การพัฒนาการจัดการเรียนรู้โดยใช้โมเดลการสร้างแรงบันดาลใจตาม“วัฏจักร GSC-KM-A” เพื่อเพิ่มผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนรู้รายวิชาฟิสิกส์ เรื่อง โมเมนตัมและการชน สำหรับผู้เรียนมัธยมศึกษาปีที่ 4
คำสำคัญ:
โมเดลการสร้างแรงบันดาลใจ, วัฏจักร GSC-KM-A , เรื่อง โมเมนตัมและการชนบทคัดย่อ
งานวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ 1) การพัฒนาและหาประสิทธิภาพของการจัดการเรียนรู้โดยใช้โมเดลการสร้างแรงบันดาลใจตาม“วัฏจักร GSC-KM-A” เพื่อเพิ่มผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนรู้รายวิชาฟิสิกส์ เรื่อง โมเมนตัมและการชน สำหรับผู้เรียนมัธยมศึกษาปีที่ 4 2) เพื่อเปรียบเทียบผลลัพธ์และทักษะกระบวนการทดลองก่อนและหลังการจัดการเรียนรู้โดยใช้โมเดลการสร้างแรงบันดาลใจตาม“วัฏจักร GSC-KM-A” 3) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของผู้เรียนต่อการจัดการเรียนรู้โดยใช้โมเดลการสร้างแรงบันดาลใจตาม“วัฏจักรGSC-KM-A”กลุ่มตัวอย่างแบบเจาะจง จำนวน 30 คน เป็นผู้เรียนโรงเรียนกาญจนาภิเษกวิทยาลัย กระบี่ ในรายวิชาฟิสิกส์ จำนวน 6 แผน 18 ชั่วโมง 2. เครื่องมือวิจัยที่ผู้วิจัยสร้างขึ้น ได้แก่ (1) แผนการจัดการเรียนรู้ (2) แบบทดสอบ เรื่อง โมเมนตัมและการชน (3) แบบสอบถามทักษะกระบวนการทดลอง (4) แบบสอบถามความพึงพอใจ สถิติที่ใช้ คือ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน การทดสอบค่าที (t-Test แบบ Dependent) ผลการวิจัยพบว่า 1) ค่าประสิทธิภาพของการจัดการเรียนรู้โดยใช้โมเดลสร้างแรงบันดาลใจตาม“วัฏจักรGSC-KM-A” เรื่อง โมเมนตัมและการชน ของผู้เรียนได้ค่า E1 /E2 เท่ากับ 84.17 /81.50 ซึ่งมีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ที่กำหนด 80/80 2) ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ คะแนนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 และ ทักษะกระบวนการทดลองในการเรียนรู้จากการจัดกิจกรรมคะแนนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 3) ความพึงพอใจกับการจัดการเรียนรู้โมเดลสร้างแรงบันดาลใจตามแบบ “วัฏจักรGSC-KM-A” เรื่องโมเมนตัมและการชนกันของผู้เรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ที่ได้รับอยู่ในระดับดีมาก ( =4.57, S.D.=0.40)
เอกสารอ้างอิง
กระทรวงศึกษาธิการ. (2551). หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551. กรุงเทพฯ: โรงพิมพ์ชุมชนสหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศไทย จำกัด.http://academic.obec.go.th/images/document/1559878925_d_1.pdf
กัญจน์ณิชา ชาวเรือ. (2563). การพัฒนาโมเดลการเรียนการสอนแบบผสมผสาน โดยใช้การเรียนรู้แบบปัญหาเป็นฐาน เพื่อส่งเสริม ความสามารถในการแก้ปัญหาของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษา.ปริญญาปรัชญาดุษฎีบัณฑิต สาขาวิชาเทคโนโลยีและสื่อสารการศึกษามหาวิทยาลัยมหาสารคามhttp://202.28.34.124/dspace/bitstream/123456789/979/1/55010563001.pdf
กาญจนา จันทร์ประเสริฐ. (2563). การศึกษาความพึงพอใจต่อการจัดการเรียนรู้ออนไลน์รายวิชา PHY132: ฟิสิกส์ทั่วไปในภาวะนิวนอร์มัล (ศูนย์สนับสนุนและพัฒนาการเรียนการสอน).มหาวิทยาลัยรังสิต. https://rsuirlibrary.rsu.ac.th/bitstream/123456789/1392/1/Kanchana%20Chanprasert.pdf
กรมวิชาการ กระทรวงศึกษาธิการ. (2564). ประกาศกระทรวงศึกษาธิการ เรื่องนโยบายและจุดเน้นของกระทรวงศึกษาธิการ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2564. กรุงเทพฯ: โรงพิมพ์คุรุสภาลาดพร้าว.https://www.sea12.go.th/plan/images/pdf/lowfocus64.pdf
ขวัญหทัย พิกุลทอง. (2562). ผลการจัดการเรียนรู้แบบ Model – Eliciting Activities (MEAs) ที่ส่งเสริมความสามารถการแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์ เรื่อง ดอกเบี้ยและมูลค่าของเงินสำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5.วารสารพัฒนาการเรียนการสอน มหาวิทยาลัยรังสิต,17(2), 11 https://jrtl.rsu.ac.th/volume/17/number/2/article/353
นิภา ตรีแจ่มจันทร์. (2562) การพัฒนาทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์และความสามารถในการทำโครงงานของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ด้วยการจัดการเรียนรู้แบบโครงงาน. (วิทยานิพนธ์). มหาวิทยาลัยศิลปากร.
