การพัฒนารูปแบบการเรียนรู้ด้วยทฤษฎีการเรียนรู้แบบการสร้างความรู้นิยมและการเชื่อมโยงความรู้เพื่อการสร้างนวัตกรรมแบบประสบการณ์จริง
Main Article Content
บทคัดย่อ
การศึกษาวิจัยในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ (1) วิเคราะห์และสังเคราะห์กรอบแนวคิดรูปแบบการเรียนรู้ด้วยทฤษฎีการเรียนรู้แบบการสร้างความรู้นิยมและการเชื่อมโยงความรู้เพื่อการสร้างนวัตกรรมแบบประสบการณ์จริง
(2) พัฒนารูปแบบการเรียนรู้ฯ และ (3) ศึกษาผลการใช้รูปแบบการเรียนรู้ฯ การวิจัยนี้เป็นรูปแบบการวิจัยและพัฒนา (Research and Develop) โดยดำเนินการวิจัยดังนี้ (1) วิเคราะห์และสังเคราะห์กรอบแนวคิดรูปแบบการเรียนรู้ฯ จากการศึกษาเอกสารและงานวิจัยที่เกี่ยวข้องกำหนดองค์ประกอบของรูปแบบ (2) พัฒนารูปแบบการเรียนรู้ฯ โดยร่างรูปแบบตามกรอบแนวคิด (3) ประเมินรูปแบบโดยสร้างแบบประเมินความเหมาะสมของรูปแบบโดยผ่านการตรวจความสอดคล้องจากผู้เชี่ยวชาญจำนวน 5 คน (4) ดำเนินการปรับปรุงแก้ไขตามข้อเสนอแนะแล้วนำมาประเมินความเหมาะสมของรูปแบบโดยผู้เชี่ยวชาญจำนวน 6 คน (5) ศึกษาผลการใช้รูปแบบการเรียนรู้โดยนำรูปแบบการเรียนรู้ไปทดลองใช้กับการเรียนการสอน กลุ่มตัวอย่างคือ นักศึกษาระดับปริญญาตรี คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยราชภัฏเพชรบุรี ได้จากการสุ่มอย่างง่าย (Simple Random Sampling) ที่ลงทะเบียนเรียนวิชาการจัดการเรียนรู้คอมพิวเตอร์ วิชาหลักการเขียนโปรแกรมเชิงวัตถุ รวมจำนวน 125 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย คือ แบบบันทึกข้อมูลการสร้างนวัตกรรม และแบบประเมินความคิดเห็น ผลการวิจัย พบว่า (1) กรอบแนวคิดรูปแบบการเรียนรู้ด้วยทฤษฎีการเรียนรู้แบบการสร้างความรู้นิยมและการเชื่อมโยงความรู้เพื่อการสร้างนวัตกรรมแบบประสบการณ์จริง ประกอบด้วย 3 องค์ประกอบ ดังนี้ ทฤษฎีการเรียนรู้แบบสร้างความรู้นิยม (Constructivism) ทฤษฎีการเรียนรู้แบบเชื่อมโยง (Connectivism) และ นวัตกรรมแบบประสบการณ์จริง (Innovation in the Real World) โดยรูปแบบการเรียนรู้ที่พัฒนาขึ้นนี้มีชื่อ ว่า “C2I Model” (2) ผลการพัฒนารูปแบบการเรียนรู้ด้วยทฤษฎีการเรียนรู้แบบการสร้างความรู้นิยมและการเชื่อมโยงความรู้เพื่อการสร้างนวัตกรรมแบบประสบการณ์จริง มีผลการประเมินความเหมาะสมของรูปแบบโดยรวมอยู่ในระดับมาก ( = 4.43, S.D = 0.42) และความเหมาะสมของขั้นตอนการเรียนรู้มีความเหมาะสมอยู่ในระดับมาก (3) ผลการใช้รูปแบบการเรียนรู้ด้วยทฤษฎีการเรียนรู้แบบการสร้างความรู้นิยมและการเชื่อมโยงความรู้เพื่อการสร้างนวัตกรรมแบบประสบการณ์จริง ที่พัฒนาขึ้น พบว่า สรุปผลการประเมินโดยรวมมีระดับความพึงพอใจอยู่ในเกณฑ์มาก (
= 4.27, S.D = 0.41) และจากผลการวิเคราะห์ความแตกต่างระหว่างรายวิชาด้วยสถิติการทดสอบ t-Test พบว่า ไม่แตกต่างกันถึงแม้กลุ่มหมวดประเภทวิชาจะแตกต่างกัน จากผลจากวิจัยแสดงให้เห็นว่ารูปแบบการเรียนรู้แบบ C2I Model เป็นรูปแบบการเรียนรู้ที่ส่งเสริมการผลิตนวัตกรรมแบบประสบการณ์จริงได้และสามารถนำไปใช้ได้กับทุกวิชา
Article Details
เอกสารอ้างอิง
Schmidt, R., Möhring, M., Härting, R. C., Reichstein, C., Neumaier, P., & Jozinović, P. (2015, June). Industry 4.0-potentials for creating smart products: empirical research results. In International Conference on Business Information Systems (pp. 16-27). Springer International Publishing.
