Factors Associated with Social C ปัจจัยการกลั่นแกล้งบนสังคมออนไลน์ของเยาวชนสามจังหวัดชายแดนภาคใต้
บทคัดย่อ
การวิจัยชิ้นนี้เป็นการวิจังเชิงปริมาณ มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาความชุกของการกลั่นแกล้งบนสังคมออนไลน์ในรูปแบบต่าง ๆ และปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อการกลั่นแกล้งบนสังคมออนไลน์ กลุ่มตัวอย่างของการวิจัยครั้งนี้เป็นเยาวชนที่มีอายุ 14 ปี บริบูรณ์ แต่ไม่เกิน 18 ปี ในเขตพื้นที่สามจังหวัดชายแดนใต้ จำนวนทั้งสิ้น 240 คน โดยใช้วิธีการสุ่มตัวอย่างด้วยวิธีแบบโควตา ใช้แบบสอบถามเป็นเครื่องมือในการเก็บข้อมูล การวิเคราะห์ข้อมูลทางสถิติด้วยสถิติพรรณนาที่แสดงถึงค่าความถี่ ร้อยละ และค่าสหสัมพันธ์ ทดสอบความสัมพันธ์ระหว่างตัวแปร ด้วยการทดสอบไคว์สแควร์ และการถดถอยโลจิสติกส์ ผลการวิจัยพบว่า เยาวชนจำนวน 174 คน หรือคิดเป็นร้อยละ 72.50 เป็นเยาวชนที่ถูกบุคคลกลั่นแกล้ง และเยาวชนจำนวน 122 คน หรือคิดเป็นร้อยละ 50.83 เป็นเยาวชนที่กลั่นแกล้งบุคคลอื่น และยังพบเยาวชนอีกจำนวน 77 คน คิดร้อยละ 32.08 เป็นเยาวชนที่กลั่นแกล้งบุคคลอื่นและถูกบุคคลอื่นกลั่นแกล้ง การวิเคราะห์การถดถอยโลจิสติกส์ มี 3 ตัวแบบ ตัวแบบแรกพบว่า การใช้สื่อสังคมออนไลน์เฟสบุ๊ค จำนวนเพื่อนบนสื่อสังคมออนไลน์เฟสบุ๊ค การเปิดเผยข้อมูลส่วนตัว (ชื่อเล่น) การเพิ่มเพื่อน (คนแปลกหน้า) การตั้งค่าความเป็นส่วนตัว เคยอับโหลดวิดีโอบนสื่อสังคมออนไลน์ การลืมลงชื่อออกจากเครื่องคอมพิวเตอร์สาธารณะ เพื่อนเคยใช้งานโทรศัพท์มือถือในขณะบัญชีสื่อสังคมออนไลน์เปิดอยู่ และใช้เวลามากเกินไปกับสื่อสังคมออนไลน์ เป็นปัจจัยที่ส่งผลให้เยาวชนกลั่นแกล้งบุคคลอื่น ตัวแบบที่สองพบว่า อายุ การลืมลงชื่อออกจากเครื่องคอมพิวเตอร์สาธารณะ มีความรู้สึกไม่สามารถลดการใช้สื่อสังคมออนไลน์ และจำนวนสื่อสังคมออนไลน์ที่ใช้งาน เป็นปัจจัยที่ส่งผลให้เยาวชนอาจถูกบุคคลอื่นกลั่นแกล้ง และตัวแบบที่สามพบว่า การใช้สื่อสังคมออนไลน์เฟสบุ๊ค จำนวนเพื่อนบนสื่อสังคมออนไลน์อื่น ๆ การเพิ่มเพื่อน (คนแปลกหน้า) การลบแท็กบนสื่อสังคมออนไลน์ การลืมลงชื่อออกจากบัญชีผู้ใช้เมื่อใช้คอมพิวเตอร์สาธารณะ และให้เพื่อนใช้โทรศัพท์มือถือในขณะที่บัญชีสื่อสังคมออนไลน์ยังเปิดใช้งานอยู่นั้น เป็นปัจจัยที่ส่งผลให้เยาวชนกลั่นแกล้งบุคคลอื่นและถูกบุคคลอื่นกลั่นแกล้ง
เอกสารอ้างอิง
พิมพวัลย์ บุญมงคล, ราชาวดี เอี่ยมศิลป์, สร้อยฟ้า โต๊ะพันธ์อนนัต์, Timo Ojanen, รณภูมิ สามัคคีคารมย์, รูไวดี สาเมาะ, มุจลินท์ ชลรัตน์, Thomas Guadamuz, และอนุสรณ์ พยัคฆาคม. 2555. เพศสภาวะ เพศวิถี และการรังแกในพื้นที่ไซเบอร์ของวัยรุ่นหญิงไทย. บทความนำเสนอในงานประชุมวิชาการสังคมศาสตร์สุขภาพ ปี 2555. มหาวิทยาลัยมหิดล. โรงแรมรอยัลริเวอร์ กรุงเทพมหานคร.
