การพัฒนาความเข้าใจในการอ่านภาษาไทยโดยใช้กิจกรรมที่ใช้บทอ่านนอกเวลาของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนเอกชนสอนศาสนาอิสลาม

ผู้แต่ง

  • นูรีซะห์ วานา, 6852279 มหาวิทยาลัยรังสิต
  • ศรีสมร พุ่มสะอาด, 6852279 มหาวิทยาลัยรังสิต

คำสำคัญ:

ความเข้าใจในการอ่าน, บทอ่าน, กิจกรรมที่ใช้บทอ่านนอกเวลา

บทคัดย่อ

การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ  1)  ศึกษาความเข้าใจในการอ่านภาษาไทยของนักเรียนชั้น ประถมศึกษาปีที่ 6  โรงเรียนเอกชนสอนศาสนาอิสลามก่อนและหลังเข้าร่วมกิจกรรมที่ใช้บทอ่านนอกเวลาและ 2)  ศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6  ที่มีต่อกิจกรรมที่ใช้บทอ่านนอกเวลา  กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้   ได้แก่  นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6  ที่กำลังเรียนภาคเรียนที่ 1  ปีการศึกษา  2560  โรงเรียนส่งเสริมศาสน์  จังหวัดปัตตานี   จำนวน  30  คน  ได้มาจากการสุ่มนักเรียน  1  ห้องจาก  4  ห้อง   ด้วยวิธีการสุ่มแบบกลุ่ม (cluster  random sampling) โดยการจับฉลาก   เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยประกอบด้วย 1)  บทอ่านนอกเวลา  30  บท  2)  แผนการจัดการเรียนรู้  จำนวน  4  แผน  3)  แบบทดสอบวัดความเข้าใจในการอ่านภาษาไทยเป็นแบบเลือกตอบ  4  ตัวเลือกและ  4)  แบบวัดความพึงพอใจต่อกิจกรรมที่ใช้บทอ่านนอกเวลา  เครื่องมือวิจัยทั้ง  4  ประเภทได้ตรวจสอบคุณภาพโดยผู้เชี่ยวชาญ  3  คน  มีค่าดัชนีความสอดคล้องกับวัตถุประสงค์ของการวิจัย (IOC) เท่ากับ 1.00 ทุกฉบับ  สำหรับแบบทดสอบวัดความเข้าใจในการอ่านมีค่าความยาก  ง่ายเท่ากับ 0.23 – 0.80  ค่าอำนาจจำแนกเท่ากับ 0.27 – 0.67 และค่าความเชื่อมั่นเท่ากับ 0.89  เก็บรวบรวมข้อมูลโดยผู้วิจัยเป็นผู้จัดการเรียนรู้ด้วยตนเองกับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6  โรงเรียนส่งเสริมศาสน์   โดยใช้เวลา  4  สัปดาห์  รวม   16  ชั่วโมง  วิเคราะห์ข้อมูลโดยหาค่าเฉลี่ย ()  ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) และการทดสอบค่าที (t-test)  แบบ  Dependent   Samples

ผลการวิจัยพบว่า  1)  ความเข้าใจในการอ่านภาษาไทยของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6  โรงเรียนเอกชนสอนศาสนาอิสลามหลังจากเข้าร่วมกิจกรรมที่ใช้บทอ่านนอกเวลาสูงกว่าก่อนเข้าร่วมกิจกรรมที่ใช้บทอ่านนอกเวลาอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.01  และ  2)  นักเรียนมีความพึงพอใจต่อกิจกรรมที่ใช้บทอ่านนอกเวลาอยู่ในระดับมาก ( =  4.27)

References

กระทรวงศึกษาธิการ.(2551).หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐานพุทธศักราช 2551. กรุงเทพมหานคร: โรงพิมพ์ครุสภาลาดพร้าว
เจะรอเมาะ มะดีเยาะ,นิสากร จารุมณี.(2555). “การใช้บทอ่านที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับอิสลามในการพัฒนาทักษะการอ่านภาษาอังกฤษ”.2555.วารสารศิลปศาสตร์มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์.ปีที่ 5 (2):3
เนาวรัตน์ นุ่มอุรา. (2544). การเปรียบเทียบความเข้าใจในการอ่านภาษาอังกฤษและมนุษย์สัมพันธ์ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ที่ได้รับการสอบตามรูปแบบเอริกา( ERICA MODEL) และสอนตามคู่มือครู/เนาวรัตน์ นุ่มอุรา.วิทยานิพนธ์การศึกษามหาบัณฑิต บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒประสานมิตร.
บัลลังก์ โรหิตเสถียร และนงศิลินี โมสิกะ. (2553). ครม.เห็นชอบให้การส่งเสริมการอ่านเป็นวาระแห่งชาติ.(ออฟไลน์)แหล่งที่มา: http://www.moenews.net/index.php?option=com_ content&task =view&id =1377&Itemid=2&preview=popup วันที่สืบค้นข้อมูล 8 ตุลาคม 2258
เยาวเรศ ภักดีจิตร.(2557).เอกสารประกอบการเสวนาทางวิชาการ “วันส่งเสริมวิชาการสู่คุณภาพการเรียนการสอน”.นครสวรรค์.คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏนครสวรรค์.
เลอสรวง วังศรี .(2554).การอ่าน.(ออฟไลน์).แหล่งที่มา: http://52010913444.blogspot.com/2011/12/blog-post.html วันที่สืบค้นข้อมูล 8 พฤศจิกายน 2560
สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาปัตตานี.(2559). (ออฟไลน์).แหล่งที่มา http://www.pattani1.go.th/วันที่สืบค้นข้อมูล 8 ตุลาคม 2559
Apple white. (1965). P.B. Organizational and Behavior. New York: Prentice–Hall.

Downloads

เผยแพร่แล้ว

2018-12-26

How to Cite

วานา น., & พุ่มสะอาด ศ. (2018). การพัฒนาความเข้าใจในการอ่านภาษาไทยโดยใช้กิจกรรมที่ใช้บทอ่านนอกเวลาของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนเอกชนสอนศาสนาอิสลาม. วารสาร อัล-ฮิกมะฮฺ, 8(16), 99–107. สืบค้น จาก https://so01.tci-thaijo.org/index.php/HIKMAH/article/view/168428