ปัญหาทางกฎหมายในการคุ้มครองคนหางานเพื่อทำงานต่างประเทศ : ศึกษาเปรียบเทียบกับประเทศฟิลิปปินส์กรณีบริษัทจัดหางานเอกชนจัดส่งไปทำงาน

-

ผู้แต่ง

  • สุรศักดิ์ - มีบัว มหาวิทยาลัยเกษมบัณฑิต
  • หนึ่งฤทัย มาลี, 6852279 มหาวิทยาลัยเกษมบัณฑิต
  • รภา เพเทอร์ส, 6852279 มหาวิทยาลัยเกษมบัณฑิต

คำสำคัญ:

คนหางาน, บริษัทจัดหางานเอกชน, พระราชบัญญัติจัดหางานและคุ้มครองคนหางาน พ.ศ. 2528

บทคัดย่อ

บทบัญญัติทางกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการส่งคนหางานเพื่อไปทำงานในต่างประเทศโดยผู้รับอนุญาตจัดหางานที่เป็นบริษัทจัดหางานเอกชน พบว่าหลักเกณฑ์ ขั้นตอน และบทกำหนดโทษทางกฎหมายได้รับการบัญญัติไว้ในพระราชบัญญัติจัดหางานและคุ้มครองคนหางาน พ.ศ. 2528 และกฎหมายลำดับรอง แต่อย่างไรก็ดี แม้พระราชบัญญัติฉบับนี้จะมีการแก้ไขเพิ่มเติมหลายครั้ง แต่พบว่ายังมีช่องว่างทางกฎหมายอยู่บางประการ ทำให้ไม่มีความเหมาะสมและไม่สอดคล้องกับการบังคับใช้ในสภาพสังคมและรูปแบบการกระทำความผิดที่มีการเปลี่ยนแปลง กล่าวคือ ปัจจุบันยังไม่มีการจัดตั้งหน่วยงานเพื่อติดตามผลในการช่วยเหลือและดูแลคนหางานภายหลังที่กลับจากการทำงานในต่างประเทศ ทำให้คนหางานถูกทอดทิ้ง และไม่ได้รับการเหลียวแล ปัญหาหลักประกันที่ผู้รับอนุญาตจัดหางานวางต่อนายทะเบียนที่กำหนดไว้เพียง 5 ล้านบาท พบว่าไม่ครอบคลุมความเสียหายที่เกิดขึ้น ปัญหาการกำหนดค่าบริการและค่าใช้จ่ายในการไปทำงานต่างประเทศมีจำนวนค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับฐานะทางการเงินของคนหางาน ปัญหาเกี่ยวกับกองทุนเพื่อช่วยเหลือคนหางานไปทำงานในต่างประเทศที่ยังให้ความช่วยเหลือคนหางานไม่ครอบคลุมทุกด้าน และปัญหาบทกำหนดโทษทางกฎหมายพบว่ามีอัตราโทษน้อยเกินไปทำให้ผู้กระทำความผิดไม่เกรงกลัวต่อสภาพบังคับ ซึ่งปัญหาทั้งหมดล้วนส่งผลกระทบต่อคนหางานโดยตรง ผู้เขียนจึงเห็นว่าควรมีการแก้ไขเพิ่มเติมบทบัญญัติทางกฎหมายดังต่อไปนี้