Siemens, G. (2005). Connectivism: A learning theory for the digital age,” In International of Instructional Technology and Distance Learning. 2(1) : 3-10.
ไพฑูรย์ สินลารัตน์ (2558) ปรัชญาการศึกษาเชิงสร้างสรรค์และผลิตภาพ. จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กรุงเทพฯ
ณมน จีรังสุวรรณ. (2558). หลักการออกแบบและประเมิน. กรุงเทพฯ: ศูนย์ผลิตตำราเรียนมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ
ดร.เกียรติอนันต์ ล้วนแก้ว (2559). เมื่อ Thailand 4.0 ถูกขับเคลื่อนด้วย Education2.0. วารสารสานปัญญา ฉบับที่ 26
ดร.สุวิทย์ เมษินทรีย์. [ออนไลน์]. แนวคิดเกี่ยวกับประเทศไทย 4.0 . [สืบค้นเมื่อ 28 สิงหาคม 2559]. เว็บไซต์https://planning2.mju.ac.th/goverment/20111119104835_planning/Doc_25590823143652_358135.pdf
บุปผชาติ ทัฬหิกรณ์. (2555). รายงานการวิจัย เรื่อง การพัฒนาคุณลักษณะผู้เรียนยุคใหม่เพื่อรองรับการปฏิรูปการศึกษาในทศวรรษที่สอง ด้วยการบูรณาการไอซีทีในการจัดการเรียนรู้ด้วยโครงการ.กรุงเทพมหานคร : สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา กระทรวงศึกษาธิการ.
วาสนา สังข์พุ่ม. (2554). “รูปแบบการจัดการเรียนการสอนตามแนวทฤษฎีเชื่อมโยงนิยม” วารสารการอาชีวะและเทคนิคศึกษา. 1 (2) กรกฎาคม-ธันวาคม 2554
สนิท สิทธิ. (2557). รูปแบบการสอนผ่านเว็บตามทฤษฎการเรียนรู้คอนเน็ตติวิซึมเพื่อการสร้างเสริมทักษะการแก้ปัญหาด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารสำหรับนักศึกษาระดับอุดมศึกษา. ศึกษาศาสตรดุษฎีบัณฑิต สาขาเทคโนโลยีการศึกษา มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์.
สำนักวิชาการ สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฏร [ออนไลน์] ประเทศไทย 4.0 เอกสารวิชาการ [สืบค้นเมื่อ 28 สิงหาคม 2559] จาก https://www.parliament.go.th/library
อมรา อิทธิพ.ษ์ (2556) อิทธิพลของสื่อการสอนแบบ Cyber Lab ที่มีผลต่อมโนทัศน์ที่เปลี่ยนไปของการ เรียนรู้จากการใช้เครื่องมือปฏิบัติการทางฟิสิกส์: กรณีศึกษาสำหรับนักศึกษาที่ ลงทะเบียนเรียนวิชาปฏิบัติการฟิสิกส์พื้นฐาน คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยราชภัฎสวนสุนันทา. รายงานวิจัยมหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี