การพัฒนาหลักสูตรฝึกอบรมเน้นสมรรถนะเพื่อเสริมสร้างสมรรถนะความรู้สึกไวของครู

ผู้แต่ง

  • สุพรรษา สุวรรณชาตรี, 6852279
  • ดนุลดา จามจุรี, 6852279
  • อัจฉรา วัฒนาณรงค์, 6852279
  • มารุต พัฒผล, 6852279

คำสำคัญ:

หลักสูตรฝึกอบรมเน้นสมรรถนะ, ความรู้สึกไวของครู, สมรรถนะความรู้สึกไวของครู

บทคัดย่อ

การวิจัยครั้งนี้มีความมุ่งหมายเพื่อ 1) พัฒนาสมรรถนะความรู้สึกไวของครู  2) พัฒนาหลักสูตรฝึกอบรมเน้นสมรรถนะเพื่อเสริมสร้างสมรรถนะความรู้สึกไวของครู  3) ประเมินประสิทธิผลของหลักสูตรฝึกอบรมเน้นสมรรถนะเพื่อเสริมสร้างสมรรถนะความรู้สึกไวของครูที่ได้พัฒนาขึ้น ดำเนินการวิจัยในลักษณะการวิจัยและพัฒนา (Research and Development: R&D) แบบแผนการวิจัยแบบศึกษากลุ่มเดียววัดก่อนและหลังการทดลอง (One-Group Pretest-Posttest Design) การดำเนินการแบ่งเป็น 3 ระยะ ระยะที่ 1 การพัฒนาสมรรถนะความรู้สึกไวของครู ระยะที่ 2 การพัฒนาหลักสูตรฝึกอบรมเน้นสมรรถนะเพื่อเสริมสร้างสมรรถนะความรู้สึกไวของครู ระยะที่ 3 การประเมินประสิทธิผลและปรับปรุงหลักสูตรฝึกอบรมเน้นสมรรถนะเพื่อเสริมสร้างสมรรถนะความรู้สึกไวของครู  ผลการวิจัย พบว่า 1 สมรรถนะความรู้สึกไวของครู ประกอบไปด้วยสมรรถนะ 3 ด้าน ได้แก่  ด้านปฏิสัมพันธ์เชิงบวกระหว่างครูและนักเรียนภายในชั้นเรียน  ด้านการตอบสนองต่อความแตกต่างทางการเรียนรู้ของนักเรียนแต่ละบุคคล  และ ด้านการเสริมสร้างศักยภาพในการแก้ปัญหาของนักเรียน  2. หลักสูตรฝึกอบรมเน้นสมรรถนะเพื่อเสริมสร้างสมรรถนะความรู้สึกไวของครู ประกอบด้วยหน่วยการเรียนรู้ 5 หน่วย ได้แก่ หน่วยการเรียนรู้ที่ 1 เรื่องความแตกต่างทางด้านการเรียนรู้ของนักเรียนแต่ละบุคคล หน่วยการเรียนรู้ที่ 2 เรื่องการสร้างปฏิสัมพันธ์ภายในชั้นเรียน หน่วยการเรียนรู้ที่ 3 เรื่องทักษะการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นภายในชั้นเรียน หน่วยการเรียนรู้ที่ 4 เรื่องการออกแบบการจัดการเรียนรู้ และการทดลองปฏิบัติการสอนในชั้นเรียน หน่วยการเรียนรู้ที่ 5 การปฏิบัติการสอนในสถานศึกษา 3. ประสิทธิผลของหลักสูตร พบว่า  1) นักศึกษาครูมีสมรรถนะความรู้สึกไวของครูหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05  2) นักศึกษาครูที่เข้ารับการฝึกอบรมหลักสูตรฝึกอบรมเน้นสมรรถนะเพื่อเสริมสร้างสมรรถนะความรู้สึกไวของครู ได้คะแนนความรู้ความเข้าใจจากการจัดกิจกรรมในหน่วยการเรียนรู้ที่ 1-4 ผ่านเกณฑ์ที่กำหนดไว้  3) นักศึกษาครูทั้ง 10 คนมีพัฒนาการในการออกแบบการจัดการเรียนรู้ และการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ในชั้นเรียนทั้งจากการประเมินของครูพี่เลี้ยง และอาจารย์นิเทศก์อยู่ในเกณฑ์ที่ดีขึ้น ผลจากการสัมภาษณ์นักเรียน และครูพี่เลี้ยง พบว่า นักศึกษาครูมีสมรรถนะความรู้สึกไวของครูครบทั้ง 3 ด้าน และ 4. นักศึกษาครูที่เข้ารับการฝึกอบรมหลักสูตรเน้นสมรรถนะเพื่อเสริมสร้างสมรรถนะความรู้สึกไวของครู มีความพึงพอใจต่อหลักสูตรอยู่ในระดับมากที่สุด