  1. ควรจัดตั้งหน่วยงานซึ่งทำหน้าที่ติดตามผลคนหางานภายหลังที่กลับจากการทำงานในต่างประเทศดังเช่นประเทศฟิลิปปินส์ เพื่อช่วยเหลือและดูแลคนหางานในด้านต่างๆ เช่น ความช่วยเหลือด้านการเงินหรือการพัฒนาธุรกิจเพื่อให้คนหางานสามารถเริ่มต้นประกอบอาชีพใหม่ได้
  2. ควรกำหนดจำนวนหลักประกันขั้นต่ำไม่น้อยกว่า 5 ล้านบาท และมีการเพิ่มจำนวนหลักประกันโดยพิจารณาจากผลประกอบการที่ผู้รับอนุญาตจัดหางานได้รับในแต่ละปี ทั้งนี้เพื่อรองรับความเสียหายที่จะเกิดขึ้นแก่คนหางานในอนาคต และสามารถนำหลักประกันดังกล่าวไปช่วยเหลือคนหางานได้ทันท่วงที
  3. ควรลดค่าบริการและใช้จ่ายในการไปทำงานในต่างประเทศให้น้อยลงเพื่อแบ่งเบาภาระ และส่งเสริมคนหางานที่ต้องการไปทำงานในต่างประเทศ
  4. ควรเพิ่มวัตถุประสงค์ของกองทุนเพื่อช่วยเหลือคนหางานไปทำงานในต่างประเทศให้ครอบคลุมทุกด้าน และเพิ่มวงเงินในการช่วยเหลือให้เพียงพอต่อความเดือดร้อนของคนหางานที่เกิดขึ้นจริง
  5. ควรเพิ่มอัตราโทษทางกฎหมายให้สูงขึ้นสำหรับผู้ที่กระทำการฝ่าฝืนบทบัญญัติทางกฎหมายเพื่อให้เกิดความเกรงกลัวต่อสภาพบังคับ และลดจำนวนการกระทำความผิด

          ทั้งนี้ หากมีการแก้ไขเพิ่มเติมกฎหมายดังกล่าวจะส่งผลให้คนหางานได้รับการคุ้มครองและดูแลตามเจตนารมณ์แห่งพระราชบัญญัติจัดหางานและคุ้มครองคนหางาน พ.ศ. 2528 อย่างแท้จริง

เอกสารอ้างอิง

กองบริหารแรงงานไทยไปต่างประเทศ, จำนวนคนหางานที่ได้รับอนุญาตให้เดินทางไปทำงานต่างประเทศ (จำแนกตามประเภทการเดินทาง) ยอดสรุปประจำปี 2559 [ออนไลน์], 2559. เข้าถึงได้จาก: https://www.overseas.doe.go.th/statisticYearly/year2559_12.pdf [25 มกราคม 2559].
กระทรวงแรงงาน กรมการจัดหางาน, คู่มือการไปทำงานต่างประเทศ, พิมพ์ครั้งที่ 1 (กรุงเทพมหานคร: กรมการจัดหางาน, 2557), หน้า 5.
กมลพร สอนศรี, คอลัมน์ ASEAN Insight: การส่งออกแรงงาน: เม็ดเงินจากทุนมนุษย์ของฟิลิปปินส์ [ออนไลน์], 2560. เข้าถึงได้จาก https://www.trf.or.th/index.php? option= content&
view=article&id=1149:2013-06-28-09-14-21&catid=29&Itemid=224 [4 พฤษภาคม 2560].
Department of Labor and Employment Overseas Workers Welfare Administration [online], 2017. Available from: https://www.owwa.gov.ph/?q=content/owwa) [2 May 2017].
พระราชบัญญัติจัดหางานและคุ้มครองคนหางาน พ.ศ. 2528.
ประมวลกฎหมายอาญา

ดาวน์โหลด

เผยแพร่แล้ว

2019-01-28

รูปแบบการอ้างอิง

มีบัว ส. .-., มาลี ห., & เพเทอร์ส ร. (2019). ปัญหาทางกฎหมายในการคุ้มครองคนหางานเพื่อทำงานต่างประเทศ : ศึกษาเปรียบเทียบกับประเทศฟิลิปปินส์กรณีบริษัทจัดหางานเอกชนจัดส่งไปทำงาน: -. วารสาร อัล-ฮิกมะฮฺ, 8(16), 145–162. สืบค้น จาก https://so01.tci-thaijo.org/index.php/HIKMAH/article/view/145372