ผู้แทนทางการเมืองของชนกลุ่มน้อย : ศึกษากรณีชาวมุสลิมเชื้อสายมลายูในจังหวัดชายแดนใต้ประเทศไทยและชาวพุทธเชื้อสายไทยในรัฐชายแดนเหนือประเทศมาเลเซีย
คำสำคัญ:
ผู้แทนกลุ่มชาติพันธ์, ผู้นำเสรีนิยมและการศึกษาสูง, ปฏิบัติการจากกลุ่มอำนาจรัฐบทคัดย่อ
การวิจัยฉบับนี้เป็นการศึกษาเกี่ยวกับการเป็นผู้แทนด้านการเมืองของชนกลุ่มน้อย มีความมุ่งหมายที่จะ สืบค้นถึงคำถามที่ว่า “ชนกลุ่มน้อยมีผู้แทนทางเมืองอย่างไรในการที่จะดำเนินกิจกรรมให้บรรลุถึงเป้าหมายผลประโยชน์ของชุมชนที่ได้กำหนดไว้?” โดยใช้ชุมชนชาวมุสลิมเชื้อสายมลายูทางใต้ของประเทศไทยและชาวพุทธเชื้อสายไทยทางตอนเหนือของประเทศมาเลเซียเป็นสนามตรวจสอบ การวิจัยฉบับนี้จึงเป็นวิจัยเชิงคุณภาพ โดยใช้ปัจจัยอิสระเจ็ดปัจจัยคือ การมีอิสรภาพในระบบการเมือง การสื่อสารในยุคโลกาภิวัตน์ รูปแบบของการเป็นผู้นำ การเป็นผู้รู้ในศาสนา สภาพความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น การศึกษาสูงขึ้น และการเปลี่ยนแปลงด้านทัศนคติ เพื่อค้นหาค่าความเป็นไปได้ โดยมีตัวแปรตามคือ “วิธีการที่ชนกลุ่มน้อยเป็นผู้แทนด้านการเมือง” จึงมีการใช้แหล่งข้อมูลทั้งที่เป็นปฐมภูมิจากการสัมภาษณ์ และที่เป็นทุติยภูมิจากการค้นคว้าจากเอกสารต่างๆ ซึ่งได้จัดทำชุดคำถามหนึ่งชุดสอบถามความคิดเห็น แล้วทำการวิเคราะห์หาความสัมพันธ์ระหว่างตัวแปรอิสระกับตัวแปรตาม ซึ่งตัวแปรอิสระตัวไหนที่มีระดับของความสัมพันธ์พิจาณณาดูจากความถี่และร้อยละ ค่าของร้อยละที่มากที่สุดจะถือเป็นการยอมรับสมมุติฐานที่ได้กำหนดไว้ ซึ่งการวิจัยในครั้งนี้พบว่า ผู้นำที่มีหัวเสรีและการศึกษาสูงมีค่าความเป็นไปได้สูงสุด อย่างไรก็ตาม ยุทธศาสตร์ความเคลื่อนไหวในการเป็นผู้แทนทางการเมืองไม่ว่าจะเป็นในรูปแบบของความรุนแรงหรือการเดินสายกลาง ไม่ได้ขึ้นอยู่กับผู้นำหัวเสรีและสถานภาพการศึกษาสูง แต่จะขึ้นอยู่กับทิศทางการตอบสนองของรัฐบาลที่มีต่อชนกลุ่มน้อยนั้นเอง สิ่งที่น่าสังเกตุคือ ขณะที่ชุมชนมุสลิมเชื้อสายมลายูมีทั้งกระบวนการก่อความความรุนแรงและเดินสายกลาง แต่ชุมชนพุทธเชื้อสายไทยทางตอนเหนือของมาเลเซียไม่เคยรสนับสนุนความรุนแรงเลย ทั้งนี้อาจเป็นเพราะว่า รัฐบาลมาเลเซียไม่เคยมีการใช้นโยบายควบคุมที่บังคับชุมชนชาวไทยในประเทศของตนนั้นเอง ส่วนปัจจัยอื่นๆ อีกหกปัจจัยนั้นพบว่า มีความเห็นที่แตกต่างกันจากผู้ตอบคำถามจากทั้งสองกลุ่มศึกษา
เอกสารอ้างอิง
Ayoob, Mohammad (ed.). 1981. The politics of Islamic reassertion. London:Croom Helm.
Ayuwattana, Thamrongsak. 2004. Thais in Malaysia. Bangkok: Samnakphim Bannakij.
Bangkok Post. 2001. Problems in the South. 30 September.
Bangkok Post. Muslim militants. Friday, 30 April: 2.
Bangkok Post. Bloodshed, mayhem in South. 27 October:1.
Che Man, W.K. 1983. Muslim elites and politics in southern Thailand. Master’s Thesis, Universiti
Sains Malaysia.
Che Man, W.K. 1990. Muslims Separatism: the Moros of southern Philippines and the Malays of
Southern Thailand.
Hawkesworth, Mary & Kogan, Maurice (eds.). 1996. Encyclopedia of government and politics (2). London: Routledge.
Kibat, Katni Kamsono. 1986. Asas ilmu politik. Selangor: Biroteks, Institut Teknologi Mara.
Huntington, Samuel P. 1991. The third wave: democratization in the late twentieth century. Norman: University of Oklahoma Press.
Magill, Frank N. 1996. International encyclopedia of government and politics, (2) 794-1510. Singapore: Toppan Company Pte.
Manning, D.J. 1971. Liberalism. New York:St. Martin’s Press and London: Dent.
Moolnithi Haji Sulong. 1994. A souvenir for Haji Sulong hospital. Bangkok: Borisat Natcha
Publishing.
Pojjanaworawong, Nakorn & Pojjanaworawong, Ukrit. 1999. Thai history:elections from 1932 and forming governments in all reigns. Bangkok: Thai Wattana Phanit.
Samakom Thai Kelantan. 1998. Resolusi seminar kepimpinan masyarakat Siam Malaysia. Booklet. Kota Bharu: Wat Ariya, Kg. Aril, 11 September.
Smith, Adam. 1950. An inquiry into the nature and causes of the wealth of nations. Edited by Edwin Cannan. 6th ed. London: Menthuen.
Smith, Anthony D. 1981. The ethnic revival. Cambridge: Cambridge University Press.
Suwannathat-Pian, Khobkhua. 1988. Thai-Malay relations: traditional intra-regional relations from the seventeenth to the early twentieth centuries. Singapore: Ocford University Press.
Syed Serajul Islam. 2005. The politics of Islamic identity in Southeast Asia. Singapore: Thomson Learning.
Tohmeena, Den. 1998. New aspiration and Islamic Bank. Bangkok :Muslim News.