http://ithesis-ir.su.ac.th/dspace/bitstream/123456789/2735/1/59253405.pdf
ประกิต ไชยธาดา. (2562). การพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและความพึงพอใจของนักศึกษาต่อการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือ (Cooperative Learning) ในรายวิชาปฏิบัติการเคมี 2 หัวข้อการเตรียมสารละลายของนักศึกษาคณะคุรุศาสตร์. International Journal of Research in Pharmaceutical Sciences, Volume 11, Issue 2, Page 1883-1887 มหาวิทยาลัยราชภัฏนครศรีธรรมราช. http://rdi.nstru.ac.th/dbadmin/research/view-result?id=36
พิสิษฐ์ สุวรรณแพทย์ และอนิรุทธ์ สติมั่น. (2558). การพัฒนารูปแบบการเรียนการสอนแบบผสมผสานโดย ใช้ปัญหาเป็นฐานและการเรียนรู้แบบสืบสอบ เพื่อเสริมสร้างความคาดหวังวิชาฟสิกส์สำหรับ นักศึกษาระดับปริญญาตรี.วารสาร Veridian E-Journal มหาวิทยาลัยศิลปกร.ปีที่ 8 ฉบับที่ 2 2558 https://he02.tci-thaijo.org/index.php/Veridian-E-Journal/issue/view/3848
มัสนี คงแก้ว. (2563). การพัฒนาโมเดลเชิงสาเหตุของความสามารถนการคิดวิเคราะห์ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาจังหวัดยะลา. (วิทยานิพนธ์). มหาวิทยาลัยทักษิณ. https://www.hu.ac.th/conference/proceedings2020/doc/G9/G9-27-123Ed-pdf
มารศรี แนวจำปา. (2565). โมเดลโครงสร้างวามสามารถในการแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์ของนักเรียนระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน.วาราสารสังคมศาสตร์ปัญญาพัฒน์. 4(1): 19-26https://he02.tci-thaijo.org/index.php/Veridian-E-Journal/search/search
สิริลักษณ์ พรวุวรรณ์. (2564). เรื่องการพัฒนารูปแบบการสอน MAT3C Model เพื่อเสริมสร้างทักษะกระบวนการทางคณิตศาสตร์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4. วารสารวิชาการสถาบันวิทยาการจัดการแห่งแปซิฟิค, ปีที่ 7 ฉบับที่ 1 (มกราคม-เมษายน 2564).
สุภาพร มูฮำหมัด,นิศารัตน์ อิสระมโนรส, (2564) ผลของการจัดการเรียนรู้แบบ MACRO model ที่มีต่อผลสัมฤทธิ์ ทางการเรียนของนักศึกษารายวิชาการออกแบบและจัดสภาพแวดล้อม สำหรับสถานศึกษาปฐมวัย. ปีที่ 3 ฉบับที่ 2 (2021): กรกฎาคม-ธันวาคม 2564
สุมาลี ชัยเจริญ. (2551). เทคโนโลยีการศึกษา: หลักการทฤษฎีสู่การปฏิบัติ. ขอนแก่น: หจก.โรงพิมพ์คลังนานาวิทยา.
สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน. (2562). แนวทางการนิเทศเพื่อพัฒนาและ ส่งเสริมการจัดการเรียนรู้เชิงรุก (Active Learning) ตามนโยบายลดเวลาเรียนเพิ่มเวลารู้. กรุงเทพฯ: โรงพิมพ์คุรุสภาลาดพร้าว.
ล้วน สายยศ และอังคณา สายยศ. (2543). เทคนิคการวัดผลการเรียนรู้. (พิมพ์ครั้งที่ 2).กรุงเทพฯ โรงพิมพ์:สุวีริยาสาส์น
อารีวรรณ ทองสุ. (2563). ศึกษาเรื่องสภาพการจัดการเรียนรู้วิชาวิทยาศาสตร์ที่ส่งเสริมทักษะการแก้ปัญหาอย่างสร้างสรรค์ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4.วารสารคณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี, 39(6),12 https://so05.tci-thaijo.org/index.php/sujthai/article/view/176066/160318
Chew, E. Jones, N. , & Turner, D. (2008). Critical Review of the Blended Learning Models Based on Maslow’s and Vygotsky’s Educational Theory. Hybrid Learning and Education
(ICHL 2008) , 40–53.https://link.springer.com/chapter/10.1007/978-3-540-85170-7_4
Thrash, T. M., & Elliot, A. J. (2003). Inspiration as a psychological construct. Journal of Personality and Social Psychology, 84(4), 871–889. https://doi.org/10.1037/0022-3514.84.4.871
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
ลิขสิทธิ์ (c) 2025 วารสาร อัล-ฮิกมะฮฺ

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.