 

เอกสารอ้างอิง

คุรุสภา. 2556. ราชกิจจานุเบกษา ประกาศคณะกรรมการคุรุสภา เรื่อง สาระความรู้ สมรรถนะและประสบการณ์วิชาชีพของผู้ประกอบวิชาชีพครู ผู้บริหารสถานศึกษา และศึกษานิเทศก์ ตามข้อบังคับคุรุสภาว่าด้วยมาตรฐานวิชาชีพ พ.ศ. 2556. วันที่ค้นหาข้อมูล 25 มกราคม 2558, จาก
http :// www.alumni.rtu.ac./doc/
/Knowledge_performance.pdf.

ประเสริฐ ตันสกุล. 2551. ทักษะประคองตน.วันที่ค้นหาข้อมูล 27 ธันวาคม 2551, จาก
http:// www. Aspacngo. Org /unloads /events /jamming /6 pbf.

สำนักงานข้าราชการพลเรือน. 2553. คู่มือการกำหนดสมรรถนะในราชการพลเรือน: คู่มือสมรรถนะเฉพาะตามลักษณะงานที่ปฏิบัติ. นนทบุรี: บริษัท ประชุมช่าง จำกัด.

สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา. (กุมภาพันธ์ 2554). “2554 ปีแห่งการพัฒนาคุณภาพครู”.

อนุสารอุดมศึกษา. ออนไลน์. 37(392): 1-24. วันที่ค้นหาข้อมูล 25 มกราคม 2558, จาก
http :// www.mua.go.th/pr_web.

Blank, William E. 198). Handbook for Developing Competency-Based Training Programs.
New Jersey: Prentice-Hall.

Elita Farine Amini Virmani. 2009. Early Childhood Mental Health Consultation: A Systematic Approach to Improving Teacher Sensitivity Through Ongoing Professional Development. Human Development Office of Graduate Studies University of Califonia.

Lynch Tony. 1997. Communication in the Language Classroom. 2nd . Oxford University Press, Oxford New York.

McClelland, David. 1979. Testing for Competence rather than for Intelligence.American Psychologist.Retrieved December 14, 2009, from
http://www.haygroup.com.

Melodie Rosenfeld& Sherman Rosenfeld. (2004, August). Developing Teacher Sensitivity to Individual Learning Differences. Education Psychology. 24(4), 465-486.

Ruiz, Yumary; et al. 2012. “Lesson Learned from a Community-Academic Initiative: The Development of a Core Competency-Based Training for Community-Academic Initiative Health Workers”. American Journal of Public Health, 102(12).: 2372-2379. Retrived April 25, 2015.From http://eds.a.ebscohost.com/eds/pdfviewer/pdfviewer? Vid=5&sid=8f975a40-0dbc-4683-9ae1-16afc40ebdbc %40sessionmgr4004&hid=4110.

Schoenfeld, A. H. 1988. Individual Differences and Learning Strategies, in C.E. Weinstein, Goetz and P.A. Alexander Learning and Study Strategies: Issue in Assessment, Instruction and Evaluation. San Diego: Academic Press.

Schunk, Dale H. 2004. Learning theories: an educational perspective. 4thed. The Lehigh Press, Inc. New Jersey.

Columbus, Ohio Lynch Tony. 1997. Communication in the Language Classroom. 2nd. Oxford University Press, Oxford New York.

Williamson, M. F.; & Watson, R. L. 2007. “Learning styles research: Understanding how teaching should be impacted by way learners learn: Part III: Understanding how learners’ personality styles impact learning”. Christain Education Journal, 4(1). 62-77.

ดาวน์โหลด

เผยแพร่แล้ว

2018-02-26

รูปแบบการอ้างอิง

สุวรรณชาตรี ส., จามจุรี ด., วัฒนาณรงค์ อ., & พัฒผล ม. (2018). การพัฒนาหลักสูตรฝึกอบรมเน้นสมรรถนะเพื่อเสริมสร้างสมรรถนะความรู้สึกไวของครู. วารสาร อัล-ฮิกมะฮฺ, 7(14), 9–22. สืบค้น จาก https://so01.tci-thaijo.org/index.php/HIKMAH/article/view/113011