ปัญหาความขัดแย้งด้านการใช้ประโยชน์ที่ดินของกลุ่มชาติพันธุ์ชาวเล ในประเทศไทย: ต้นตอของการต่อสู้เพื่อให้ได้มาซึ่งการถือครองที่ดินตามจารีต
DOI:
https://doi.org/10.14456/bei.2025.19คำสำคัญ:
ความขัดแย้ง, การใช้ประโยชน์ที่ดิน, กลุ่มชาติพันธุ์, ชาวเล, การถือครองที่ดินตามจารีตบทคัดย่อ
ปัญหาความขัดแย้งด้านการใช้ประโยชน์ที่ดิน เป็นหนึ่งในปัญหาที่สำคัญของกลุ่มชาติพันธุ์ชาวเลในประเทศไทย
โดยบทความนี้มุ่งอธิบายและเปรียบเทียบปรากฏการณ์ ตลอดจน เสนอแนะแนวทางการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งด้านการใช้ประโยชน์ที่ดินของกลุ่มชาติพันธุ์ชาวเลในประเทศไทยจำนวน 46 ชุมชน ซึ่งผู้วิจัยได้ใช้วิธีวิเคราะห์ข้อมูล
เชิงคุณภาพ (qualitative research) โดยใช้วิธีการศึกษา 2 รูปแบบ คือ การสัมภาษณ์ (interview) และการวิเคราะห์เอกสาร (documentary research) โดยข้อมูลที่รวบรวมได้จะถูกนำไปวิเคราะห์ใน 2 รูปแบบ คือ การวิเคราะห์เนื้อหา (content analysis) และการวิจัยเชิงเปรียบเทียบ (comparative research) ทั้งนี้ ผลการศึกษา พบว่า ต้นตอของปัญหาความขัดแย้งด้านการใช้ประโยชน์ที่ดินของกลุ่มชาติพันธุ์ชาวเลในประเทศไทยแบ่งออกเป็น 4 ประเด็น คือ
1) การออกเอกสารสิทธิถือครองที่ดิน 2) การประกาศเขตพื้นที่อนุรักษ์เพื่อการคุ้มครองทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม 3) การเข้ามาของนโยบายส่งเสริมการท่องเที่ยว และ 4) การเกิดเหตุการณ์ธรณีพิบัติภัย (สึนามิ) โดยเมื่อพิจารณาการใช้ประโยชน์ที่ดินตามผังเมืองรวม พบว่า ปัญหาความขัดแย้งส่วนใหญ่ร้อยละ 62.50 อยู่ในที่ดินประเภทอนุรักษ์ป่าไม้ รองลงมา คือ ที่ดินประเภทอนุรักษ์สภาพแวดล้อมเพื่อการท่องเที่ยว (ร้อยละ 12.50) และที่ดินประเภทที่อยู่อาศัยหนาแน่นน้อย (ร้อยละ 8.93) โดยคู่ขัดแย้งของกลุ่มชาติพันธุ์ชาวเล คือ รัฐ (ร้อยละ 56.79) รองลงมา คือ เอกชน (ร้อยละ 41.98) และวัด (ร้อยละ 1.23) ซึ่งปัญหาและการแสดงออกของความขัดแย้ง สามารถจำแนกออกเป็น 3 พื้นที่ คือ พื้นที่ทำกิน พื้นที่อยู่อาศัย และสุสานและพื้นที่จิตวิญญาณ เมื่อพิจารณาถึงระดับการมีส่วนร่วม พบว่า ชุมชนชาวเลในประเทศไทยส่วนใหญ่มีระดับการมีส่วนร่วมอยู่ในระดับของการปลอบใจหรือการร่วมแสดงความคิดเห็น (placation) โดยพบได้ทั้งสิ้นจำนวน 32 ชุมชน และระดับความร่วมมือหรือการเข้าร่วมเป็นที่ปรึกษา/เจรจาต่อรอง (partnership) โดยพบได้ทั้งสิ้น 14 ชุมชน นอกจากนี้ ผู้วิจัยได้เสนอแนวทางการต่อสู้เพื่อให้ได้มาซึ่งการถือครองที่ดินตามจารีตโดยถอดกระบวนการจากแนวทางการต่อสู้ของกลุ่มชาติพันธุ์ชาวเลในประเทศไทยซึ่งสรุปได้ว่าเป็นการใช้เครื่องมือ 3 ส่วนประกอบกัน คือ ต้นทุนทางสังคม ต้นทุนทางการเมือง และการสร้างบทบาทและตัวตนของกลุ่มชาติพันธุ์ชาวเลในประเทศไทยเพื่อการสร้างเครือข่าย การสร้างความชอบธรรม และการเพิ่มอำนาจต่อรองเพื่อให้ได้มาซึ่งการถือครองที่ดินตามจารีต
เอกสารอ้างอิง
กฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมจังหวัดกระบี่ พ.ศ. 2559. (25 พฤศจิกายน 2559). ราชกิจจานุเบกษา. เล่ม 133 ตอนที่ 98 ก หน้า 1-12.
กฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมจังหวัดพังงา พ.ศ. 2560. (10 เมษายน 2560). ราชกิจจานุเบกษา. เล่ม 134 ตอนที่ 41 ก หน้า 17-25.
กฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมจังหวัดภูเก็ต พ.ศ. 2554. (7 กรกฎาคม 2554). ราชกิจจานุเบกษา. เล่ม 128 ตอนที่ 55 ก หน้า 25-36.
กฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมจังหวัดระนอง พ.ศ. 2558. (26 สิงหาคม 2558). ราชกิจจานุเบกษา. เล่ม 132 ตอนที่ 81 ก หน้า 26-32.
กฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมจังหวัดสตูล พ.ศ. 2560. (21 เมษายน 2560). ราชกิจจานุเบกษา. เล่ม 134 ตอนที่ 45 ก หน้า 8-13.
ชัยวัฒน์ สถาอานันท์. (2557). ท้าทายทางเลือก: ความรุนแรงและการไม่ใช้ความรุนแรง. ของเรา.
นฤมล อรุโณทัย และคณะ. (2557). ทักษะวัฒนธรรมชาวเล: ร้อยเรื่องราวชาวเล - มอแกน มอแกลน และอูรักลาโว้ย ผู้กล้าแห่งอันดามัน. ศูนย์มานุษวิทยาสิรินธร (องค์การมหาชน).
มูลนิธิชนเผ่าพื้นเมืองเพื่อการศึกษาและสิ่งแวดล้อม, มูลนิธิภูมิปัญญาบนพื้นที่สูง, ศูนย์ศึกษาชาติพันธุ์และการพัฒนา มหาวิทยาลัยเชียงใหม่, สถาบันวิจัยสังคม จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, และสภาชนเผ่าพื้นเมืองแห่งประเทศไทย. (2561). รายงานสังเคราะห์ชนเผ่าพื้นเมืองกลุ่มชายขอบและเปราะบางในประเทศไทย. มูลนิธิชนเผ่าพื้นเมืองเพื่อการศึกษาและสิ่งแวดล้อม. https://data.opendevelopmentmekong.net/dataset/b933c7b0-3362-4ea2-bdcb-fe13e3ef74d1/resource/2651ecdb-ad08-41c9-ab88-d676a4084655/download/synthesis_report_marginalization_of_vulnerable_indigenous_peoples_in_thailand.pdf
ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร (องค์การมหาชน). (2567, 2 พฤษภาคม). พื้นที่คุ้มครองและส่งเสริมวิถีชีวิตกลุ่มชาติพันธุ์. ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร (องค์การมหาชน). https://www.sac.or.th/portal/th/news/detail/258
ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร (องค์การมหาชน). (ม.ป.ป.). กลุ่มชาติพันธุ์ในประเทศไทย. ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร (องค์การมหาชน). https://ethnicity.sac.or.th/database-ethnic
Arnstein, S. R. (1971). A ladder of citizen participation. Journal of the American Institute of Planners, 35(4), 216-224.
Bercovitch, J., Zartman, I. W., & Kremenyuk, V. (2009). The Sage handbook of conflict resolution. https://doi.org/10.4135/9780857024701
Besteman, C. (1994). Individualisation and the assault on customary tenure in Africa: Title registration programmes and the case of Somalia. Africa, 64(4), 484-515.
Galtung, J. (2009). Theories of conflict: Definitions, Dimensions, Negations, Formations. https://www.transcend.org/files/Galtung_Book_Theories_Of_Conflict_single.pdf
King, R. (1971). Land reform: some general and theoretical consideration. Norwegian Journal of Geography, 25(2), 85-97.
Ting-Toomey, S. (1985). Toward a Theory of Conflict and Culture. Communication, Culture, and Organizational Processes, 71-86.
Ubink, J. M. (2008). Negotiated or negated? The rhetoric and reality of customary tenure in an Ashanti village in Ghana. Africa, 78(2), 264-287.
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
ลิขสิทธิ์ (c) 2025 สิ่งแวดล้อมสรรค์สร้างวินิจฉัย

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
ทัศนะและข้อคิดเห็นของบทความที่ปรากฏในวารสารฉบับนี้เป็นของผู้เขียนแต่ละท่าน ไม่ถือว่าเป็นทัศนะและความรับผิดชอบของกองบรรณาธิการ