วิทยา ดำรงเกียรติศักดิ์. 2558. การข่มเหง/กักขฬะออนไลน์ 2. จากอินเตอร์เน็ต. http://www.infocommmju.com/icarticle/images/stories/icarticles/ajwittaya/digital/cyberbullying2.pdf (ค้นเมื่อ 25 กรกฎาคม 2562).
วิมลทิพย์ มุสิกพันธ์, ศิวพร ปกป้อง, นันทนัช สงศิริ และปองกมล สุรัตน์. 2552. พฤติกรรมการข่มเหงรังแกผ่านโลก ไซเบอร์ของเยาวชนไทยในเขตกรุงเทพมหานคร. สมาพันธ์การวิจัยความเห็นสาธารณะแห่งประเทศไทย.
ศิวพร ปกป้อง และวิมลทิพย์ มุสิกพันธ์. 2553. ปัจจัยที่มีผลต่อทัศนคติและพฤติกรรมการกระทำความรุนแรงทั้งทางกายภาพและการข่มเหงรังแกผ่านโลกไซเบอร์ของเยาวชนไทย. มหาวิทยาลัยมหิดล กรุงเทพมหานคร.
สำนักยุทธศาสตร์ สำนักพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (องค์การมหาชน). 2562. รายงานผลการสำรวจพฤติกรรมผู้ใช้อินเทอร์เน็ตในประเทศไทย ปี 2561 Thailand Internet User Profile 2018.
Akbar, J., Huang, T. W., & Anwar, F. 2014. The development of cyberbullying scale to investigate bullies among adolescents. Proceeding of International Conference on Human-ities Sciences and Education (ICHE), Kuala Lumpur.
Bentley, T., Catley, B., Cooper-Thomas, H., Gardner, D., O'Driscoll, M., & Trenberth, L. 2009. Understanding Stress and Bullying in New Zealand Workplaces Final report to OH&S Steering.
Donner, J. 2010. Research approaches to mobile use in the developing world: A review of the literature. The Information Society, 24 (3), 140-159.
Fowler, D. (2016, August). Back to school-let’s keep our kids safe online. [online] from https://www.act-on.com/blog/back-to-school-lets-keep-our-kids-safe-online (Retrieved on April 1, 2019)
Hinduja, S. and Patchin, J. W. 2008. Cyber-bullying: An exploratory analysis of factors related to offending and victimization. Deviant Behavior, 29(2), pp. 129-156.
Kirschner, Paul & Karpinski, Aryn. 2010. Facebook (R) and academic performance. Computers in Human Behavior. 26. pp. 1237-1245.
Kokkinos, C. M., Baltzidis, E. & Xynogala, D. 2016. Prevalence and personality correlates of Facebook bullying among university undergraduates. Computers in Human Behavior, 55, pp. 840-850.
Nocentini, A., Calmaestra, J., Schultze-Krumbholz, A., Scheithauer, H., Ortega, R. & Menesini, E. 2010. Cyber-bullying: Labels, behaviors and definition in three European countries. Journal of Psychologists and Counsellors in Schools, 20(2), pp. 129-142.
Saunders, M., Lewis, P. & Thornhill, A. 2012. “Research Methods for Business Students” 6th edition, Pearson Education Limited.
Shariff, S. 2008. Cyber-Bullying: Issues and solutions for the school, the classroom and the home. 14 March 2008.
Sittichai, R. and Smith, P. K. 2018. Bullying and Cyber-bullying in Thailand: Coping strategies and relation to age, gender, religion and victim status. Journal of New Approaches in Educational Research, 7(1) pp. 24-30.
Slonje, R., Smith, P. K., & Frisen, A. 2013. Processes of cyberbullying, and feelings of remorse by bullies: A pilot study. European Journal of Developmental Psychology, 9, 244–259.
Smith, P. K., Mahdavi, J., Carvalho, M., Fisher, S., Russell, S. and Tippett, N. 2008. Cyber-bullying: Its nature and impact in secondary school pupils. Journal of Child Psychology and Psychiatry, 49(4), 376-385.
Tudkuea, T. and Laeheem, K. 2014. Development of indicators of Cyberbullying among youths in Songkhla Province. Asian Social Science. 10(14), 74-79.
Willard, N. 2005. Cyberbullying and cyberthreats. 2005 OSDFS National Conference. US Department of Education, Washington, USA. August 15, 2005, pp. 1-3.