในครัวเรือนดังกล่าวมีโอกาสที่จะไม่เข้าร่วมเป็นสมาชิกกลุ่มออมทรัพย์เพื่อการผลิต
9. การไม่ไว้วางใจประธานหรือคณะกรรมการบริหารของกลุ่มออมทรัพย์เพื่อการผลิต หากครัวเรือนใดไม่ไว้วางใจประธานหรือคณะกรรมการบริหารของกลุ่มออมทรัพย์เพื่อการผลิต แล้วสมาชิกในครัวเรือนดังกล่าวมีโอกาสที่จะไม่เข้าร่วมเป็นสมาชิกกลุ่มออมทรัพย์เพื่อการผลิต
สำหรับปัญหาที่กลุ่มออมทรัพย์เพื่อการผลิตในเขตพื้นที่ดำเนินการประสบอยู่นั้น มีอยู่ด้วยกันหลายประการ พอที่จะสรุปได้ดังนี้
1. กลุ่มออมทรัพย์เพื่อการผลิตส่วนใหญ่ประสบปัญหาเงินทุนหมุนเวียนภายในกลุ่มมีน้อยไม่เพียงพอกับความต้องการกู้ยืมของสมาชิกกลุ่มฯ คิดเป็นสัดส่วนประมาณร้อยละ 20
2. กลุ่มออมทรัพย์เพื่อการผลิตขาดการประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนทั่วไปทราบคิดเป็นสัดส่วนประมาณร้อยละ 18.67
3. ปัญหาสมาชิกไม่เข้าใจหลักการดำเนินงานของกลุ่มออมทรัพย์เพื่อการผลิต คิดเป็นสัดส่วนประมาณร้อยละ 14.67
4. ปัญหารัฐบาลไม่เห็นความสำคัญของการดำเนินงานของกลุ่มออมทรัพย์เพื่อการผลิตคิดเป็นสัดส่วนประมาณร้อยละ 12.00
5. ปัญหาเกิดการขัดแย้งกันภายในกลุ่มออมทรัพย์ฯและไม่ไว้วางใจซึ่งกันและกันคิดเป็นสัดส่วนประมาณร้อยละ 10.00
6. ปัญหาขาดการเอาใจใส่ ดูแล ติดตามให้คำแนะนำจากเจ้าหน้าที่ของรัฐที่รับผิดชอบ คิดเป็นสัดส่วนประมาณร้อยละ 6.67 แล
7. ปัญหากรรมการบริหารงานกลุ่มออมทรัพย์ฯมีความรู้น้อย และขาดความรู้ในเรื่องการจัดทำบัญชีที่ถูกต้อง คิดเป็นสัดส่วนส่วนประมาณ ร้อยละ 5.33
Downloads
Issue
Section
License
All opinions and contents in the CMJE are the responsibility of the author(s). Chiang Mai University Journal of Economics reserves the copyright for all published materials. Papers may not be reproduced in any form without the written permission from Chiang Mai University Journal of Economics.
ข้อคิดเห็นที่ปรากฏและแสดงในเนื้อหาบทความต่างๆในวารสารเศรษฐศาสตร์มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ถือเป็นความเห็นและความรับผิดชอบโดยตรงของผู้เขียนบทความนั้นๆ มิใช่เป็นความเห็นและความรับผิดชอบใดๆของวารสารเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
บทความ เนื้อหา และข้อมูล ฯลฯ ในวารสารเศรษฐศาสตร์มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ถือเป็นลิขสิทธิ์เฉพาะของคณะเศรษฐศาสตร์มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ หากบุคคลหรือหน่วยงานใดต้องการนำทั้งหมดหรือส่วนหนึ่งส่วนใดไปเผยแพร่ต่อหรือเพื่อกระทำการใดๆ จะต้องได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษร จากวารสารเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่